3 ส.ค. เวลา 05:20 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

🧭 Scrum Guide Expansion Pack 2025

เมื่อ Agile ต้องวิวัฒน์ไปพร้อม AI, Outcome และองค์กรทั้งระบบ
ในวันที่หลายองค์กรยังติดกับการทำ Agile เป็นแค่ "พิธีกรรม" ที่วนลูปเหมือนเดิมทุก Sprint...โลกกลับขยับไปไกลกว่านั้นมากแล้วครับ
Scrum Guide Expansion Pack 2025 (https://scrumexpansion.org/scrum-guide-expansion-pack) คือหมุดหมายใหม่ที่สะท้อนว่า Agile ที่แท้ ไม่ควรหยุดอยู่ที่ 'วิธีการ' แต่ต้องพัฒนา 'วิธีคิด' ให้ลึกขึ้น พร้อม 'ภาวะผู้นำ' และ 'ระบบองค์กร' ที่ปรับตัวได้อย่างแท้จริง
บทความนี้ไม่ได้มาแค่สรุปเอกสารหลายหน้าอย่างเดียว (ท่านสามารถโหลดไปอ่านและตีความกันเองได้)  แต่จะพาคุณผู้อ่านไปสกัด "4 สาระ" ที่องค์กรไทยควรรู้ พร้อมเสริมด้วยเคสจริง กลยุทธ์นำไปใช้ได้ทันที โมเดลใหม่ที่สะท้อนภาพอนาคต และ Checklist ที่ผู้นำสามารถนำไปใช้ประเมินตนเองและองค์กรได้ทันที
====
🔍 1. จาก Framework → สู่ Philosophy: ย้อนกลับสู่แก่น 'Empirical + Emergent'
Scrum ที่หลายองค์กรใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มักถูกมองว่าเป็น “สูตรสำเร็จ” มี daily แล้ว มี retrospective แล้ว…ก็คิดว่ากำลัง Agile อยู่ ทั้งที่จริงๆ แล้ว Scrum เป็นเพียง “กรอบการเรียนรู้” (Framework for Learning) ไม่ใช่สูตรการทำงานตายตัว
Expansion Pack 2025 ตอกย้ำสิ่งนี้ด้วยการพาเรากลับไปเข้าใจหลักการพื้นฐาน 3 ข้อที่มักถูกละเลย
* Complexity Thinking: โลกเปลี่ยนเร็ว ความรู้เปลี่ยนตลอดเวลา การวางแผนที่แน่นอนล่วงหน้าเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ต้องเปลี่ยน mindset จาก "วางแผนและควบคุม" → "ทดลองและเรียนรู้"
* Empiricism: การตัดสินใจต้องตั้งอยู่บนหลักฐานและการสังเกต ไม่ใช่ความเชื่อหรือ hierarchical opinion
* Lean Thinking: ลดสิ่งที่ไม่สร้างคุณค่า (waste), ลดกระบวนการที่ซับซ้อน และเปิดทางให้ flow ของคุณค่าไหลลื่นได้มากที่สุด
📌 ตัวอย่างเช่น Atlassian เปลี่ยนแนวทาง Daily จาก checklist-based → เป็น async + short sync เฉพาะวันจันทร์–พฤหัส ทำให้เวลาประชุมลดลง 30% และทีมมีเวลาโฟกัส deep work มากขึ้น ในขณะที่ backlog ยังเคลื่อนไหวอย่างมีทิศทาง
🧠 เริ่มที่ “กล้าเผชิญความไม่แน่นอน” ไม่ใช่แค่ทำตามขั้นตอนแบบปลอดภัย และถ้าองค์กรของคุณยังพูดว่า “เรามี Scrum แล้วนะ” แต่ทีมไม่รู้ว่าจะไปทางไหน…ก็ถึงเวลา Re-learn Scrum ใหม่ตั้งแต่ราก
====
🤖 2. เมื่อ AI กลายเป็นสมาชิกทีม (แต่ความรับผิดชอบต้องเป็นของมนุษย์)
Scrum Expansion Pack 2025 ยอมรับความจริงว่า “เพื่อนร่วมทีม” ของเราอาจไม่ใช่แค่ “มนุษย์” อีกต่อไป
AI กำลังกลายเป็น Dev Partner ที่ไม่เหนื่อย ไม่ลาป่วย และเรียนรู้ได้เร็ว แต่คำถามคือ "เรารับมือกับ AI ในฐานะ teammate ได้แค่ไหน?"
