31 ก.ค. เวลา 13:36 • ความคิดเห็น
อายุ 0-9 ปี พ่อแม่ ครอบครัว สำคัญ คนที่สอนคุณกินข้าว คนที่สอนให้พูด ให้คิด คุณมาจากพื้นฐานครอบครัวแบบไหน รากเง้าของคุณก็เป็นแบบนั้น นี่คือ ก้นลึกของจิตใจ เวลาคนเราเติบโต อาจจะออกไปสู่โลกกว้าง แต่สุดท้ายแล้ว ก็จะย้อนกลับมาสู่รากเง้า ถิ่นฐาน บ้านเกิดของตนเองอยู่ดี
อายุ 10 ปี เป็นช่วงเด็กโต ก่อนเข้าสู่วัยรุ่น คุณควรจะช่วยเหลือตนเองเป็นทุกอย่าง กินข้าวเอง ล้างจานเอง ขี่จักรยานเป็น ว่ายน้ำเป็น และถ้ามีพรสวรรค์ คุณจะเริ่มเห็นตัวเองแล้ว ว่าคุณเก่งหรือชอบอะไร เช่น ร้องเพลง วาดรูป เล่นดนตรี กีฬา ช่วงนี้จะเริ่มรู้ตัว และถ้าพ่อแม่ส่งเสริม ก็คงเรียนพิเศษตั้งแต่ช่วงวัยประถม เช่น เริ่มเล่นเปียโน บัตเล่ย์ ว่ายน้ำ ถ้าทำเป็นอาชีพ ก็ต้องฝึกตั้งแต่ก่อน 10 ปีแล้ว
อายุ 20 ปี คุณเลยช่วงวัยรุ่นแล้ว และกำลังเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ คุณมักจะคิดว่าตนเองโตแล้ว คิดเองเป็นทุกอย่าง ฉลาด ทันสมัย ตามกระแสโลกทัน แต่สิ่งที่คุณอ่อนคือ ประสบการณ์ คุณเรียนมา คุณรู้ทุกอย่าง แต่คุณขาดความชำนาญและการแก้ปัญหาเชิงลึก ถ้าคุณยังเรียนหนังสืออยู่ แปลว่าคุณสามารถผ่านช่วงเวลาวัยรุ่นหัวร้อนมาได้ คุณมีความรับผิดชอบที่ดีกับตนเองระดับหนึ่ง อย่างน้อยคุณก็รักอนาคตตนเอง แต่ถ้าคุณไม่ได้เรียนหนังสือ แปลว่าชีวิตวัยรุ่นก็น่าจะบัดซบพอสมควร ถึงได้ออกจากระบบการศึกษา
อายุ 30 ปี ถือเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว คุณอาจมีหน้าที่การงานที่ บางคนมีแฟน บางคนแต่งงาน บางคนมีลูก แต่สมัยนี้ส่วนใหญ่โสด เพราะอยู่ระหว่างจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีความรับผิดชอบต่อครอบครัวดี หรือว่า ใช้ชีวิตลั้นลาให้คุ้มดี ปรนเปรอตนเองทุกอย่าง มีทุกอย่างที่ควรมี ทั้งรถ ทั้งบ้าน
วัยนี้กิเลสค่อนข้างชิ้นโต ไม่ใช่ซื้ออะไรจุ๊กจิ๊กแบบเด็กๆแล้ว เพราะมีเงิน อยากมีหน้าตา กระเป๋าหรู โทรศัพท์รุ่นใหม่ เที่ยวต่างประเทศ ใช้เงินค่อนข้างเกินตัว ผู้หญิงมักรู้สึกว่าใกล้ขึ้นคานแล้ว อยากมีแฟนแล้ว ถ้าหาเจอแปลว่าคุณไม่เลือกมาก แต่ถ้าหาไม่เจอ แปลว่าคุณยังมีเงื่อนไขสูงอยู่ แต่บางคนก็เริ่มหย่า หรือเลิกกับแฟน เป็นช่วงเปลี่ยนแฟนใหม่
อายุ 40 ปี คุณเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หน้าที่การงานมั่นคง ความรับผิดชอบสูง มีความเป็นมืออาชีพ ถ้าใครยังไม่เคยเปลี่ยนงาน คุณจะเริ่มเบื่อหน่ายงานที่ทำซ้ำซากมาเป็นสิบปี งานบางอย่างหลับตาทำได้เลย ทำมั่งไม่ทำมั่งก็ได้ รู้วิธีแก้ปัญหาทุกอย่าง แต่ถ้าเลื่อนระดับ ตำแหน่งสูงขึ้น ความรับผิดสูงก็เครียดหน่อยนะ ลูกก็โต ใช้เงิน จะลาออกก็ไม่ได้ ทะเลาะกันทั้งกับลูกและแฟน เริ่มเหม็นขี้หน้าถ้าอยู่กันมานาน
บางคนแต่งรอบ 2 หรือรอบ 3 บางคนก็กลับไปโสดอีกครั้ง ประสบการณ์ความรักสูง จนมองเป็นเรื่องธรรมดา ไม่แคร์หน้าตาเท่าไหร่แล้ว และถ้าใครพ่อแม่ยังไม่ตาย ก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายบานตะไท เพราะลูกโตก็ใช้เงิน พ่อแม่แก่ก็เข้าโรงพยาบาล มีแต่รายจ่าย จ่ายจนเครียด อย่าคิดว่างานมั่นคง ถ้าไม่เคยล้มตอนอายุ 35 คุณก็จะเจอการล้มครั้งใหญ่ตอนอายุ 40 หรือ 45 วิกฤตวัยกลางคนมักจะสาหัสเสมอ
อายุ 50 ปี คุณเริ่มเข้าใจโลก ปล่อยวาง ขี้เกียจและขยันตามงาน ถ้าสะสมมาดี ช่วงนี้ก็เริ่มสบาย แต่ถ้าชีวิตไม่ได้เก็บออม ช่วงนี้ก็ยังลำบากเหมือนเดิม คุณจะมีนัดหมอบ่อยขึ้น เพราะร่างกายเริ่มเสื่อมตามการใช้งาน โรคต่างๆแสดงผล ปวดหลัง นอนไม่หลับ ความดัน เบาหวาน รวมถึงมะเร็ง
แต่ถ้าตำแหน่งหน้าที่การงานคุณสูงขึ้น ตอนนี้ก็ระดับบริหาร วันๆประชุมกับประชุม มีแต่งานใช้สมอง ไม่ค่อยได้ใช้ร่างกาย น้ำหนักขึ้น แต่บางคนร่างพังไปแล้ว เกือบตาย ก็จะเป็นจุดเปลี่ยน บางคนเข้าสู่วงการวิ่งมาราธอน ก็ช่วงนี้แหละ หลังเฉียดตาย
โฆษณา