JL Collins บิดาการเกษียณก่อนวัย จากเด็กขายขวดน้ำ สู่ผู้เขียนหนังสือยอดขาย ล้านเล่ม
เชื่อว่าใครหลาย ๆ คนคงคุ้นหูกับแนวคิดเกษียณเร็ว และมีอิสรภาพทางการเงิน
โดยคนที่บุกเบิกแนวคิดนี้ ก็คือคุณ JL Collins
ผู้มีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่แนวคิดอิสรภาพทางการเงิน ก่อนจะมีคำว่า FIRE (Financial Independence, Retire Early) เสียอีก
จนเขาได้ฉายาว่าเป็น The Godfather of FI (Financial Independence)
ซึ่งเขาถ่ายทอดแนวคิดออกมาเป็นหนังสือชื่อว่า “The Simple Path to Wealth” หนังสือที่ขายได้กว่า 1 ล้านเล่มทั่วโลก
แล้วเขามีแนวคิด และวิธีการอย่างไร เพื่อให้สามารถมีอิสรภาพทางการเงิน และเกษียณก่อนวัยได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
คุณ Collins เติบโตที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา ในครอบครัวที่ไม่ได้ร่ำรวย
พ่อของเขาทำงานเป็นตัวแทนขายสินค้า แต่เพราะมีปัญหาสุขภาพ จึงไม่สามารถทำงานได้ รายได้หลักของครอบครัวจึงหายไป ทำให้ชีวิตเริ่มลำบาก
แม่ที่เคยเป็นแม่บ้าน จึงต้องกลับไปทำงานเป็นครู
ส่วนคุณ Collins ต้องดูแลตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก
เหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้คุณ Collins เริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ถ้าวันหนึ่งเราทำงานไม่ไหว จะมีเงินสำรองไว้ใช้หรือเปล่า ?”
และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาเริ่มสนใจเรื่อง อิสรภาพทางการเงิน
ถึงแม้ไม่ค่อยมีการพูดเรื่องเงินในบ้าน แต่พ่อแม่ของคุณ Collins เป็นคนใช้เงินอย่างประหยัด
เมื่อสุขภาพของพ่อแย่ลง คุณ Collins ก็พยายามรักษาระดับการใช้ชีวิตเดิมไว้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้นเรื่อย ๆ
คุณ Collins มีพี่สาวสองคน ซึ่งพ่อแม่สามารถจ่ายค่าเล่าเรียนให้ได้ แต่พอถึงคิวของเขา ก็ไม่มีเงินเหลือ ทำให้เขาต้องทำงานส่งตัวเองเรียน
ในวัยเด็ก คุณ Collins เริ่มหาเงินเองตั้งแต่อายุ 8 ขวบ
โดยทำหลากหลายงาน เช่น ขายไม้ตียุงตามบ้าน และเก็บขวดน้ำข้างถนนไปแลกเป็นเงิน
ไปจนถึงเป็นพนักงานร้านไอศกรีมตอนอายุ 13 ปี ได้ค่าแรงชั่วโมงละ 0.75 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือว่าเยอะมากสำหรับเด็กในยุคนั้น
คุณ Collins เรียนจบปริญญาตรีเอกภาษาอังกฤษ
แต่พอเรียนจบ กลับแทบไม่มีใครจ้างงาน ที่แย่กว่านั้นคือ เขาไม่ได้วางแผนเรื่องอาชีพไว้เลยระหว่างเรียน
จนกระทั่งเห็นพี่สาวทำงานในสายโฆษณา เขาจึงลองสมัครตามบ้าง และนั่นทำให้เขาได้งานแรกในธุรกิจนิตยสาร ซึ่งกลายเป็นอาชีพหลักของเขาไปโดยบังเอิญ
ในช่วงปีแรก ๆ ของการทำงาน คุณ Collins ตัดสินใจลงทุนซื้อคอนโดฯ แห่งหนึ่งในเมืองชิคาโก
ตอนนั้นเขาเชื่อว่า การซื้อบ้านคือการลงทุนที่ฉลาด
แต่นั่นกลับกลายเป็นฝันร้าย ราคาคอนโดฯ ตก ค่าบำรุง และภาษีสูง ขายต่อก็ลำบาก
สุดท้าย เขารู้ว่าบ้านไม่ใช่การลงทุนที่ดี แต่เป็นภาระผูกพัน ที่ขัดกับเป้าหมายในการมีอิสรภาพทางการเงิน
ตั้งแต่นั้นมาคุณ Collins เตือนเสมอว่า
“อย่าซื้อบ้านเว้นแต่คุณพร้อม และซื้อเท่าที่จำเป็นจริง ๆ”
ในปี 2011 คุณ Collins เริ่มเขียนบล็อกขึ้นมา
ด้วยเหตุผลง่าย ๆ คือ อยากอธิบายเรื่องเงินให้ลูกสาวเข้าใจ
เขาต้องการรวบรวมแนวคิดด้านการเงิน และการลงทุน โดยเฉพาะเรื่อง กองทุนอิงดัชนี (Index Fund)
ให้ง่ายต่อการอ่าน และนำไปใช้ได้จริงในชีวิต
จากบล็อกธรรมดา ๆ กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนมากมาย จนเขานำเนื้อหามาเขียนเป็นหนังสือชื่อว่า The Simple Path to Wealth ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2016 และตอนนี้มียอดขายแล้วมากกว่า 1 ล้านเล่มทั่วโลก
คุณ Collins แนะนำว่าให้เก็บเงิน 50% ของรายได้ แล้วให้นำเงินไปลงทุน โดยแบ่งออกเป็น 10 ส่วน คือ
1. เอา 8 ส่วนของเงินที่แบ่งมา ไปลงทุนในกองทุนดัชนีหุ้นสหรัฐฯ (VTSAX) ย่อมาจาก Vanguard Total Stock Market Index Fund
ซึ่งคนลงทุนจะเท่ากับว่า ได้ร่วมเป็นเจ้าของหุ้นทุกบริษัทในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้งบริษัทขนาดใหญ่ กลาง และเล็ก พร้อมกับมีการกระจายความเสี่ยงอย่างทั่วถึง
2. อีก 2 ส่วน ลงทุนในกองทุนพันธบัตร (VBTLX) ย่อมาจาก Vanguard Total Bond Market Index Fund
กองทุนนี้จะลงทุนในพันธบัตรหลากหลายประเภททั่วตลาดตราสารหนี้สหรัฐฯ ที่มีความเสี่ยงต่ำ เพื่อให้พอร์ตลงทุนไม่ผันผวนเกินไป
แต่ทั้งนี้ ไม่ได้เป็นกฎตายตัวว่า ต้องเก็บเงินให้ได้ 50% ของรายได้ เพียงแต่ต้องออมและลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ในอัตราที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้
โดยสามารถปรับสัดส่วน VTSAX : VBTLX ได้ เพื่อให้เหมาะสมตามอายุและความเสี่ยงของแต่ละคน
3. ใช้กฎ 4%
เมื่อเก็บเงินลงทุนได้ครบจำนวนหนึ่งแล้ว
ให้ถอนเงินมาใช้แค่ปีละ 4% ของเงินก้อนนั้น
แล้วทำไมต้อง 4% ?
จากงานวิจัย Trinity Study ที่วิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลังตลาดหุ้น และพันธบัตรของสหรัฐอเมริกา มาหลายสิบปี
พบว่า ถ้าถอนเงินปีละ 4% ของเงินต้น
จะมีโอกาสสูงมาก ที่ตอนเกษียณ เงินจะพอใช้ได้นานกว่า 30 ปี เพราะพอร์ตลงทุนได้โตขึ้น จนชดเชยเงินที่ถอนออกไป
ทั้งนี้ คุณ Collins แนะนำว่า อย่าเสียเงินไปกับเรื่องไร้สาระ และไม่มีประโยชน์ เช่น การดื่มเหล้า หรือการสูบบุหรี่ ไม่ใช่แค่เปลืองเงินเท่านั้น แต่ยังทำร้ายสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย
เขายังแนะนำอีกว่า คนส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องซื้อบ้านเอง
การเช่าบ้านอยู่ ช่วยให้ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าซ่อมบำรุง เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าของบ้าน แถมยังยืดหยุ่นกว่าเมื่ออยากเปลี่ยนที่อยู่
เขายังบอกด้วยว่า ไม่ต้องซื้อรถแพง แค่รถที่ขับได้ดี ประหยัดน้ำมัน และดูแลง่ายก็เพียงพอแล้ว
เพราะรถคือทรัพย์สินที่มูลค่าลดลง ไม่ใช่การลงทุน
ซึ่งถ้าทำได้ตามนี้ เราก็สามารถมั่งคั่ง และมีอิสรภาพได้
คุณ Collins ยังแนะนำเรื่องเงินกับชีวิตคู่ไว้อีกว่า ก่อนจะแต่งงานกับใคร ควรคุยกันเรื่องเงินให้ชัดเจน เพราะเรื่องเงินเป็นสาเหตุหลักของความเครียด และการหย่าร้างในคู่รักส่วนใหญ่
ปัจจุบันนี้ คุณ Collins ใช้ชีวิตคู่กับภรรยา มาตั้งแต่ปี 1982 และมีลูกสาวหนึ่งคน
ที่น่าสนใจคือครอบครัวของคุณ Collins ไม่มีหนี้เลย
ถึงแนวคิดของคุณ Collins จะเน้นเกษียณเร็ว แต่คุณ Collins ก็ยังเชื่อว่า แม้เราจะมีอิสรภาพทางการเงินแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราไม่จำเป็นต้องทำงาน
แต่หมายความว่า เรามีอิสระในการ “เลือก” สิ่งที่อยากทำได้ ซึ่งถ้าเรารักงานที่ทำอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องรีบเกษียณ
ในทางกลับกัน ถ้ารู้สึกไม่สบายใจกับงานที่เราทำ เราก็สามารถมีสิทธิ์เลือกเปลี่ยนงานได้ โดยไม่กระทบกับคุณภาพชีวิต
รวมถึงเขายังย้ำอยู่เสมอว่า อย่าไปกังวลกับความผันผวนในระยะสั้น เพราะตลาดหุ้นขึ้นลงเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือ ผลตอบแทนในระยะยาว..
References
- 9
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