* AI คือผู้ช่วยตัดสินใจ ไม่ใช่คนตัดสินใจแทน: PO และ SM ต้องเป็นมนุษย์เพื่อรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ทั้งหมด
* AI = Accelerated Learning Partner: ใช้ช่วยวิเคราะห์ retrospective, discover pattern, validate outcome อย่างรวดเร็ว
* แต่ Human = Ethical Guardian: คำว่า “Done” ที่ AI บอกว่าสำเร็จแล้ว อาจยังไม่ใช่ “Impact” ที่องค์กรต้องการเสมอ
📌 ตัวอย่างเช่น บริษัท Product Design ในยุโรปทดลองให้ AI วิเคราะห์ retrospective log ของ 8 sprint ย้อนหลัง AI พบ blocker เดิมซ้ำกว่า 30% แต่ไม่เคยถูกยกขึ้นมาพูด เช่น “PO feedback ช้า” หรือ “ไม่มีผู้ตัดสินลำดับ priority” — พอแก้แค่ 2 จุดนี้ lead time ลดลง 18% โดยไม่ต้องเพิ่มคน
🧠 ในยุคที่ AI สร้างโค้ดให้ได้ ทีมจะชนะหรือแพ้…ไม่ได้อยู่ที่ “ใครเขียนโค้ดเก่งกว่า” แต่อยู่ที่ “ใครตั้งคำถามเก่งกว่า และกล้าร่วมเรียนรู้กับ AI อย่างมีวิจารณญาณ”
====
🎯 3. Outcome > Output: เปลี่ยนนิยาม “Done” ให้สอดคล้องกับ Business Value จริง
ใน Scrum เดิม เราใช้ “Definition of Done” เพื่อบอกว่างานเสร็จ เช่น Deploy แล้ว / Unit Test ผ่านแล้ว / Stakeholder Approve แล้ว
แต่คำถามใหม่ที่ Expansion Pack เสนอคือ แล้ว “Done” นี้ สร้าง Impact จริงหรือยัง?
จึงเกิดแนวคิดใหม่ = “Definition of Outcome Done”
* Outcome = ผลลัพธ์ที่ส่งผลต่อผู้ใช้และองค์กร เช่น เพิ่ม conversion, ลด churn, เพิ่ม adoption rate
* Sprint Goal = ต้องเชื่อมกับ OKR หรือ KPI ของผลิตภัณฑ์ ไม่ใช่แค่ deliverables
📌 ตัวอย่างเช่น ทีม UX ของ Booking.com ทดลองตั้ง Sprint Goal โดยใช้ Outcome-based Objective เช่น "ลด drop rate หน้า booking step 1" จาก 40% เหลือ 30% ภายใน 2 sprint ผลลัพธ์คือ ทีม focus แค่ 2 ฟีเจอร์ แต่เกิด impact เกิน 5 ฟีเจอร์ที่เคยทำมา
📌 ลองถามทีมใน Sprint Planning ว่า — “ถ้าเราทำฟีเจอร์นี้เสร็จแล้ว…เราคาดหวังให้พฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยนไปยังไง?” คำถามนี้เปลี่ยน Mindset ทันที
🧠 จากนี้ไป…คำว่า Done ต้องไม่ใช่แค่ “งานเสร็จ” แต่คือ “ผลลัพธ์เกิด” และ “พฤติกรรมผู้ใช้เปลี่ยน” เท่านั้นถึงจะเรียกว่า Agile ที่สร้างคุณค่าจริง
====
🏛️ 4. ไม่ใช่แค่ทีม แต่ต้องทั้งองค์กร: Adaptive Leadership และ Scaling ที่แท้จริง
หลายองค์กรติดกับ “Agile ในทีม” แต่ลืมว่า “ทีมไม่ได้อยู่ในสุญญากาศ” …เพราะทีมยังต้องทำงานอยู่ในระบบที่ล้าหลัง เช่น ระบบงบประมาณรายปีที่ไม่มีพื้นที่ให้ทดลองอะไรใหม่, IT governance แบบอนุมัติหลายชั้นที่ทำให้ทุก sprint ต้องหยุดรอ, และ KPI ที่ยังวัด “จำนวนสิ่งที่ทำเสร็จ” แทนที่จะวัด “ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น”
Scrum Guide Expansion Pack 2025 จึงเสนอกรอบคิดใหม่ที่ก้าวข้าม “การเปลี่ยนแปลงในทีม” ไปสู่ “การเปลี่ยนแปลงทั้งองค์กร” ด้วยแนวคิด
* Adaptive Leader = ผู้นำที่กล้าเข้ามาเรียนรู้พร้อมทีม ไม่ใช่คนที่สั่งงานจากบนลงล่าง แต่เป็นคนที่กล้าถาม “Sprint Goal นี้จะขับเคลื่อนธุรกิจยังไง?” และกล้าร่วมอยู่ใน Retrospective เพื่อฟัง feedback ที่อาจจะไม่สบายหู
