2 ส.ค. เวลา 23:57 • การเมือง

แผ่นดินของเรา Season 2 EP.4

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ก่อนที่จะไปอ่านนิยายสั้นเรื่องนี้ ผู้เขียนขอให้ทุกท่านโปรดช่วยกดไลก์ กดติดตาม และกดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนในการทำบทความหรือนิยายต่อๆไป
หลังจากที่เครื่องบินขนยาเสพติดถูกยิงตกโดย F-16 กองทัพอากาศไทย ในตอนที่แล้วพันตำรวจโทแสงทอง บุญมี สารวัตรใหญ่แห่งสภ.เชียงดาวได้ปะทะกับขบวนการขนยาเสพติดที่มากับเครื่องบินจนถูกวิสามัญไป 1 ราย ส่วนอีกรายแม้จะหนีไปได้กลับถูกเจ้าหน้าที่อส.ในพื้นที่จับกุมมาส่งให้สารวัตรแสงทองนำไปดำเนินคดี
ที่สถานีตำรวจภูธรเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ สารวัตรแสงทองสอบสวนชายคนดังกล่าวเข้มข้น "ใครสั่งให้คุณขนยาเข้ามา" หนึ่งในสมาชิกแก๊งค้ายาตอบ "นายพลอ่อง วินห์ เป็นคนสั่งพวกผมเข้ามาครับท่าน" จากนั้นเขาถามชายคนนี้ต่อไป "ยาพวกนี้พวกคุณจะนำไปส่งที่ไหน" "ผมจะนำไปที่พิษณุโลกครับท่าน"
"แต่ระหว่างทางมาโดน F-16 ยิงตก แผนเลยล้มเหลว" จากนั้นชายคนนั้นก็พูดต่อ "ก่อนที่ท่านและลูกน้องจะขังผม ผมจะบอกอะไรให้ท่านฟัง ตัวการใหญ่กว่านายพล อ่อง วินห์ ยังมีอีก แต่ผมบอกไม่ได้ถ้าบอกเดี๋ยวฝั่งนั้นจะตามมาฆ่ามและท่าน เพราะในกระเป๋ากางเกงยีนส์ผมมีไมโครชิพไว้ดักฟังเสียง ถ้าพวกมันรู้เราตายแน่"
เช้าวันต่อมา (วันที่ 5 เมษายนพ.ศ.2578) มีรายงานว่านายอดิศวร แก้วแท้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วยพลตำรวจเอก นเรศ แสงสุนทร ผู้บังคับการตำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมการลักลอบลำเลียงยาเสพติด (ยาบ้า) 2,800,000 เม็ด ที่ศาลาประชาคมจังหวัดพะเยา
โดยการจับกุมดังกล่าวเป็นการจับกุมยาบ้าล๊อตใหญ่ที่สุดในรอบปีพ.ศ. 2578 เป็นของขบวนการตะวันแดงเข้ามาทางด้านชายแดนอำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงรายส่งเข้ามาในพื้นที่ตอนใน จากการตรวจพบเป็นยาบ้ายี่ห้อ Y1 ,99 และปลาคาร์ฟ 3 ยี่ห้อ
พฤติการณ์แห่งการจับกุมพันตำรวจตรีธีระยุทธ แก้วใส ผบ.ร้อย ตชด. 327 ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่จังหวัดเชียงรายเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ ใช้เส้นทางรองเพื่อหลบด่านตรวจหลัก เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2578 เวลา 08:00 น เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบรถยนต์ยี่ห้อ Mitsubishi สีดำ ตรงกับที่สายลับแจ้ง ขับขี่มาโดยใช้เส้นทางหมายเลข 1020 เชียงราย-เชียงของ
