Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สงคราม story
•
ติดตาม
31 ก.ค. เวลา 12:09 • การเมือง
แผ่นดินของเรา EP.6 (อวสาน)
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ก่อนที่จะไปอ่านนิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนขอให้ทุกท่านโปรดช่วยกดไลก์ กดติดตาม และกดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนในการทำนิยายหรือบทความต่อๆไป
ในนิยายสั้นชุดแผ่นดินของเราวันนี้ก็มาถึงตอนที่ 6 แล้ว เป็นตอนสุดท้ายของ Season แรก
ที่จริงผู้เขียนมีโครงการจะทำ Season 2 ต่อ จะให้ตัวละครมีความเชื่อมโยงกับภาคแรก บางตัวละครอาจถูกตัดออกไป เพื่อให้ตัวละครใหม่มีบทบาท
ส่วนเนื้อเรื่อง Season 2 จะมีอะไรแปลกใหม่ รอดูกันต่อไปนะครับ ว่าจะเป็นเหตุการณ์ใดต่อจากนี้ เนื้อเรื่องใหม่จะเป็นอย่างไร รอติดตามกันได้นะครับ
ในขณะที่กำลังบินกลับ F-16 ของพระรองไม่ทันได้สังเกตเห็นคุณพ่อของเขา เพราะเขาบินสูงมากและบินไวมาก ในหมู่บิน F-16 ผู้บังคับฝูงบินสั่งให้นักบินทุกนายระวังพายุฝนฟ้าคะนอง ในขณะที่เครื่องบินขับไล่ F-16 ทั้ง 8 เครื่องกำลังทำการบิน เมฆสีดำเคลื่อนเข้ามาบดบังทัศนวิสัยในการบิน ภาพท้องฟ้าสีครามกลายเป็นท้องฟ้าสีดำไปในทันทีทันใด สภาพอากาศวิปริตแปรปรวนไม่ต่างอะไรกับการปะทะชายแดนที่พวกเขาเผชิญหน้าก่อนหน้านี้
พายุร้ายแรงทำให้เครื่องบินรบจากฐานบินโคราชสั่นโคลงเคลงไปมา ถ้าขืนบินฝ่าแบบนี้อาจมีเครื่องตกแน่นอน ใน F-16 ที่ขับโดยพระรองผู้เป็นนักบินรุ่นราวคราวเดียวกับพระเอก เขาพยายามประคองเครื่องสุดชีวิตท่ามกลางลมฝนท้าทายความกล้าของนกเหล็ก ไม่ว่าพายุนี้จะเป็นมนต์ดำเขมรหรือเกิดจากธรรมชาติ
นักบิน F-16 ไทยทุกนายใช้ความตั้งใจจะบินให้พ้นจากมัน โชคดีที่พวกเขาบินหลุดออกมาจากเมฆก้อนใหญ่เป็นผลสำเร็จ ในที่สุดท้องฟ้าสีครามก็ปรากฎเบื้องหน้านักบินไทยทุกนาย แสงจากดวงอาทิตย์สาดส่องกระทบปีกของเครื่องบินรบ เป็นสัญญาณว่าเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศไทยทุกเครื่องปลอดภัยพร้อมเดินทางกลับโคราช
ในที่สุดหน่วยของพระเอกก็เดินทางมาถึงปราสาทตาควาย การต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นสุดท้ายหรือไม่เดี๋ยวได้รู้กัน ในขณะที่การยิงปะทะเป็นไปอย่างดุเดือด ทหารไทยที่ตามมาสมทบเข้าจัดการทหารกัมพูชาในพื้นที่ใกล้ปราสาท ใครจะไปคิดว่าที่นี่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่นี่กลายเป็นสนามรบไปแล้ว
พระเอกใช้ปืน M16 ยิงแล้ววิ่งไปหลบหลังต้นไม้ จากนั้นก็ยิงปืนกลคู่ใจจัดการต่อไปท่ามกลางกระสุนที่สาดเข้ามาราวกับห่าฝน ทันใดนั้นเองผู้พันที่นำหน่วยมาตั้งแต่วันแรกกลับถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่เขายังฝืนสู้ต่อไปจนตัวตาย เมื่อพระเอกยิง M16 เสร็จเขาเปลี่ยนมาใช้ปืนพกสั้นยิงจัดการทหารกัมพูชานายหนึ่ง
จากนั้นเขากระโดดหลบระเบิดที่ทหารกัมพูชาขว้างมา แต่ไม่ทันจะหนีร่วงกายบนชุดลายพรางพร้อมรองเท้าคอมแบทที่หลบหนีระเบิด กลับไปตกใส่ทุ่นระเบิด "ตู้มๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ!" ทหารไทยที่กำลังปะทะถูกเบี่ยงเบนความสนใจ