* Adaptive Enterprise = ระบบที่ให้พื้นที่กับการทดลอง เช่น มีงบประมาณแยกเฉพาะเพื่อ Innovation Sprints, มี policy ชัดเจนว่าถ้า experiment fail แล้วได้บทเรียน → ไม่ถือว่าเป็นความล้มเหลว
* Scaling Scrum ที่แท้จริง = ไม่ใช่แค่มีหลายทีม Scrum แล้วแชร์ Jira board เดียวกัน แต่ต้องมี Product Goal เดียว, Outcome ร่วมกัน, และมีพื้นที่ให้แต่ละทีมทดลองแนวทางของตัวเองภายใต้กรอบเดียวกัน
📌 Checklist สำหรับผู้บริหารและองค์กร?
1. Sprint Goal ของทีมเชื่อมกับ Business KPI ไหม? หรือแค่ทำ task ตาม backlog?
2. ผู้บริหารเคยเข้าร่วม Retrospective แบบฟังเต็มใจ ไม่ออกคำสั่งกลางวงหรือไม่?
3. องค์กรมีนโยบายหรือ budget สำหรับ “Safe-to-fail Experiment” ที่ชัดเจนหรือยัง?
4. มีพื้นที่ใน KPI หรือ OKR สำหรับ “การเรียนรู้และพัฒนา” ไม่ใช่แค่ “performance ที่วัดได้เท่านั้น” หรือไม่?
5. มีใครในทีมสามารถทดลองแนวทางใหม่ๆ ได้โดยไม่ต้องขออนุมัติ 5 ลายเซ็นไหม?
📌 ตัวอย่างองค์กร เช่น Spotify เริ่มต้นแบบทีมเล็ก แต่สามารถ Scale Agile ได้เพราะผู้นำเปิดพื้นที่ให้ทุก Squad มี autonomy จริง พร้อมมี Chapter และ Guild ที่สนับสนุนการเรียนรู้ข้ามทีมแบบ bottom-up ไม่ใช่แค่รายงานผลลัพธ์ขึ้นบนอย่างเดียว
🧠  องค์กรไม่สามารถเติบโตในองค์กรที่ผู้นำยัง “ควบคุมทุกอย่าง” และไม่กล้าเปิดพื้นที่ให้ “การเรียนรู้ผ่านการล้มเหลว”
การ Scaling ที่แท้…เริ่มจากการเปลี่ยนแปลงภายในใจผู้นำ → ค่อยส่งผลสู่ระบบ → และในที่สุดจึงเกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของทีมทั้งองค์กร
====
📊 AI-Enhanced Scrum Loop: วงจรการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI
"Sprint Planning → AI Suggestion → Human Review → Dev → Validate Outcome → Retrospective (Human + AI Analysis)"
คำอธิบาย คือ “วงจรนี้สะท้อนการทำงานแบบ Agile ที่ขยายขอบเขตออกไปจากการทำงานของมนุษย์เพียงอย่างเดียว โดยมี AI เข้ามาเป็นผู้ช่วยเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยเร่งการเรียนรู้ และสร้าง Feedback Loop ที่ลึกและเร็วขึ้น"
1. Sprint Planning: ทีมตั้ง Sprint Goal ที่เชื่อมโยงกับ Outcome จริง เช่น เพิ่ม retention / ลด churn
2. AI Suggestion: ใช้ AI วิเคราะห์ pattern จาก historical backlog, user journey หรือ product analytics เพื่อเสนอแนวทางเลือกใน backlog ที่ align กับ Goal
3. Human Review: PO และ Dev Team ประเมินความเหมาะสม และตัดสินใจเลือกทางที่ตอบโจทย์ที่สุด (AI ไม่ได้ตัดสินใจแทน)
4. Dev: ดำเนินการพัฒนา feature หรือ experiment ตามที่เลือกไว้ พร้อมใส่ tagging เพื่อเก็บผลลัพธ์วัดผลภายหลัง
5. Validate Outcome: ใช้ AI วิเคราะห์ผลกระทบจริง เช่น conversion เพิ่มขึ้นหรือไม่, ความพึงพอใจลูกค้าดีขึ้นหรือไม่, เสียงจาก Social Listening เปลี่ยนหรือไม่
6. Retrospective (Human + AI Analysis): วิเคราะห์ร่วมกันว่า "อะไรคือสิ่งที่เปลี่ยนจริง?" และ "จะเรียนรู้อะไรจากสิ่งที่ยังไม่เปลี่ยน?"
Role Mapping?
* PO: เจ้าของ Outcome และผู้ออกแบบคำถามที่ดีให้ AI ช่วยตอบ
* SM: ดูแล flow และความชัดเจนของ feedback loop ให้ไม่หลุดเป้าหมาย
* AI: วิเคราะห์, เสนอทางเลือก, สังเคราะห์ผลลัพธ์ให้เร็วขึ้น
* Dev: ลงมือทำ + เติม data point เพื่อ validate outcome
* Stakeholder: ร่วมสังเกตและให้ความเห็นเชิงคุณค่าที่ AI ไม่สามารถวัดได้
Key Concept = “คนตั้งคำถาม–AI วิเคราะห์–ทีมตัดสินใจ–วัดผลด้วย Outcome” → สร้างการเรียนรู้แบบ real-time ที่มีทั้งข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพ กลั่นกรองร่วมกันอย่างมีสติ
📌 Use Case เช่น บริษัท E-commerce แห่งหนึ่งใช้ AI วิเคราะห์ voice of customer จาก social + form data ทำให้รู้ว่าฟีเจอร์ "เก็บสินค้าไว้ก่อนซื้อ" ที่ทีม dev เคยมองข้าม…เป็น feature ที่ลูกค้าร้องขอมากที่สุดในช่วงโปรโมชัน พอทีม prioritize feature นี้ใน Sprint ถัดไป conversion เพิ่มขึ้น 12% ทันที
====
✨ ดังนั้น Scrum ไม่ใช่กรอบตายตัว แต่คือระบบนิเวศของการเรียนรู้แบบมีชีวิต
“Scrum ที่ไม่มีการปรับตัว = แค่กรอบการประชุมที่แปะชื่อ Agile แต่ไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเลย”
Scrum Guide Expansion Pack 2025 ไม่ใช่คู่มือใหม่…แต่เป็นกระจกเงา
* คำถามที่เราต้องกล้าถามคือ: เราใช้ Scrum เพื่อ “ส่งมอบงาน” หรือ “สร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้” กันแน่?
* และคำตอบ…ไม่มีในหนังสือ…แต่มีอยู่ในการกระทำเล็กๆ ของทีมคุณ…ใน Daily ที่กล้าถามความจริง, ใน Retrospective ที่ฟังกันด้วยใจ, หรือในการตั้งคำถาม Sprint Goal ที่กล้าท้าทาย Comfort Zone
Scrum ที่ดี = กระบวนการที่ยังมีชีวิต พร้อมวิวัฒนาการไปพร้อม “ทีม”, “เทคโนโลยี” และ “โลก” ที่เปลี่ยนอยู่ทุกวัน
====
อ้างอิง
1. Scrum Guide Expansion Pack (2025) - https://scrumexpansion.org/scrum-guide-expansion-pack/
2. Podcast สรุป Scrum Expansion Pack (2025) - https://youtu.be/FmcvRv41OnQ
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#ScrumExpansion2025
#OutcomeOverOutput
#AIinAgile
#LeadershipForScrum
#TeamBeforeTemplate
#AdaptiveEnterprise
โฆษณา