Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
aomMONEY
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
3 ส.ค. เวลา 12:56 • อสังหาริมทรัพย์
"บ้านพังไม่จ่าย - ตายคืนเบี้ย"
ก่อนทำประกันต้องรู้ "ประกัน" ส่วนใหญ่ไม่คุ้มครองกรณี "เกิดสงคราม-การจลาจล" เหตุความเสี่ยงสูง ประเมินความเสียหายยาก
ความขัดแย้งและความไม่สงบเป็นเหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ ดังเช่นเหตุการณ์ตามแนวชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาในขณะนี้ ที่นำมาซึ่งความเสียหายทั้งต่อชีวิตของผู้คนและทรัพย์สินที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบาก
ท่ามกลางความสูญเสียเหล่านี้ คำถามสำคัญที่น่าสนใจคือ “หากเกิดสถานการณ์สงคราม การจลาจล หรือความไม่สงบขึ้น ประกันภัยที่เราทำไว้จะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นหรือไม่?”
ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อยกเว้นของประกันภัยประเภทต่างๆ ในสถานการณ์สงคราม เพื่อให้คุณสามารถเตรียมพร้อมและวางแผนได้อย่างรอบคอบมากยิ่งขึ้น
➡️[ “ประกัน” กับความคุ้มครองในช่วง “สงคราม” ]
โดยทั่วไปแล้ว สงคราม การจลาจล หรือความไม่สงบ ถือเป็นหนึ่งในข้อยกเว้นหลักของกรมธรรม์ประกันภัยเกือบทุกประเภท
ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันทรัพย์สินอย่างประกันรถยนต์และประกันภัยบ้าน
นั่นหมายความว่า หากความเสียหาย การบาดเจ็บ หรือการเสียชีวิตเกิดขึ้นโดยตรงจากเหตุการณ์เหล่านี้ บริษัทประกันส่วนใหญ่จะไม่ให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ปกติ
➡️[ ทำไมประกันไม่คุ้มครองกรณีเกิดสงคราม? ]
เหตุผลหลักที่บริษัทประกันภัยส่วนใหญ่ยกเว้นความคุ้มครองในกรณีสงคราม การจลาจล หรือความไม่สงบ คือ “ความเสี่ยงที่สูงเกินกว่าจะประเมินและคิดเบี้ยประกันภัยได้ตามปกติ”
ภาวะสงครามเป็นเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ มีผลกระทบในวงกว้าง และก่อให้เกิดความเสียหายที่อาจครอบคลุมไม่จำกัด ทำให้การบริหารจัดการความเสี่ยงเป็นไปได้ยากและไม่สามารถประมาณการความเสียหายได้แม่นยำสำหรับบริษัทประกัน
จริงๆ แล้วการมี "War exclusion clause (ข้อยกเว้นสงคราม)” เป็นมาตรฐานที่ใช้ทั่วโลก เพื่อป้องกันความเสี่ยงขั้นร้ายแรงและไม่จำกัดของเหตุการณ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ บริษัทประกันอาจไม่มีทรัพย์สินเพียงพอที่จะจ่ายค่าชดเชยสำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในระดับสูงและรุนแรงเกินไป เช่นเดียวกับภัยพิบัตินิวเคลียร์ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อยกเว้นที่ประกันส่วนใหญ่ไม่คุ้มครองเนื่องจากความเสียหายที่ประเมินค่าไม่ได้
➡️[ นิยามของ "สงคราม" แต่ละแบบประกันอาจต่างกัน ]
สิ่งสำคัญที่สุดคือการศึกษาและทำความเข้าใจ เงื่อนไข ข้อยกเว้น และคำนิยามต่างๆ ในกรมธรรม์ประกันภัยของคุณอย่างละเอียด โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับ “สงคราม” หรือ “การสู้รบ”
เพราะแต่ละกรมธรรม์อาจมีคำนิยามของ “สงคราม” ที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจรวมถึงการประกาศสงครามหรือไม่ก็ตาม การสู้รบ การรุกราน การก่อกบฏ การจลาจล หรือการก่อการร้าย
การอ่านรายละเอียดเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจขอบเขตความคุ้มครอง และหากมีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจในเงื่อนไขใดๆ ควรสอบถามจากตัวแทนประกันภัยหรือบริษัทประกันโดยตรง เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนที่สุด
➡️[ หากประสบเหตุในช่วงสงคราม “ประกัน” จะมีผลอย่างไร? ]
แม้ว่าโดยทั่วไปประกันจะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากสงครามโดยตรง แต่ผลที่ตามมาสำหรับผู้เอาประกันภัยจะแตกต่างกันไปตามประเภทของประกัน เช่น
• ประกันชีวิต
หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตจากสงครามโดยตรง บริษัทประกันชีวิตส่วนใหญ่จะ “ไม่จ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์”
แต่ “ผู้รับผลประโยชน์มักจะได้รับคืนเฉพาะเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปแล้ว” ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์นั้นๆ
เบี้ยประกันที่คืนมานั้นจะได้โดยไม่มีดอกเบี้ย หรืออาจจะคืนในส่วนที่ระบุว่า “เบี้ยประกันส่วนที่ไม่คุ้มครอง” ตามเงื่อนไข
นอกจากนี้ ในบางกรมธรรม์ อาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติมว่า หากผู้เอาประกันภัยเข้าเป็นทหารประจำการในกองทัพและเข้าปฏิบัติการในสงครามหรือปราบปรามเกินระยะเวลาที่กำหนด (เช่น 30 วัน) บริษัทจะคืนเบี้ยประกันภัยตั้งแต่ระยะเวลาที่เข้าปฏิบัติการนั้นจนถึงวันสิ้นสุดการปฏิบัติการ เป็นต้น