หลบเลี่ยงด่านตรวจตรงตามที่ได้รับแจ้ง จึงรายงานผู้บังคับบัญชาวางแผนจับกุม พบรถคันดังกล่าวที่บริเวณสามแยกบ้านห้วยสัก ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มีลักษณะบรรทุกสิ่งของซึ่งมีน้ำหนักมาก จึงได้ติดตามตรวจสอบข้อมูลพบว่าทะเบียนไม่ตรงตามที่ได้จดทะเบียนไว้ ทั้งยี่ห้อ และรุ่นรถ เจ้าหน้าที่แสดงตนเข้าขอทำการตรวจสอบ แต่รถดังกล่าวไม่หยุดและเร่งเครื่องหลบหนีจนมีการยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธสงคราม จนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ จากนั้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ที่อ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยา
จากการติดตามตรวจสอบพบกระเป๋าสีรุ้งดัดแปลงคล้ายบรรจุภัณฑ์ยาเสพติดวางไว้ในห้องโดยสารตอนหลังจำนวน 8 กระสอบ และช่องเก็บของหลังรถ 6 กระสอบรวมทั้งหมด 14 กระสอบ ตรวจพบเป็นยาเสพติดประเภท 1 เมมแอมเฟตามีน หรือยาบ้าของกลางประมาณ 2 ล้าน 8 แสนเม็ด
รวมทั้งอาวุธปืน M16 2 กระบอกพร้อมกระสุนที่ยึดมาได้จำนวนหนึ่ง จากการติดตามพบผู้ต้องหาชื่อร้อยโทจิน เล อายุ 25 ปี ทหารสังกัดกองทัพเชียงหลวง ได้นั่งโดยสารมากับรถยนต์ดังกล่าวมีผู้ขับขี่คือนายสตีฟ เทรเดอร์ ชาวอเมริกัน เป็นผู้ขับขี่มาจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่จังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยา
จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบจับกุมได้ นายวิทยายังได้หลบหนีเจ้าหน้าที่ไป ซึ่งตำรวจจะติดตามมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้เร็วที่สุด
สำหรับการจับกุมดังกล่าวได้ยาบ้าจำนวนมากที่สุดในครั้งนี้ไม่ได้มาจากประเทศพม่าหรือประเทศลาว แต่มาจากประเทศที่มีที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างประเทศลาวกับประเทศเวียงชัยนั่นคือ ประเทศเชียงหลวง
ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในอำเภอตาคลีเมื่อนาวาอากาศโทพิศาล เตชะอำพล เห็นข่าวนี้จึงโทรศัพท์ถึงพรรณวิภาผู้หญิงที่เขาแอบชอบ "ผมเห็นข่าวแล้วที่ทางการไทยจับยาบ้าล็อคใหญ่" เขาพูดต่อไปว่า "ผมว่าพวกนั้นคงจะไม่พอใจจนอาจเปิดสงครามกับเราแน่" นางรองคุยกับเขา "คุณอย่าประมาทพวกมันนะคะ"
"คุณไม่ต้องห่วง ผมพร้อมจะจัดการเต็มที่ให้มันหมดไปจากแผ่นดินไทย" เธอถามต่อ "คุณเป็นนักบินเอฟ-16 ทำไมจะต้องไปสู้กับแก๊งค้ายาด้วย" ผู้บังคับฝูงบิน 403 ในฐานะคนที่เธอแอบชอบให้คำตอบ "ผมทราบข่าวจากผู้ใหญ่แล้วว่าพวกมันมีโรงงานผลิตยาเสพติดขนาดใหญ่อยู่ในฝั่งนั้น ทางผู้ใหญ่จึงสั่งให้กองทัพอากาศส่งเอฟ-16 ไปถล่มพวกมัน เพราะถ้าใช้ทหารภาคพื้นการปะทะจะกินเวลา" "ฉันขอให้คุณโชคดีนะคะ" สิ้นเสียงโทรผ่านสมาร์ทโฟน
เรืออากาศโท ณัฐชนนท์ พอใจ "ODIN" ถามด้วยความสงสัย "ผู้ฝูงคุยกับสาวเหรอครับ" นักบินรุ่นอาวุโสตอบ "ใช่ ผมพบเธอสมัยไปเรียนที่โรงเรียนการบินกำแพงแสน พอมีสงครามไทย-กัมพูชา เมื่อ 10 ปีก่อน เราสองคนไม่ได้พบกันอีกเลย เพราะเธอไปเรียนต่อที่อเมริกา เลยมีคุยแชตกันบ้าง พอมาถึงวันหนึ่งผมมาพบเธออีกครั้งในช่วงที่ปะทะกับกลุ่มอาชญากรรมที่โคราช ผมได้ช่วยเธอให้พ้นจากฝีมือคนกลุ่มนั้นจนเธอปลอดภัย"
"ผู้ฝูงคิดว่าเธอมีเจ้าของไหมครับ" หมวดไอซ์ (ODIN) ถาม "แฟนเก่าของเธอเป็นอดีตนักบิน F-16 อยู่ที่โคราชรุ่นเดียวกับผม แต่ว่าเขาหายกสาบสูญไปพร้อมกับ F-16A ในขณะบินลาดตระเวนเมื่อ 10 ปีก่อน เป็นช่วงเดียวกับที่เธอไปเรียนเมืองนอก" "คุณดูนี่สิ คุณไอซ์ นี่คือเรืออากาศโทยิ่งยศ ไวทยานนท์ เป็นนักเรียนเตรียมทหารและนักเรียนนายเรืออากาศรุ่นเดียวกับผม น่าเสียดายนะที่เขาต้องมาตายกับ F-16A ฝูงโคราชในวันนั้น"
นาวาอากาศโทพิศาล เตชะอำพล "AMERICAN" เข้ามานั่งที่โซฟาในบ้านพักของเขา เขายังจำเรื่องที่เขาเล่าให้เรืออากาศโทณัฐชนนท์ฟังได้
วันที่ 2 สิงหาคมพ.ศ.2568 เรืออากาศโทยิ่งยศ ไวทยานนท์ "DAGGER" และเขาได้นำ F-16A จำนวน 2 เครื่องจากฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราชขึ้นบินหลังจากที่พวกเขาไปทำภารกิจโจมตีทางอากาศต่อกัมพูชาในวันที่ 27-28 กรกฎาคมปีเดียวกัน รอบนี้พวกเขามาในภารกิจบินลาดตระเวนเหนือชายแดนไทย-กัมพูชาในยามสงคราม พวกเขาทั้งสองคนมีการพูดคุยหยอกล้อกันผ่านวิทยุ
จากนั้นเมื่อพูดคุยกันเสร็จ เรืออากาศโทยิ่งยศและเรืออากาศโทพิศาล 2 นักบิน F-16 หน้าใหม่จากโคราชกำลังบินลาดตระเวณผ่านพื้นที่ป่าใกล้กับเนิน 600 พบว่าทหารกัมพูชายังคงมีการตรึงกำลังหนาแน่นพร้อมปะทะฝ่ายไทยหลังจากการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของทั้ง 2 ฝ่าย
จากนั้นพวกเขายังคงเห็นโดรนจำนวน 2-3 เครื่อง บินอยู่เหนือหมู่บ้านในฝั่งไทย ทั้งๆที่ทางการมีคำสั่งห้ามบินโดรนพวกเขาทั้ง 2 ไม่สามารถทำการตอบโต้เนื่องจากพื้นที่ข้างล่างเป็นพื้นที่ชุมชน จึงอาจเสี่ยงเมื่อกระสุนปืนกลอากาศ M61 ลั่นออกไปถูกประชาชนด้านล่าง
เครื่องบินขับไล่ F-16 ทำได้แต่บินดูฝูงโดรนบินวนอยู่เหนือหมู่บ้าน ในขณะเดียวกันพวกเขาก็บินต่อไปที่ช่องอานม้า
สำหรับช่องอานม้าที่ปรากฎทั้งในนิยายและความเป็นจริงนั้น ชื่อเรียกนี้น่าจะมาจากชื่อเรียกลักษณะภูมิลักษณ์ ซึ่งคำว่า อานม้า หมายถึงจุดต่ำสุดระหว่างสันเขาหรือเนินเขาที่เชื่อมต่อยอดเขาสองยอดเข้าด้วยกัน มีลักษณะเด่นคือเส้นชั้นความสูงจะเว้าเข้าไปเป็นรูปคล้ายอานม้าหรือนาฬิกาทรายนั้นเอง
เมื่อบินผ่านช่องอานม้านักบิน F-16 ทั้ง 2 นายกำลังมุ่งหน้าเปลี่ยนเส้นทางกลับโคราช ทันใดนั้นเองเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ DAGGER ขับเกิดเหตุขัดข้อง เครื่องยนต์ไม่ทำงานในขณะทำการบิน จนต้องพยายามประคองเครื่องไม่ให้ตกใส่บ้านเรือนประชาชน นักบินหนุ่มที่เป็นเพื่อนกับ DAGGER ติดต่อไปที่หอบังคับการบินที่โคราชเพื่อขอความช่วยเหลือเร่งด่วนในการส่งทีมค้นหาและช่วยชีวิตเข้าเหลือ
ทันใดนั้นเองเหยี่ยวพิฆาตกลับร่วงลงจากฟ้าพุ่งชนพื้นในพื้นที่ป่าห่างจากชุมชนไม่มากนัก ส่วนนักบิน F-16 ผู้เคราะห์ร้ายแม้จะดีดตัวออกมาได้เขากลับเสียชีวิตเพราะระดับความสูงในการกางร่มไม่พอสำหรับเขา พระรองทำได้เพียงเห็นเครื่องบิน F-16 ที่บินมาด้วยกันตก จึงช่วยอะไรไม่ได้มาก แม้จะไม่รู้ว่าชะตากรรมของเขาเป็นอย่างไรหลังจากดีดตัวออกมาแล้ว เพราะขอแค่มีความหวังให้ร่างนักบินนายนี้ก็พอ เขาจะได้สบายใจ
