𝓐.💠 SoFi (SOFI) เกิด Volume Peak สูงสุดในรอบ 1.5 ปี
หนึ่งในหุ้นที่ติดลิสหุ้นนำตลาดต่อเนื่อง เกิดอะไรขึ้นบ้าง
————————————
💠 SOFI หุ้นนำตลาดกลุ่ม FinTech/Neobank
————————————
➤ SoFi เป็นหุ้น Growth ที่วิ่งบน Mega-trend ใหญ่อย่าง FinTech & Digital Banking ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตเร็วและขยายฐานลูกค้าต่อเนื่อง
➤ มี Ecosystem ด้วยโมเดล All-in-one เป็น "ธนาคารครบวงจร" ที่ให้บริการทั้งธนาคาร สินเชื่อ และการลงทุน ในแพลตฟอร์มเดียวจบ
➤ หนึ่งในไม่กี่ FinTech ที่มีใบอนุญาตธนาคารเต็มรูปแบบ (Bank Charter) สามารถใช้เงินฝากลูกค้าในการปล่อยสินเชื่อเองได้ต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่ง
➤ มีรายได้ Recurring จากแพลตฟอร์ม Galileo และ Technisys ที่ Bank และ FinTech เจ้าอื่นใช้งานด้วย
▾
——— 💠 Q2/2025 | เติบโตชัดเจนทุกมิติ ———
————————————
💠 งบล่าสุดเติบโตเหนือคาดการณ์
————————————
➤ ไตรมาส 2 ปี 2025 รายได้โตแรงถึง 44% YoY
➤ กำไรสุทธิ GAAP เติบโตสูงสุด +459% YoY
➤ Adjusted EBITDA พุ่งถึง 81% YoY
————————————
💠 ฐานลูกค้าขยายเร็วเกินคาด
————————————
➤ สมาชิกใหม่เพิ่มกว่า 850,000 รายในไตรมาสเดียว ดันฐานลูกค้าแตะระดับ 11.7 ล้านราย (+34% YoY)
สินเชื่อปล่อยเพิ่มเป็น 8.8 พันล้านดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์
▾
——— 💠 29/07/2025 | Volume Peak ———
แท่ง Volume Peak ในรอบ 1.5 ปีนี้ นี้เกิดจากแรงปะทะกันของนักลงทุน 3 กลุ่มหลัก
1️⃣ กลุ่มซื้อหนัก (Bullish) หลังงบออกดีกว่าคาด
➤ กลุ่มนี้เห็นการเติบโตชัดเจน (revenue +44%, net income พุ่งสูง) ทำให้เกิดความมั่นใจในการเติบโตระยะยาว
2️⃣ กลุ่มขายทำกำไร (Sell on Strength)
➤ นักลงทุนระยะสั้นที่ถือหุ้นมานาน ขายเพื่อทำกำไรจากการพุ่งขึ้นกว่า 19% ในวันเดียว และแนวต้านสำคัญเมื่อ 4 ปีก่อนที่ $25
3️⃣ กลุ่มขายเพราะการประกาศเพิ่มทุน (Dilution)
➤ การเพิ่มทุนรอบใหม่ $1.5B ด้วยราคาเสนอขายหุ้นที่ $20.85 (ต่ำกว่าราคา peak เล็กน้อย) ส่งผลให้เกิดแรงขายช่วงท้าย เพราะกังวลว่า Dilution ~6% จะทำให้ราคาหุ้นถูกกดในระยะสั้น
————————————
💠 การเพิ่มทุนล่าสุด
————————————
➤ จำนวนหุ้นเดิมก่อนเพิ่มทุน ประมาณ 1,105 ล้านหุ้น
➤ เพิ่มทุนจำนวน 71 ล้านหุ้น (Dilution ประมาณ 6.4%)
➤ ราคาขายหุ้นเพิ่มทุน $20.85 ต่ำกว่าราคาตลาดเล็กน้อย
➤ Market Cap หลังเพิ่มทุนแทบไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่ประมาณ $26.4B
————————————
💠 เพิ่มทุนมีประโยชน์ไหม ใช้ทำอะไรได้บ้าง
————————————
➤ เงินทุนใหม่ $1.5B ใช้ขยายพอร์ตสินเชื่อ (Loan Book) ช่วยเร่งการเติบโตในตลาดสินเชื่อที่กำลังเป็นขาขึ้น
➤ ลงทุนใน AI-risk models สำหรับ Galileo และ Technisys เพิ่มรายได้ Recurring และขยายฐานลูกค้า B2B ด้านเทคโนโลยี
➤ หากไม่เพิ่มทุน SOFI จะเติบโตช้ากว่าเดิม เนื่องจากถูกจำกัดเงินทุนและต้องใช้กำไรสะสมขยายธุรกิจ
▾
——— 💠 โอกาสการเติบโต ตัวฉุด และความเสี่ยง ———
➤ Base Case รักษาการโตแบบปกติที่ 25% ต่อปี → รายได้ถึง $6.6B ปี 2028
➤ Bull Case ถ้าธุรกิจขยายตัวแรงขึ้น รายได้อาจทะลุ $7.5B ภายใน 3 ปี และกำไรต่อหุ้นเข้าสู่ช่วงเติบโตสูงชัดเจน
➤ Bear Case หากเศรษฐกิจไม่เอื้อ คู่แข่งแกร่งขึ้น รายได้อาจโตต่ำกว่า 20% ต่อปี และมีโอกาสเพิ่มทุนอีกครั้ง
▾
—————— มุมมองเชิงกลยุทธ์ ——————
➤ Volume Peak ในรอบ 1.5 ปี มีเงินหมุนกว่า 5B ในวันเดียว บอกชัดเจนว่าความสนใจในหุ้นตัวนี้สูงมาก และมีการเปลี่ยนมือของนักลงทุนหลังจากงบออกและเพิ่มทุน ต้องติดตามต่อว่ากลุ่มส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนไปนี้จะยังเป็น Strength Holders ที่จะทำให้ Momentum หุ้นเติบโตต่อไปเลยไหม หรือความคาดหวังโดนใส่ไว้สูงเกินไปในแท่งนี้แล้ว
➤ ระยะยาว เงินทุนใหม่ $1.5B คือเชื้อเพลิงสำคัญที่ขยายรายได้เพิ่มได้อีกกว่า $1B ต่อปี ใน 2-3 ปีข้างหน้า เพดานรายได้ของ SOFI ยังมีโอกาสขยายตัวอีกมาก แต่ราคาหุ้นจะโตไปถึงไหน ขึ้นอยู่กับว่า SOFI จะสามารถเร่งสร้างรายได้จาก Galileo และคุมคุณภาพสินเชื่อได้ดีแค่ไหนนั่นเอง
▾
⚠️ —— Disclaimer
➤ เพื่อการศึกษาเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน 🙅
➤ การลงทุนมีความเสี่ยง ศึกษาข้อมูลและตัดสินใจด้วยตนเอง
➤ Sources | SEC Filings, investors.sofi, investing, businesswire, TradingView
▾
ART Kasidit
————————————————————————
📖 บันทึกความรู้ แนวคิด กลยุทธ์การคัดหุ้นเติบโต
#ArtKasidit #หุ้นนำตลาด #หุ้นเติบโต #หุ้นอเมริกา
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