จนใกล้จะเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ทหารกัมพูชาจึงใช้จังหวะนี้ยิงอาวุธหนักอาวุธเบาใส่ทหารไทย
โชคดีที่เพื่อนพระเอกที่เป็นตชด.นำกำลังมาเสริมทัพ พวกเขาใช้ปืนกลและอาวุธนานาชนิดตอบโต้กับกองกำลังผู้รุกราน เมื่อทหารข้าศึกขว้างระเบิดมาตชด.ผู้เป็นเพื่อนได้กระโดดหลบระเบิดแล้วยิงปืน M16 แบบเดียวกับที่พระเอกใช้จัดการพวกมัน เขายิงมันต่อไปจนหมดนัด แล้วไปหยิบปืน M16 ของทหารไทยที่เสียชีวิตขึ้นมายิงตอบโต้เพื่อรักษาดินแดนไทย
แม้จะใกล้วันหยุดยิงเข้ามา ต่างฝ่ายต่างต่อสู้ไม่มีใครยอมใคร
"นายไหวไหม" เพื่อนถามพระเอกแต่เขากลับไม่ตื่น ร่างกายเขามีครบ 32 ประการก็จริง เขากลับสลบเพราะโดนฤทธิ์ของทุ่นระเบิดจัดการไปเมื่อกี้ เมื่อเป็นเช่นนี้เขาจึงหอบร่างพระเอกไปหลบหลังต้นไม้ใกล้ปราสาทตาควาย แล้ววิ่งไปต่อสู้กับพวกมัน เสียงปืนและเสียงระเบิดได้ยินไปไกลถึงนักข่าวที่กำลังทำข่าวใกล้พื้นที่ปะทะ
"ขณะนี้นะคะ จุดที่ดิฉันยืนอยู่ อยู่ไม่ห่างจากปราสาทตาควายนะคะ คุณผู้ชมทุกท่านจะเห็นว่าด้านหลังป่าไม้ที่ทุกท่านเห็นบนหน้าจอมีควันลอยขึ้น ขณะนี้ท่านนายอำเภอมาแล้ว อนุญาตสัมภาษณ์นะคะ" ท่านนายอำเภอสัมภาษณ์นักข่าวในเครื่องแบบชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.)
นักข่าวสาวถามท่านว่า "ท่านคะ ขณะนี้มีชาวบ้านยังหลงเหลือในพื้นที่ไหมคะ" ท่านตอบ "ไม่มีครับ ถ้ามีก็จะเป็นชรบ. เจ้าหน้าที่อส. ทหาร และตำรวจ เข้ามาในพื้นที่" "ท่านคิดว่าการปะทะนี้จะจบเมื่อไหร่คะ" ท่านตอบต่อไป "ยังไม่ทราบนะครับ ต้องรอข่าวจากทางการอีกที ในขณะที่สถานการณ์ยังไม่สงบ ผมขอให้ทุกท่านอย่าตื่นตระหนกกับสถานการณ์ช่วงนี้ ขอให้ทุกท่านเสพสื่ออย่างมีสติ ไม่กลงเชื่อเฟคนิวส์ตามที่ท่านรองผู้บัญชาการทหารบกให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ครับ"
นักข่าวสาวยิงคำถามต่อ "ได้ข่าวว่ามีการส่งคนมาสอดแนมด้วย ท่านคิดว่าจะมีการโจมตีด้วย BM-21 หรือปืนใหญ่จากการที่พวกเขามาชี้เป้าไหมคะ" ท่านนายอำเภอตอบ "ครับ พวกเขามาทุกวันอยู่แล้ว ส่วนมากจะแฝงตัวมากับชาวบ้าน
จนเราไม่รู้ว่าใครเป็นใคร จึงได้ต้องมีการเฝ้าระวังสอดส่องว่าใครมาสอดแนมใครเป็นชาวบ้านแบบที่เราทำกันทุกวันนี้ครับ"
วันต่อมาพระรองขึ้นบินอีกครั้งบัดนี้เขาอยู่ในห้องนักบิน F-16 เช่นเคย F-16 บินผ่านก้อนเมฆสีขาวและป่าไม้อันงดงามที่ห่างจากเครื่องบินรบของกองทัพอากาศไทยหลายฟุต
ในช่วงบ่ายตะวันใกล้จะอำลาขอบฟ้านักบิน F-16 ทั้ง 2 นายคุยกัน "ฉันคิดถึงแฟนฉันไม่รู้ว่ากลับไปจะได้อยู่ด้วยกันไหม" นักบิน F-16 อีกนายตอบ "เข้าใจนะว่านายคิดถึงเธออยู่" "ถ้าฉันเป็นนาย ฉันคงจะคิดถึงเธอแทบแย่" พระรองพูดผ่านวิทยุแซวเพื่อนนักบิน F-16 "ก็นายยังโสดนี่ จะไปมีแฟนได้ยังไง"
"ใช่แล้ว ฉันมันทหารอากาศขาดรัก" นักบินหนุ่มตอบโต้กันไปมาจนกระทั่งเวลาแห่งความตึงเครียดก็มาเยือนพวกเขา "ฉันว่าเราตายแน่ๆ" นักบินอีกนายพูด "นายอย่ากังวล จรวดแซมฉันคิดว่าทหารรบพิเศษเราจัดการได้" พระรองพูดอย่างมีความหวัง
เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง บินเข้ามาถึงบริเวณปราสาทตาควายโดยมีแสงสีส้มจากดวงอาทิตย์ส่องมากระทบโดนลำตัวเครื่องบินทั้ง 2 เครื่อง ''ฟ้าๆๆๆๆๆๆๆ บู้มๆๆๆๆๆๆๆ!" พวกเขาหย่อนไข่เหล็กจากใต้ปีกลงมาเพื่อตัดเส้นทางกำลังสนับสนุนและบริเวณตั้งปืนใหญ่ ที่ฝ่ายกัมพูชาใช้ยิงสนับสนุนที่ปราสาทตาควาย
ในขณะที่ทหารกัมพูชาบางนายวิ่งหนี มีทหารนายหนึ่งยิงจรวดประทับบ่า (MANPADS) ใส่ F-16 จำนวน 2 นัด "ฉันว่ามันเอาจริงแล้ว" นักบินอีกนายพูดกับตัวเอง
จากนั้นก็ปล่อยแฟลร์เพื่อเปลี่ยนทิศทางจรวดไม่ให้ชนเครื่องบินของเขา ส่วนเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่มีพระรองทำการบินเจอจรวดแซมไล่ติดตาม 2 ลูก เขาดึงเครื่องขึ้นฝ่าก้อนเมฆราวกับว่าเป็นจรวดจะไปนอกโลก ทันใดนั้นเองเขาก็ไปล่อยแฟลร์ตามเพื่อนของเขา แล้วบินตีโค้งลดระดับลงมาบินโฉบเหนือปราสาทตาควายทำให้ทหารกัมพูชาที่ต่อสู้กับทหารไทยหวาดกลัวและวิ่งหนีแตกกระเจิง ทิ้งอาวุธปืนไว้ดูต่างหน้า
ภารกิจนี้จึงประสบความสำเร็จ พวกเขาคุยกันก่อนจะกลับฐานบินที่โคราชด้วยความปลอดภัย "เรารอดตายแล้ว" พระรองพูดด้วยน้ำเสียงโล่งใจแล้วถอนหายใจผ่านหน้ากากอ๊อกซิเจนที่ติดกับหมวกบิน "ฉันขอบใจนายมาก ที่นายร่วมบินกับฉันมาตลอด" เพื่อนพระรองพูด "นายกลับจากภารกิจนี้จะไปทำะไร" เขาถามเพื่อนที่บินมาด้วย "ฉันก็ต้องกลับไปหาคนรักของฉัน ฉันคิดถึงเธอมาก" "ฉันอิจฉานายจริงๆ ไอ้เพื่อนรัก" สิ้นสุดเสียงพูดคุยนักบินไทยขับ F-16 ไปโคราชท่ามแสงดาวส่องประกายเหนือหัวพวกเขา
เพื่อนพระเอกที่เป็นนักบิน F-16 มาเยี่ยมพระเอกที่โรงพยาบาลพระมงกุฏฯ 3 วันหลังการปะทะนางเอกก็ตามมาสมทบด้วย
เขาไม่ได้เป็นอะไรมากเพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาชีวิตเขาไว้
เมื่อหายดีแล้วพระเอกไปร่วมกำลังพลที่เสียชีวิตจากการปกป้องอธิปไตย จากเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขบวนศพได้เคลื่อนย้ายออกจากโรงพยาบาลกันทรลักษณ์ไปประกอบพิธีทางศาสนา และ พระราชทานเพลิงศพ เธอเห็นน้ำตาไหลออกมาเบาๆจากชายในเครื่องแบบลายพราง พระเอกไม่ได้ร้องไห้ เขาภาคภูมิใจที่ทหารไทยยอมรักษาดินแดนไทยจนวินาทีสุดท้าย
ทันใดนั้นเองเขาก็ได้วันทยาหัตถ์พร้อมทหารทุกนายส่งทหารที่เขารู้จักและไม่รู้จักไปสู่สุคติ
"พวกเขาไปแล้วนะ ส่วนคุณควรจะทำหน้าที่ต่อไป" นางเอกพูด "ตั้งแต่เกิดมาผมไม่เคยเห็นความเสียใจปรากฎในเครื่องแบบแบบนี้มาก่อน"
ทั้งสองคนคุยกันที่มณฑลทหารบกที่ 25 จังหวัดสุรินทร์ "ฉันว่าเหตุการณ์มันผ่านไปแล้ว ถึงพวกเขาจะจากไปพวกเขาจะอยู่ในความทรงจำคุณเสมอ" นางเอกพูดปลอบใจ "ผมขอบคุณมาก ที่คุณคอยปลอบใจทหารราบนายนี้ ผมไม่ได้มีชีวิตเพื่อรบ ผมมีชีวิตอยู่เพื่อใช้เวลาร่วมกับคุณ" พอพระเอกพูดจบทั้ง 2 คนจึงกอดและจูบกันอย่าง Happy Ending หน้ากองบัญชาการ
(จบบริบูรณ์)
Credit ภาพประกอบนิยาย
มณฑลทหารบกที่ 25
ข่าวสด
ตำรวจตระเวนชายแดน
เรืออากาศตรีรัชต์ รัตนวิจารณ์
Thanawat P.
เรียบเรียงโดย : GRIPEN
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย