31 ก.ค. เวลา 15:47 • การเมือง

แผ่นดินของเรา Season 2 EP.1

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ก่อนที่จะไปอ่านนิยายสั้นเรื่องนี้ ผู้เขียนขอให้ทุกท่านโปรดช่วยกดไลก์ กดติดตาม และกดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนในการทำบทความหรือนิยายต่อๆไป
นี่คือแผ่นดินของเรา Season 2 ในภาคนี้ขออนุญาตเปิดเผยชื่อตัวละครในภาคที่แล้ว หากชื่อใดมีเจตนาทำให้ชื่อนามสกุลของบุคคลที่มีอยู่จริงเสื่อมเสียก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ เนื่องจากนี่เป็นนิยายไม่ได้มีเจตนาอื่นใดแอบแฝง สำหรับเนื้อหาในแผ่นดินของเรา Season 2 พระรองจะมีบทบาทเด่นมากขึ้น จากเดิมที่มีบทบาทไม่กี่ฉาก ใน 8 ตอนนี้จะมีเนื้อเรื่องใหม่เพิ่มเข้ามาโดยจะเพิ่มฉากที่พระเอกไปปราบยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนพระรองไปขับ F-16 ที่กองบิน 4 ตาคลี
พ.ศ.2578 มีชายวัย 36 ปีคนหนึ่ง ใส่เสื้อเเจ๊คเก็ตสีเขียวติดอาร์ม กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน และรองเท้าผ้าใบเดินมาพร้อมกับชาวฝรั่ง 4-5 คน
ชายคนนี้คือนักบิน F-16 ในความขัดแย้งชายแดนที่กล่าวถึงเมื่อ Season แรก
นาวาอากาศโทพิศาล เตชะอำพล นักบิน F-16 ที่บินโฉบปราสาทตาควายหลังการโจมตีทางอากาศต่อกัมพูชาเมื่อ 10 ปีก่อนมาเดินเที่ยวในเมืองโคราชร่วมกับนักบินต่างชาติในช่วงการฝึกผสมทางอากาศ Cope Tiger 2035
เขาและเพื่อนนักบินชาวต่างชาติมารับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง จนพบพระเอกโดยบังเอิญ "ว่าไง เจอนายอีกแล้ว" ร้อยโทพระเอก season แรกตอนนี้คือพันโทชาติไทย กิจมั่นคง นายทหารที่ประจำการอยู่ค่ายสุรนารี "นายจะย้ายจากโคราชไปเชียงรายเหรอ" เพื่อนที่เป็นนักบิน F-16 ถาม "ใช่ ฉันจะย้ายขึ้นเหนือ" เมื่อผู้พันชาติไทยตอบผู้ฝูงพิศาลถามต่อ
"น่าเสียดายนะ ที่จริงนายน่าจะอยู่ค่ายสุรนารีต่อ จะได้แบ่งปันประสบการณ์ที่นายเคยรบเมื่อ 10 ปีก่อน" "ศาล ที่นายพูดมามันก็ถูก แต่ฉันจำเป็นต้องไป ไม่ใช่เพราะท่านสั่งย้าย มันเป็นเพราะฉันขอท่านย้ายเองต่างหาก"
นักบิน F-16 ถามต่อ "นายจะไปประจำการที่ไหนเหรอ" ผู้พันเพื่อนซี้ตอบว่า "ฉันจะไปเชียงราย"
บนรถทัวร์เข้ากำลังครุ่นคิดถึงเรื่องในหัวที่ผ่านมา เขาจำวันแรกที่เขาไปรบในสมรภูมิชายแดนอีสานใต้ตอนนั้นได้จนถึงวันที่เขาไปโดนทุ่นระเบิดของทหารกัมพูชา ทำให้เขารู้สึกว่าเขามีคุณค่าที่มากในฐานะรั้วของชาติ แต่วันเวลาไม่มีหวนคืน เขาพร้อมด้วย "แสงจันทรา" ภรรยาสุดที่รักเดินทางไปที่เชียงรายอันเป็นที่ทำงานใหม่ของเขา เขามองออกไปนอกหน้าต่างแล้วถามตัวเองในใจว่า "คิดถูกแล้วใช่ไหมที่ยอมย้ายออกจากโคราช"
ตัดภาพไปที่โคราช นาวาอากาศโท พิศาล เตชะอำพล นั่งรถกระบะสีเทาที่มีเพื่อนเป็นผู้บังคับฝูงบิน Gripen ฝูงบิน 102 ขับออกมาจากกองบิน 1 ไปหาซื้อของกินยามเย็นหลังจากฝึกบิน เขาและเพื่อนที่เป็นนักบิน Gripen กำลังจะนั่งโต๊ะที่ร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ทันใดนั้นเองเขาเห็นโจรฉกกระเป๋าของผู้หญิงคนหนึ่ง เขาจึงวิ่งตามโจรไป นาวาอากาศโทพิศาลไม่รอช้า จึงกระโดดถีบแล้วเตะต่อยจนบุคคลที่ฉกชิงกระเป๋าของผู้หญิงคนนั้นสลบไป จากนั้นเขาขอร้องให้ผู้หญิงที่เขาช่วยตั้งสติและโทรหาตำรวจ
ไม่คิดเลยว่าผู้บังคับฝูงบิน F-16 จากตาคลีจะสะดุดรักกับพรรณวิภา หญิงสาวชาวโคราชที่เคยเจอกันมาก่อนตอนเขาไปเรียนที่โรงเรียนการบินกำแพงแสนเมื่อหลายปีก่อน นาวาอากาศโทพิศาลถามว่า "คุณเป็นอะไรไหม" จากนั้นเขายื่นมือขวาจับมือเธอแล้วดึงตัวขึ้นมาเบาๆ ทันใดนั้นเองก็มีมอเตอร์ไซค์สีแดงเข้มคันหนึ่งจอดอยู่ไกลๆ คนที่นั่งซ้อนท้ายใส่หมวกกันน็อคปิดบังใบหน้าเหมือนคนขับชักปืนขึ้นมาจะยิง เขาจึงพานางรองของเรื่องวิ่งไปหลบหลังรถกระบะคันหนึ่ง
โจรใช้ปืนพกสั้นยิงแล้วมอเตอร์ไซค์อีกคันมาจอดเพื่อช่วยเหลือเพื่อนที่สลบออกไปจากพื้นที่ แต่ไม่ทันการณ์รถตำรวจมาถึง ตำรวจ 4-5 นายยิงปะทะกับเหล่าร้ายเพื่อปกป้องทั้ง 2 คน มีตำรวจนายหนึ่งยิงปืนเข้าที่หัวใจของผู้ไม่หวังดีคนหนึ่งจนสิ้นชีวิตในที่เกิดเหตุ ในขณะเดียวกันมีตำรวจนายหนึ่งวิ่งไปพาตัวนางรองออกมา
ส่วนพระรองจากที่เคยขับ F-16 ถล่มกัมพูชาเมื่อ 10 ปีก่อน วันนี้ใช้ปืนยิงต่อสู้กับโจร ปืนที่เขาใช้นั่นเขาขโมยมาจากผู้ร้ายที่เสียชีวิตในที่เกิดเหตุนำมายิงปะทะตอบโต้ จนกระทั่ง 30 นาทีผ่านไป มีหลบหนีไปได้ 2 คน ถูกวิสามัญไปจำนวนหนึ่ง นักบิน F-16 จากตาคลีได้ทำช่วยชีวิตนางรองเป็นผลสำเร็จ
เขาจึงขออาสาพาเธอไปส่งพร้อมนักบิน Gripen เจ้าของรถกระบะสีเทา
ตัดภาพมาที่เชียงราย ชายในเครื่องแบบทหารเต็มยศติดเครื่องหมายยศพันโทบนบ่ามารายงานตัวที่ "กระผม พันโท ชาติไทย กิจมั่นคง ขอมารับราชการที่มณฑลทหารบกที่ 37 ครับผม" นายทหารระดับผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 กล่าว "ยินดีต้อนรับสู่หน่วยใหม่ จำได้ว่า 10 ที่แล้วเราเคยพบกันนะ" เสียงที่พันโทชาติไทยคุ้นเคยคือเสียงของพลตรี ณเดชน์ วีระชัยศักดิ์ ที่เคยร่วมรบกับเขาในความขัดแย้งช่วงนั้น
"ผมเข้าใจว่าเราสองคน เคยผ่านศึกในครั้งนั้นมาก่อน ครั้งนั้นทหารไทยได้ปฏิบัติการทางทหารเพื่อยึดคืนพื้นที่และตัดเส้นทางลำเลียงของฝ่ายตรงข้าม การต่อสู้บนภูมะเขือเป็นไปอย่างหนักหน่วง เราใช้ปืน M16 และอาวุธฝ่ายโลกเสรี ส่วนฝ่ายกัมพูชามีปืนอาก้า RPG และอาวุธอีกหลายชนิด เพื่อปกป้องภูมะเขืออย่างสุดกำลัง"
"มันเป็นเหตุการณ์ที่เราจะไม่มีวันลืมเป็นอันขาด ตอนนั้นไม่มีใครว่ากัมพูชาจะปะกับเราหนักขนาดนี้ทำให้มีกำลังพลบางส่วนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในสถานการณ์นั้นเราสองคนโชคดีที่จ่าชัยนะเรียก F-16 มาสนับสนุนพวกเราถ้าไม่อย่างนั้นก็กลายเป็นผีเฝ้าภูแห่งนั้นไปแล้ว"