• ประกันสุขภาพและประกันอุบัติเหตุ
หากการเจ็บป่วย การบาดเจ็บ หรือการเสียชีวิตเกิดขึ้นโดยตรงจากภาวะสงคราม การสู้รบ การจลาจล หรือการก่อการร้าย ประกันประเภทเหล่านี้จะไม่ให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลหรือค่าสินไหมทดแทน
อย่างไรก็ตาม หากเป็นการเจ็บป่วยด้วยโรคปกติหรืออุบัติเหตุทั่วไปที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สงครามโดยตรง ประกันยังคงให้ความคุ้มครองตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
• ประกันเดินทาง
หากเกิดเหตุการณ์สงคราม การจลาจล หรือการก่อการร้ายในพื้นที่ที่คุณเดินทางไป บริษัทประกันอาจปฏิเสธความคุ้มครองในกรณีการบาดเจ็บ เสียชีวิต การยกเลิกเที่ยวบิน หรือความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว
• ประกันภัยบ้าน
ความเสียหายที่เกิดจากการประท้วง การก่อจลาจล หรือภัยสงคราม จะไม่ได้รับการคุ้มครอง รวมถึงการโจรกรรมที่เกิดขึ้นในช่วงสถานการณ์ดังกล่าวด้วย
• ประกันรถยนต์
หากรถยนต์เสียหายจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการจลาจล การกระทำของทหาร/เจ้าหน้าที่ภายใต้กฎอัยการศึก การปะทะทางทหาร การป้องกันการก่อการร้าย การโดนลูกหลง รถถูกทำลายจากอาวุธ หรือการถูกยึดรถ ประกันจะไม่คุ้มครอง
แม้แต่กรณีที่รถชนกันเพราะหลบเหตุการณ์สงครามหรือความไม่สงบ ก็จะไม่ได้รับการคุ้มครอง
อย่างไรก็ตาม หากเป็นอุบัติเหตุทั่วไปที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ เช่น ชนท้ายตามปกติ หรือรถลื่นไถลในฝน ประกันยังคงคุ้มครองตามปกติ (หากมีประกันชั้น 1 หรือ 2+ ที่ครอบคลุมความเสียหายของรถคันเอาประกัน)
➡️[ ประกันภัยสงคราม (War Risk Insurance) คืออะไร? ]
"ประกัน War Risk" (War-risk insurance) คือกรมธรรม์เฉพาะที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองความเสียหายจากสงคราม การจลาจล หรือการกระทำที่มีลักษณะทางสงคราม เช่น การรุกราน หรือการจลาจล
อย่างไรก็ตาม เบี้ยประกันสำหรับประกัน War Risk มักจะสูงกว่าประกันทั่วไปมาก และไม่ได้มีให้บริการทั่วไปในประกันรถยนต์ปกติ โดยเฉพาะในประเทศไท
ประกัน War Risk มักถูกนำไปใช้ในธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ธุรกิจเรือเดินทะเลหรือสายการบิน
แต่ในบางกรณี หากเราอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือมีความกังวลว่าการคุ้มครองปัจจุบันอาจไม่เพียงพอ คุณควรสอบถามบริษัทประกันภัยหรือโบรกเกอร์ถึงตัวเลือกการซื้อประกันเสริม เช่น War-risk พร้อมประเมินค่าเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งอาจเป็นกรมธรรม์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อคุ้มครองความเสี่ยงจากสงครามหรือการก่อการร้ายโดยเฉพาะ แต่จะจำกัดความคุ้มครองในเงื่อนไขที่เฉพาะเจาะจง
โดยสรุปแล้ว ภาวะสงคราม การจลาจล การปฏิวัติ หรือความไม่สงบ ถือเป็น ข้อยกเว้นหลักในกรมธรรม์ประกันภัยเกือบทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ หรือประกันภัยบ้าน
เหตุผลเบื้องหลังคือความเสี่ยงที่สูงเกินกว่าจะประเมินและบริหารจัดการได้ตามหลักการประกันภัยปกติ
หากความเสียหายหรือการเสียชีวิตเกิดขึ้นโดยตรงจากเหตุการณ์เหล่านี้ บริษัทประกันส่วนใหญ่จะไม่จ่ายผลประโยชน์ตามกรมธรรม์ อย่างไรก็ตาม สำหรับประกันชีวิต หากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตจากเหตุการณ์สงคราม ผู้รับผลประโยชน์มักจะ ได้รับคืนเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปแล้ว
แม้ว่าประกันภัยปกติจะไม่สามารถคุ้มครองได้ทุกอย่างในสถานการณ์วิกฤตเช่นสงคราม แต่การมีประกันพื้นฐานที่ดีก็ยังคงเป็นรากฐานสำคัญของการวางแผนทางการเงินเพื่อปกป้องตนเองและคนที่คุณรัก การมีข้อมูลที่ถูกต้องจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างรอบคอบในการวางแผนความคุ้มครองในยามที่โลกเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนนี้ หากมีข้อสงสัยใดๆ แนะนำปรึกษาตัวแทนประกันภัยของตัวเองหรือติดต่อสำนักงาน คปภ. เพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติม
อ้างอิง:
-
https://rabbitcare.com/.../if-war-breaks-out-what
...
-
https://www.msig-thai.com/.../scenarios-your-home
...
-
https://www.facebook.com/fconsumerthai/posts/pfbid02PedtE2iCMiqXQY7oPU8V26N2Qa7kMUmiU2WTSvmxGsS6f4ajPCXmsjGGN2Bd1WYxl
#CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #aomMONEY #ประกัน #สงคราม #ไทยกัมพูชา
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย