31 ก.ค. เวลา 04:51 • ประวัติศาสตร์

สมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง

สมเด็จพระราชาธิบดีโบดวง พระราชสมภพเมื่อวันที่ 7 กันยายน ค.ศ. 1930 ณ กรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม เป็นพระราชโอรสพระองค์ใหญ่ของเจ้าชายเลออปอล ดยุกแห่งบราบันต์กับเจ้าหญิงอัสตริดแห่งสวีเดน และพระราชบิดาเสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์ใน ค.ศ. 1934 ต่อมามาพระราชมารดาเสด็จสวรรคตใน ค.ศ. 1935
ส่วนหนึ่งของความไม่พึงพอใจของประชาชนต่อพระเจ้าเลออปอลที่ 3 นั้นมาจากการอภิเษกสมรสครั้งที่สองของพระองค์ในปีค.ศ. 1941 กับมารี ลิเลียน เบลส์ สามัญชนชาวเบลเยียมที่โตในประเทศอังกฤษ ซึ่งต่อมาได้ออกพระนามเป็น "เจ้าหญิงแห่งเรตี"(Princess de Réthy) และนอกจากนี้ยังมีมูลเหตุสำคัญคือการตัดสินพระทัยยอมแพ้แก่กองทัพเยอรมันในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
เมื่อประเทศเบลเยียมถูกรุกรานใน ค.ศ. 1940 ทำให้เกิดข้อสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์ว่าทรงเลือกข้างเข้ากับฝ่ายเยอรมัน แต่อย่างไรก็ตามคณะกรรมการสอบสวนได้โต้แย้งการกล่าวหาพระองค์ในข้อหาว่าเป็นกบฏต่อราชอาณาจักรในภายหลังสงคราม ถึงแม้จะมีการลงเสียงประชามติสนับสนุนพระองค์ให้ยังคงเป็นพระมหากษัตริย์ต่อไป แต่ก็ทรงเลือกที่จะสละราชสมบัติเพื่อยุติสถานการณ์ความวุ่นวายทั้งหมดลง
พระเจ้าเลออปอลที่ 3 ได้ทรงออกพระราชบัญญัติผ่านทางรัฐสภาเพื่อที่จะถ่ายโอนพระราชอำนาจของพระองค์ให้แก่พระราชโอรสพระองค์ใหญ่ ได้แก่ เจ้าชายโบดวง ซึ่งได้ทรงสาบานพระองค์ต่อหน้ารัฐสภาในฐานะ "สมเด็จพระราชกุมาร"(Prince Royal) เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ค.ศ. 1950 และต่อมาได้เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 5 แห่งชาวเบลเยียม หลังจากเข้าพิธีสาบานพระองค์ต่อหน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 1951 หนึ่งวันหลังจากการสละราชสมบัติของพระราชบิดา
พระองค์อภิเษกสมรสกับดอญญา ฟาบิโอลา เด โมรา อี อารากอน ทั้งสองพระองค์ไม่มีรัชทายาทด้วยกัน สมเด็จพระราชินีฟาบิโอลาเคยทรงครรภ์ถึงห้าครั้ง แต่ก็ทรงแท้งหมด
พระองค์ก็เสด็จสวรรคตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อ 31 กรกฎาคม ค.ศ. 1993 เนื่องจากพระองค์ไม่มีรัชทายาท พระอนุชาของพระองค์จึงได้ครองราชบัลลังก์ต่อจากพระองค์เป็นสมเด็จพระราชาธิบดีอัลแบร์ที่ 2 แห่งเบลเยียม พระองค์ยังทรงเป็นพระญาติสนิทกับสมเด็จพระราชาธิบดีฮารัลด์ที่ 5 แห่งนอร์เวย์, เจ้าหญิงอัสตริดแห่งนอร์เวย์ และเจ้าหญิงรัญฮิลด์แห่งนอร์เวย์
โฆษณา