เมื่อเรืออากาศโทพิศาล ยศในขณะนั้นกลับพักในบ้านพักที่ฐานทัพอากาศโคราชเขาเห็นข่าวว่ามีการตามหาตัวนักบินที่หายสาบสูญจนกระทั่ง 7 วันต่อมาพบร่างไร้วิญญาณของนักบิน F-16 callsing "DAGGER" เขาจึงช็อคกับข่าวที่เกิดขึ้นแล้วเสียใจมากที่เพื่อนต้องมาด่วนจากไปอุบัติเหตุในครั้งนี้ หลังเหตุการณ์นั้นผ่านไปทำให้เขายังคงคิดเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ไม่ลืม เพราะเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เป็นนักบิน F-16 มา
ไปดูกันที่จังหวัดชายแดนภาคเหนือมีการยิงขีปนาวุธ BM-21 เข้ามาตกในฝั่งไทยอีกครั้งในรอบ 10 ปีและเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ขีปนาวุธแบบนี้ถล่มในพื้นที่ภาคเหนือทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องละทิ้งบ้านเรือนที่อาศัย ขีปนาวุธ BM-21 ที่กองทัพบกเชียงหลวงยิงมานั้นตกใส่ โรงพยาบาล โรงเรียน ปั้มน้ำมัน สถานที่ราชการ รวมถึงบ้านเรือนประชาชนจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก
ในขณะที่บนดอยผึ้งอันเป็นฐานปฏิบัติการณ์ของทหารพรานที่มีร้อยโทโชติ ใจอาสา เป็นหัวหน้าชุด ก็ถูก BM-21 โจมตีราวกับห่าฝน "หมวดครับ BM-21 มาตกแล้วครับ!" จ่าอ๊อดตะโกน "ไปเร็ว! ทิ้งฐานซะ!" ร้อยโทโชติวิ่งฝ่าระเบิดจากการตกของ BM-21 อย่างรวดเร็ว นี่ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งแรกที่เขาโดนกับเอง มหารพรานหน่วยของเขาละทิ้งฐานปฏิบัติการณ์ออกไปเหลือไว้แค่ไฟที่ยังไหม้และร่องรอยการตกของจรวดในครั้งนี้
การยิง BM-21 ของกองทัพเชียงหลวงเพื่อเป็นการเอาคืนที่กองทัพอากาศไทยส่งเครื่องบิน F-16 มายิงเครื่องบินขนยาเสพติดตกและการจับยาบ้าล็อตใหญ่ที่สุดเมื่อวานนี้ นี่คือธาตุแท้ของประเทศเพื่อนบ้านผู้ผลิตยานรกส่งออกจนทำให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมป่าเถื่อน ไร้ซึ่งสันติสุขในดินแดนขวานทอง
ไม่ใช่แค่ยาเสพติดที่เป็นภัยต่อแผ่นดินของเรายังมีการใช้ BM-21 โจมตีประชาชนซึ่งขัดกับสนธิสัญญาเจนีวาไม่ต่างจากกัมพูชา เพียงแต่ว่ารอบนี้ไม่ได้มีแค่ BM-21 ยังมีการใช้โดรนพิฆาตนำเข้าฆาตโจมตีพื้นที่ชุมชนทำให้บ้านเรือนพังราบเป็นหน้ากลอง
ที่สภ.เชียงดาวสารวัตรแสงทองและตำรวจทุกนายวิ่งไปหาที่กำบังเนื่องจากมีฝูงโดรนพิฆาตเข้าโจมตีเหมือนกับห่าฝน นี่ไม่ใช่ฝนจากฟ้า นี่คือฝนแห่งการทำลายล้าง สารวัตรแสงทองบอกกับลูกน้องว่า "ตั้งแต่เกิดมาผมเพิ่งจะเห็นโดรนพิฆาต" หมู่ยมถาม "สารวัตรไม่เคยเห็นจริงๆเหรอครับ" สารวัตรแสงทองตอบลูกน้อง "ทุกทีผมเห็นแต่ในข่าว แต่นี่เราเห็นมันไม่ใช่หนัง มันคือชีวิตจริงที่เราต้องเผชิญ"
(To Be Continue)
ภาพประกอบนิยายสั้น
กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด
กองทัพอากาศไทย
ตั้ว วงเปิด อันดามัน พีเดิ้ล
กรุงเทพธุรกิจ
Tensors.Art
เรียบเรียงโดย : แดง ภูมะเขือ
โฆษณา