30 ก.ค. เวลา 13:32 • ประวัติศาสตร์

เล่าประวัติกัมพูชา ยุคใหม่ แบบย่อสุดๆ ตอนที่ 3

กลับมาที่คำถามว่า เวียดนามซึ่งเป็นคอมมิวนิสต์เหมือนกัน บุกกัมพูชาทำไม ? และทหารเขมรอย่าง เฮง สัมริน และฮุน เซ็น มากับกองทัพเวียดนามได้อย่างไร
คำตอบของคำถามแรกก่อน
เดิมทีเดียวเขมรแดงสมัยยังเป็นกองโจรกับเวียดนามถือว่าเป็นพันธมิตรกันเพราะช่วยกันรบกับอเมริกา แต่เมื่อพล พต ยึดกัมพูชาได้ เขาก็เปลี่ยนสถานะเป็นผู้นำของกัมพูชา และแต่ไหนแต่ไร กัมพูชากับเวียดนามก็มีปัญหาชายแดนกันมาตลอด พล พต จึงไม่สามารถญาติดีกับเวียดนามได้ คือ ไม่อยากให้ดูว่าอ่อนแอกว่า
2
ด้วยเหตุนี้ พล พต จึงใช้ความก้าวร้าวเพื่อแสดงความเข้มแข็งเช่น บุกโจมตีหมู่บ้านชายแดนและเข่นฆ่าชาวเวียดนามอยู่เรื่อยๆ และไม่ใช่ฆ่าแค่คนสองคน แต่บางครั้งฆ่าพลเรือนเป็นร้อยเป็นพันคน
1
อีกประโยชน์ที่พล พต ได้จากการหาเรื่องเวียดนามคือ เขาเชื่อว่าการสร้างศัตรูภายนอก โดยเฉพาะเวียดนามซึ่งเป็นคู่แค้นเก่า จะช่วยให้เขาควบคุมภายในประเทศได้ดียิ่งขึ้น สามารถปลุกกระแส ชาตินิยม ได้ง่าย และความกลัวศตรูจะทำให้ประชาชนสนับสนุนเขมรแดงมากขึ้น
1
อีกปัจจัยที่สำคัญคือ เวียดนามมีลูกพี่สหภาพโซเวียต การที่เขมรขัดแย้งกับเวียดนาม ก็จะทำให้จีนอยากมาสนับสนุนกัมพูชาในฐานะลูกพี่บ้าง เพราะจีนกับโซเวียตก็เขม่นกันอยู่ว่าใครจะเป็นเบอร์หนึ่งในโลกคอมมิวนิสต์
7
พอเจอแบบนี้เยอะๆ เวียดนามก็ไม่ทนอีกต่อไป เลยนำกองทัพบุกกัมพูชา โดยอ้างความชอบธรรมว่า เพราะพวกเขมรแดงมันโหดร้านเข่นฆ่าผู้คนทั้งชาวกัมพูชา ทั้งชาวบ้านเวียดนามไปมากมาย
2
แล้วด้วยความที่มีประสบการณ์ในการรบมากกว่า อาวุธยุโธปกรณ์เหนือกว่า และมีเขมรแดงแปรพักตร์บางส่วนเขาร่วม ทำให้ไม่ถึงเดือนเวียดนามก็บุกยึดกรุงพนมเปญได้
3
แล้วก็มาถึงคำถามว่า ทำไมเขมรแดงบางส่วนซึ่งรวมฮุน เซ็น ด้วย จึงหักหลังพล พต แล้วไปเข้ากับเขมรแดง ?
1
คำตอบสั้นๆคือ เสร็จนาฆ่าโคทึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล
2
หลังจากที่พล พต กำจัดศตรูภายนอกหมดและขึ้นมามีอำนาจ ก็เริ่มไม่ไว้ใจพวกเดียวกันเอง แล้วก็เริ่มกล่าวหาว่า คนนั้นทรยศ คนนี้เอาใจออกห่าง คนโน้นเห็นต่าง แล้วก็จับเหล่าผู้นำเขมรแดงไปขังคุก ทรมานให้รับสารภาพ และฆ่าทิ้งไปมากมาย คล้ายๆ กับ The great purge ที่เกิดขึ้นตอนที่สตาลินฆ่าพรรคพวกของตัวเอง
8
ช่วงเวลานั้นนายทหารหนุ่มวัย 26 ปีชื่อ ฮุน เซน ก็เป็นอีกคนที่อ่านเกมออกเพราะทำสงครามมาตั้งแต่อายุ 18 และได้ขึ้นเป็นผู้บังคับบัญชากองพันตั้งแต่อายุน้อย ก็เลือกที่จะหนีกัมพูชาไปพร้อมๆ กับ ลูกพี่ที่ชื่อ เฮง สัมริน เพื่อไปเข้ากับเขมรแดง แล้วร่วมนำทัพกลับมาตีกัมพูชาในเวลาต่อมา
2
หลังจากเวียดนามยึดกัมพูชาได้ ก็สนับสนุนให้มีการตั้งรัฐบาลขึ้นมาใหม่ โดยมีเฮง สัมรินเป็นผู้นำ และมีฮุน เซนรับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ
กลับมาที่พระนโรดม สีหนุ ที่เดิมถูกกักบริเวณ เมื่อเขมรแดงยึดพนมเปญได้ ก็มีคนพาหลบหนีออกไปนอกประเทศ แล้วพระองค์ก็ออกตัวชัดเจนว่าไม่ยอมรับรัฐบาลใหม่ที่เวียดนามเป็นคนจัดตั้งขึ้น และร่วมมือกับกลุ่มที่ต่อต้านรัฐบาลเฮง สัมริน อีกหลายกลุ่ม เพื่อจะขับไล่คนกลุ่มนี้และอิทธิพลของเวียดนามออกจากกัมพูชา
2
เฮ้อออ...​ขอพักแป๊บ ระหว่างนี้ก็ลองทบทวนดูนะครับ ว่าใครสู้กับใครบ้าง