ผู้พันชาติไทยพูด "ผมก็คิดแบบท่านนะครับ ตอนนั้นถ้าจ่าชัยยะไม่เรียกเครื่องบินรบมาสนับสนุนเราคงจะไม่มีวันรอดมาแน่นอนครับ" พลตรี ณเดชน์ ถามต่อ "คุณเชื่อมั่น Gripen กี่เปอร์เซ็นต์ คุณชาติไทย"
"ผมให้ 100% ครับท่าน ถึงผมจะไม่มีรายละเอียดเชิงเทคนิคอะไรมาก แต่ผมก็ภูมิใจที่สมรภูมิครั้งนั้นเป็นครั้งแรกของโลกที่ Gripen ใช้อาวุธอากาศสู่พื้นต่อเป้าหมายจริง ซึ่งก็คือการโจมตีกำลังทหารของกัมพูชา มันเป็นครั้งแรกที่เราเห็นเครื่องบิน Gripen โชว์ฝีมือในการรบ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้เห็นอีกเลยครับ"
ท่านพูดต่อ "ใช่ ผมว่า Gripen นี่แหละควรจะทดแทน F-16 ได้นะ ถึงคุณจะมีเพื่อนร่วมรุ่นเป็นนักบิน F-16 แต่สักวันเขาอาจเปลี่ยนไปบิน F-16 รุ่นใหม่ Gripen รุ่นใหม่หรือบ.แบบใดก็ไม่ทราบ มันอยู่ฝีมือและความดีความชอบที่เขาทำเพื่อกองทัพอากาศ" ท่านพูดถึงเรื่อง Gripen จบจึงชวนคุยเรื่องอื่นต่อหลังจากนั้นท่านก็พาไปชมการฝึกทหารใหม่
"พวกเขาดูมีวินัยมากนะครับท่าน" พันโทชาติไทยพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม "ผมเป็นทหารมากว่า 30 ปี ผมภาคภูมิใจที่เรามีทหารกล้าปกป้องแผ่นดินไทย เพื่อให้ลูกหลานมีที่ยืน ดีกว่าจะต้องปล่อยให้ประเทศไม่มีทหาร ถ้าประเทศใดไม่มีทหาร ประเทศนั้นคือบ้านไม่มีรั้ว จริงไหมคุณชาติไทย" เขาตอบท่านผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 "ใช่ครับท่าน ผมไม่อยากให้ประเทศใดมาดูหมิ่นดูแคลนความสามารถกองทัพไทย ทุกวันนี้แผ่นดินของเรามั่นคงได้เพราะคำว่าทหารนี่แหละที่ไม่มีวันเสื่อมคลายไปตามยุคตามสมัย"
ทหารทั้ง 2 นายยืนดูทหารใหม่ฝึกการใช้อาวุธในวันที่สภาพอากาศร้อนแรง ไม่ว่าทหารจะอายุมากหรืออายุน้อย มีตำแหน่งเป็นเช่นไร มีชั้นยศต่างกันเพียงใดหากอยู่ร่วมกันในทุกสถานการณ์ทหารทุกนายล้วนเป็นกำลังสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
คำว่าทหารไม่ใช่แค่คำ 2 พยางค์ มันคำที่สื่อถึงความแข็งแกร่งดังที่เห็นจากการฝึกอย่างมีระเบียบวินัยของบรรดาพลทหารในวันนี้
1 สัปดาห์ผ่านไปที่อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ แม้การฝึก Cope Tiger จะจบไปแล้ว นาวาอากาศโทพิศาล เตชะอำพลยังคงคิดสาวโคราชคนนั้นตอนนำ F-16 ไปฝึกบินที่กองบิน 1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วถึงเขาจะไม่ได้กลับไปที่นั่นเเต่ก็ยังคิดถึงเธอเสมอ เขาจึงทักแชตไปถามแต่ไม่มีการตอบรับจากปลายทาง ทันใดนั้นเองเสียงโทรก็โผล่เข้ามาในมือถือที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในตาคลี "ผู้ฝูงครับ ท่านผู้การสั่งให้เรานำ F-16 ขึ้นครับ" เขาตอบปลายสายว่า "ได้ เดี๋ยวผมจะรีบไป"
Credit ภาพประกอบนิยาย
กองทัพอากาศไทย
Pek Pacharat
หน่วยฝึกทหารใหม่ กองบริการ ศูนย์สงครามพิเศษ
มณฑลทหารบกที่ 25
เรียบเรียงนิยาย : แดง ภูมะเขือ
โฆษณา