Blockdit Logo (Mobile)
ลงทุนแมน
ยืนยันแล้ว
•
7 ชั่วโมงที่แล้ว • ธุรกิจ

Dylan Field มหาเศรษฐีอายุน้อย 5 หมื่นล้าน คนล่าสุดของโลก ผู้ก่อตั้ง Figma

Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia เคยพูดเมื่อไม่นานมานี้ว่า ต่อไป AI จะสร้างมหาเศรษฐีได้มากกว่ายุคที่เริ่มมีอินเทอร์เน็ตเสียอีก
ซึ่งก็ดูเหมือนว่า คำทำนายของ Jensen Huang มาไวกว่าที่คิด เพราะล่าสุด Dylan Field ขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยระดับหมื่นล้านบาท ที่รวยจากธุรกิจ Figma
Figma เป็นแพลตฟอร์มที่คนในวงการออกแบบแอปพลิเคชันรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะใช้ออกแบบแอปพลิเคชันเรียลไทม์ได้
ซึ่งตอนนี้มีการนำ AI เข้ามาให้บริการเพิ่มอีกด้วย
Dylan Field เป็นใครมาจากไหน
แล้ว Figma ไปเกี่ยวอะไรกับโลกยุค AI ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ชีวิตของ Dylan Field ไม่ต่างอะไรจากชีวิตของ Bill Gates หรือ Steve Jobs ที่สนใจในคอมพิวเตอร์ และเขาเลือกเรียนสาขานี้ที่มหาวิทยาลัยบราวน์
แต่พอเรียนไปสักพัก ก็ตัดสินใจดร็อปเรียน แล้วออกไปฝึกงานที่ LinkedIn แพลตฟอร์มสำหรับการทำงาน และ Flipboard แพลตฟอร์มด้านข่าวสาร
แรกเริ่ม เขาฝึกงานในตำแหน่งวิศวกรซอฟต์แวร์ก่อน
แต่พอทำไปสักพัก ก็เริ่มรู้ตัวเองว่า สิ่งที่ตัวเองหลงใหลจริง ๆ นั่นคือ การออกแบบมากกว่า
เขาเริ่มนำความหลงใหลเรื่องการออกแบบไปคุยกับ เพื่อนของเขาที่ชื่อ Wallace แม้ยังไม่รู้ว่าจะทำธุรกิจแบบไหน แต่ก็ตัดสินใจหาเงินสักก้อนมาตั้งต้นให้ได้
ทั้งคู่ตัดสินใจสมัครเข้าโครงการ Thiel Fellowship ของ Peter Thiel ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal และนักลงทุนรายแรกของ Facebook ที่จะคัดเลือกและมอบเงินทุนให้วัยรุ่นไปสร้างธุรกิจใหม่ ๆ
จนสุดท้าย ทั้งคู่ก็ได้เงินก้อนจากโครงการนี้มาราว 3.7 ล้านบาท จึงตัดสินใจลาออกมาทำธุรกิจของตัวเองอย่างเต็มตัวทันทีแทน
แต่ปัญหาคือ ทั้งคู่ก็ยังไม่รู้ว่าจะทำธุรกิจแบบไหนดี
แน่นอนว่าทั้งคู่สนใจเรื่องการออกแบบ จึงเริ่มศึกษาผู้นำวงการออกแบบในตอนนั้นอย่าง Adobe
พอเริ่มศึกษาแอปพลิเคชันแต่งภาพของ Adobe ไปเรื่อย ๆ ทั้งคู่ก็เริ่มมองเห็นช่องว่างว่า ถ้าสามารถทำแอปพลิเคชันแต่งภาพที่แชร์กันผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้ก็คงจะดี
Figma จึงเกิดขึ้น เป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการเครื่องมือกราฟิกดิไซน์ สำหรับเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน หรือที่เรียกว่า UX/UI (User Experience และ User Interface)
โดยมีจุดเด่นที่ไม่เหมือนกับ Adobe นั่นคือ สามารถแชร์การทำงานระหว่างกันได้เลยทันที
แม้โมเดลธุรกิจดูแปลกใหม่ แต่ช่วงแรกนักลงทุนไม่เข้าใจโมเดลการหารายได้ที่ชัดเจน แถมทั้งคู่ที่อายุน้อยยังไม่เก่งเรื่องการบริหารคน จนพนักงานทยอยลาออกไปเรื่อย ๆ
ปัญหาที่รุมเร้า ทำให้เขาและเพื่อน เรียนรู้ปรับปรุงองค์กรและโมเดลธุรกิจไปเรื่อย ๆ จนสามารถเปิดตัวให้คนทั่วไปสมัครใช้บริการได้ในปี 2015
ช่วงเวลานี้ เรียกได้ว่า Figma อยู่ในยุคทองของการออกแบบพอดี เพราะหลาย ๆ บริษัท เริ่มให้ความสำคัญกับการออกแบบ ตกแต่งหน้าตาของแพลตฟอร์มตัวเองมากขึ้น
ซึ่งลูกค้าก็มีตั้งแต่บริษัทเล็ก ๆ ไปจนถึงบริษัทระดับโลกที่เราคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เช่น Microsoft, Netflix, Uber, Airbnb ก็ใช้บริการ Figma แทบทั้งสิ้น
จนสุดท้าย ถ้าไปถามในวงการนักออกแบบแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ว่าควรใช้อะไร เกือบทุกคนคงบอกว่าให้ใช้ Figma แน่นอน
พอเป็นแบบนี้ ทำให้ Adobe ที่เป็นเจ้าตลาดวงการนักออกแบบมานาน จึงตัดสินใจซื้อ Figma สูงถึง 650,000 ล้านบาทในปี 2022
แต่ดีลนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้น เพราะอาจทำให้ Adobe เข้าข่ายการผูกขาดในวงการออกแบบมากเกินไป
ทำให้ Dylan Field ตัดสินใจนำ Figma เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ แทน จนปัจจุบันบริษัทนี้มีมูลค่าสูงถึง 1.8 ล้านล้านบาท
ถ้ายังจำกันได้ว่า Adobe ขอซื้อ Figma ในราคาแค่ 650,000 ล้านบาท แปลว่า ถ้าดีลนั้นสำเร็จ Dylan Field จะขายธุรกิจในมูลค่าต่ำกว่า 3 เท่าเลยทีเดียว
ซึ่งถ้าถามว่า แล้วทำไม Figma ถึงมีมูลค่าบริษัทสูงขนาดนั้น คำตอบก็อาจเป็นเพราะว่า ในวงการออกแบบ UX/UI นี่คือบริษัทที่ครองตลาดเบอร์ 1
แถมปัจจุบัน Figma ยังเอา AI มาใส่เป็นเครื่องมือการออกแบบของตัวเอง เพื่อให้ลูกค้าปรับแต่งหน้าตาและโคดดิงได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
เมื่อสองอย่างนี้รวมกัน ราคาหุ้นของ Figma
พุ่งถึง 250% ในวันแรกของการเข้าตลาดหุ้น จนทำให้ Dylan Field กลายเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อย คนล่าสุดของโลกไปเลยทันที
โดยปัจจุบัน เขาอายุแค่ 33 ปี แต่ตอนนี้มีความมั่งคั่งราว 59,000 ล้านบาทไปแล้ว
ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Figma จะเติบโตแบบต่อเนื่องได้ดีหรือไม่ และจะทำให้ Dylan Field รวยขึ้นมากกว่านี้ได้อีกแค่ไหน
แต่ที่แน่ ๆ คำพูดของ Jensen Huang ที่บอกว่า ต่อไป AI จะสร้างมหาเศรษฐีได้มากกว่าโลกที่เริ่มมีอินเทอร์เน็ต คงไม่เกินจริง
วันก่อน Alexandr Wang ก็กลายเป็นมหาเศรษฐีแสนล้านบาท อายุน้อยแค่ 28 ปี ที่รวยจาก Scale AI แพลตฟอร์มเทรน AI ที่ Meta ตัดสินใจลงทุน 49%
มาวันนี้ แม้ Figma อาจไม่ใช่ธุรกิจที่เกี่ยวกับ AI โดยตรง แต่ก็มีการเอา AI ไปผสานกับธุรกิจเดิมของตัวเองมากขึ้น
จนทำให้ Dylan Field แปะป้ายเป็นมหาเศรษฐีอายุน้อยระดับหมื่นล้านบาทคนล่าสุดของโลกไปแล้ว..
โฆษณา