เริ่มจาก เขมรสู้ฝรั่งเศส ต่อด้วย เจ้าสีหนุสู้กับลอน นอลที่มีอเมริกาเป็นแบ็ค จากนั้นเขมรแดงก็มาล้มลอน นอล ไม่กี่ปีต่อมา เวียดนาม เฮง สัมริน และฮุน เซน ก็มาล้มเขมรแดง ถึงตรงนี้ เฮงและฮุน ก็จะต่อกรกับเจ้าสีหนุต่อ
5
ระหว่างนั้นประชาชนหลายล้านคนในประเทศซึ่งเป็นตัวประกอบให้เรื่องสนุกขึ้น ก็โดนฝ่ายนั้นฆ่าที ฝ่ายนี้ฆ่าที ปิดหู ปิดตาไปเรื่อยๆ
8
อ่ะ มาต่อกัน
ช่วงเวลานี้สีหนุก็เดินสายในต่างประเทศ ให้ประชาคมโลกเข้ามาช่วยประนามรัฐบาลหุ่นเชิดของเวียดนาม ส่วน ฮุน เซน ด้วยความที่เก่งทั้งบุ๋นและบู๊ แถมประสบการณ์เขี้ยวลากดินก็ผลักดันจนตัวเองได้เป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศตั้งแต่อายุได้แค่ 32 ปี
ส่วนเวียดนามเองก็โดนชาวโลกกดดันหนัก โดยคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และการฑูต แล้วเวียดนามก็ดูแลกองทัพของตัวเองในกัมพูชาไม่ไหว หลังจากพยายามอยู่ประมาณสิบปี สุดท้ายก็ต้องปล่อยกัมพูชาไป ถอนทหารออกทั้งหมด แล้วหันไปพัฒนาประเทศตัวเอง เปิดประเทศ และกลับไปคืนดีกับนานาชาติ จนเจริญรุ่งเรืองมาถึงทุกวันนี้
2
แต่ภายในกัมพูชา ก็ยังแย่งอำนาจกันต่อ แต่เมื่อมีนานาชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง เลยต้องใช้วิธีเจรจากันหลายครั้ง จนสุดท้ายเจ้าสีหนุกับฮุน เซน ก็ไปเจอกันที่ปารีส แล้วจบด้วยการลงนามสันติภาพ แล้วตกลงว่าจะจบปัญหาด้วยการเลือกตั้งใหญ่ทั่วประเทศ
1
เมื่อตกลงกันได้ พระนโรดม สีหนุ ก็เสด็จกลับเข้าประเทศในเดือน พฤศจิกายน ปีค.ศ. 1991 โดยมีประชาชนมารอต้อนรับกันมากมายมหาศาล แต่คราวนี้พระองค์ไม่ได้ลงมาเล่นการเมืองด้วยตัวเอง แต่ให้พระโอรสคือ เจ้ารณฤทธิ์ ลงมาแข่งในนามหัวหน้าพรรค ฟุนซินเพค หรือ พรรคนิยมกษัตริย์
แม้ว่าก่อนเลือกตั้ง ฮุน เซนจะใช้วิธีข่มขู่คู่แข่ง ใช้อำนาจรัฐแอบๆ ขู่ไม่ให้ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร เลือกฝั่งตรงข้าม แต่ผลปรากฎว่าพรรคของเจ้ารณฤทธิ์ก็ยังชนะไปได้ แม้ว่าจะไม่ขาดลอยก็ตาม
การเลือกตั้งในครั้งนั้น ประชาชนชาวกัมพูชาตื่นเต้นและมีความหวังกันมาก ถึงขนาดว่ามีคนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 90%
1
ยังไงก็แล้ว เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาแล้วแพ้ ฮุน เซน ก็บอกว่า ผมไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งนี้
3
ผมไม่ได้โม้นะครับ เรื่องจริง เล่นกันง่ายๆ แบบนั้นเลย ประชาชนได้แต่ยืนงงว่า อ้าว แล้วที่จัดเลือกตั้งกันเอิกเกริก มีนานาชาติมาช่วยดูแล มันคืออะไร เท่านั้นไม่พอ ฮุน เซนยังขู่จะแยกประเทศอีก สุดท้ายเลยต้องจบด้วยการมีนายกรัฐมนตรีสองคน คือ
เจ้ารณฤทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง เป็นนายกที่มาจากการเลือกตั้ง ส่วนฮุน เซน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่สอง เป็นนายกที่คุมกองทัพและราชการต่างๆ
3
มาทรงนี้แล้วที่เหลือก็เดาต่อได้ไม่ยากใช่ไหมครับ
ใช่ครับ 4 ปีถัดมาฮุน เซนก็ใช้กำลังทหารยึดอำนาจ ปลดเจ้ารณฤทธิ์ และรวบอำนาจทั้งหมดไว้เบ็ดเสร็จ แล้วก็ปกครองแบบกึ่งเผด็จการมาตลอด
จนถึงวันนี้ที่เรารู้ๆ กัน
2
เป็นอันว่า ขอจบประวัติกัมพูชายุคปัจจุบันฉบับเร่งด่วนไว้ตรงนี้เลยนะครับ แล้วก็หวังว่าจะทำให้เข้าใจประเทศที่เรากำลังมีเรื่องด้วยมากขึ้นนะครับ ว่าเขามีที่มาที่ไปยังไงบ้าง
3
โฆษณา