Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
TP PODCAST วิทยุรัฐสภา
•
ติดตาม
31 ก.ค. เวลา 04:48 • ข่าว
กมธ.พาณิชย์ฯ ชงรัฐบาลปฏิรูปเงินวัด-พระ ทะลุล้านล้าน จี้แยกบัญชีโปร่งใส-ผุด ‘แบงก์พุทธ’ สกัดฉาว
หวั่น "2ส." สตรี-สตางค์ ทำศาสนาเสื่อม จี้คุมเข้มประวัติก่อนบวช สกัดอาชญากรแฝงตัวในผ้าเหลือง
คณะกรรมาธิการการพาณิชย์ฯ วุฒิสภา เข้าทำเนียบฯ ยื่นข้อเสนอถึงรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ขอผ่าตัดใหญ่ระบบการเงินวัดและพระสงฆ์ หลังพบตัวเลขเงินสะพัดในระบบกว่า 1 ล้านล้านบาท แต่ขาดการตรวจสอบเสี่ยงรั่วไหล จี้ออกมาตรการ "1 วัด 1 บัญชี" ดึงเงินเข้าสู่ระบบผ่านแอปพลิเคชัน "ธนาคารพระพุทธศาสนา" ภายใต้ธนาคารรัฐ พร้อมคุมเข้มประวัติ-สุขภาพก่อนบวช หวังแก้ปัญหาสังคมและสกัดมิจฉาชีพแฝงตัวทำลายศรัทธา
เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล คณะกรรมาธิการการพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา นำโดย ดร.เอกชัย เรืองรัตน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยนายสหพันธ์ รุ่งโรจน์พณิชย์ และนายปิยพัฒน์ สุภาวรรณ ที่ปรึกษาฯ ได้เข้าพบ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและยื่นข้อเสนอเร่งด่วนในประเด็น "การแยกทรัพย์สินวัดกับทรัพย์สินพระสงฆ์อย่างเป็นระบบ และการส่งเสริมให้วัดเป็นต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง"
ดร.เอกชัย ได้นำเสนอข้อมูลที่น่าตกใจ โดยอ้างอิงผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ที่พบว่า ปัจจุบันวัดทั่วประเทศกว่า 44,000 แห่ง มีบัญชีเงินฝากในชื่อวัดรวมกันสูงถึง 410,000 ล้านบาท แต่กลับมีเพียง 39,000 บัญชีเท่านั้น สะท้อนว่ามีวัดราว 5,000 แห่งไม่มีบัญชีเป็นของตัวเอง
นอกจากนี้ ยังพบว่าเงินบริจาคจำนวนมากไหลเข้าสู่บัญชีส่วนตัวของพระสงฆ์ ซึ่งเมื่อประเมินรวมกันแล้วคาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบที่เกี่ยวข้องกับวัดและพระสงฆ์สูงเกิน 1 ล้านล้านบาท แต่กลับอยู่นอกระบบการตรวจสอบของธนาคารแห่งประเทศไทย
คณะกรรมาธิการฯ ได้ชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่กัดกร่อนพระพุทธศาสนาหลายประการ อันมีต้นตอจากความมั่งคั่งที่ขาดการบริหารจัดการอย่างโปร่งใส อาทิ
ปัญหา "2 ส" (สตรีและสตางค์) เงินและสีกาเป็นสาเหตุหลักของข่าวฉาวที่ทำลายศรัทธา การปฏิรูปการเงินจะช่วยให้พระสงฆ์จับต้องเงินน้อยลง
การใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์ การนำเงินทำบุญไปใช้ส่วนตัว เล่นการพนัน หรือเลี้ยงดูสตรี ซึ่งตามกฎหมายถือเป็นรายได้ส่วนบุคคลที่ต้องเสียภาษี
การซื้อขายสมณศักดิ์ สร้างวงจรอุบาทว์ทางการเงินในหมู่สงฆ์
อาชญากรในคราบผ้าเหลือง มีการร้องเรียนจำนวนมากว่าผู้มีคดีติดตัว หรือแม้แต่อาชญากรหนีคดีมาบวชเพื่ออาศัยศาสนาเป็นที่พักพิง โดยขาดกระบวนการตรวจสอบประวัติที่เข้มงวด
ปัญหาทรัพย์สินมหาศาล วัดหลายแห่งโดยเฉพาะในเมืองใหญ่มีที่ดินมูลค่าสูง แต่รายได้กลับไม่มีการบริหารอย่างโปร่งใส
เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเป็นรูปธรรม คณะกรรมาธิการฯ ได้เสนอแนวทางแก้ไขที่สำคัญ ดังนี้
1. รวมศูนย์เงินบริจาค:** เสนอให้เงินบริจาคทั้งหมดเข้าสู่ระบบธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ เช่น ธนาคารออมสิน, ธ.ก.ส. ผ่านแอปพลิเคชันที่มีอยู่แล้วอย่าง "เป๋าตัง" หรือ "ทางรัฐ"
2. พัฒนาแอปพลิเคชัน "ธนาคารพระพุทธศาสนา":** ไม่ใช่การตั้งธนาคารใหม่ แต่เป็นการเปิดหน่วยงานย่อยภายใต้ธนาคารรัฐที่มีศักยภาพ เพื่อบริหารจัดการเงินบริจาคให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ และสามารถนำเงินไปปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ผู้ประกอบการรายย่อย (SMEs) เพื่อให้ศาสนาได้ช่วยเหลือขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
3. วางกฎเหล็กคุมบัญชี กำหนดนโยบาย "1 วัด : 1 บัญชี" และ "1 พระ : 1 บัญชี" โดยบัญชีของวัดต้องมีระบบการอนุมัติเบิกจ่ายที่รัดกุม เช่น ต้องผ่านการลงนามจากพระ 2 รูป และไวยาวัจกร
4. คุมเข้มคุณสมบัติก่อนบวช ต้องมีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมและตรวจสุขภาพอย่างละเอียดก่อนอนุญาตให้ทำการอุปสมบท
ทั้งนี้ นายสุชาติ ตันเจริญ ได้รับฟังข้อเสนอแนะทั้งหมดด้วยความสนใจ โดยทางคณะกรรมาธิการฯ จะดำเนินการรวบรวมความคิดเห็นและข้อเสนอดังกล่าวอย่างเป็นทางการ เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมาธิการการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ถือเป็นก้าวสำคัญในการปฏิรูปวงการสงฆ์ให้กลับมาเป็นที่พึ่งทางใจของสังคมได้อย่างสง่างามและโปร่งใส
อย่าลืมติดตาม ข่าวสารฝ่ายนิติบัญญัติและความเคลื่อนไหวแวดวงการเมือง ได้ทางวิทยุรัฐสภา ได้ทางแอปพลิเคชัน TPchannel
https://ott.tpchannel.org/app/home/dashboard
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย