3 ส.ค. เวลา 15:22

บ้านหมุน

เป็นเดือนเลยกว่าจะได้กลับมาเขียนเรื่องนี้
เรื่องออกกำลังกาย
มีความตั้งใจที่จะเดินให้ได้ 10,000 ก้าวในทุกวัน และวิ่งเดิน 3-5 โล ทุกสุดสัปดาห์อย่างน้อย 2 วัน ช่วงหลังขอแถมให้ วิดพื้น กล้ามท้อง และยกเวทหน่อย จะได้สร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งก็ถือว่าสามารถทำได้ค่อยข้างดีต่อเนื่อง ทำได้สัก 3 วันต่ออาทิตย์ (ยกเว้นวิดพื้น)
เรื่องนอน
ก็ทำได้ดี 7+ ชม. เกือบทุกวัน เพราะนอนพร้อมลูก สามทุ่มกว่าๆ ก็นอนแล้ว แต่ต้องตื่นเช้าไปส่งลูกตอน 5.45 ด้วย
เรื่องกิน
ทำ IF ได้ติดต่อกันช่วงวันทำงาน คือ ไม่ทานข้าวเช้า ทานแต่กาแฟ อเมริกาโน่เย็นไม่ใส่น้ำตาลอย่างเดียว ทำให้รู้สึกหิวดีและกินข้าวกลางวันเต็มที่
เรื่องสุขภาพ
รู้อยู่ว่ามีความดันสูง และฉี่บ่อยขึ้น ตอนนอน ก็พยายามรักษาสุขภาพอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
จึงคิดมาตลอดว่า ดูแลตัวเองได้น่าพอใจ ถึงแม้จะไมได้แข็งแรงอะไรมากมาย
ช่วงก่อนหน้าที่จะป่วยกระทันหัน มีเดินทางไปต่างประเทศ นอนไม่เป็นเวลา
เดินเยอะ แต่ไม่ปวดอะไร คงเป็นเพราะที่เดินหมื่นก้าวสม่ำเสมอ
ไม่วาย ก็มีเหตุการณ์บังคับ คือ นอนดึกติดกัน 2 คืน (หลังเที่ยงคืน) คือ ต้องประชุมเลิกดึก และเรื่องที่คุยกันก็เครียดด้วย ทำให้การนอนเลยไม่ปกติตาม
พอตื่นมาตอนเกือบ 6 โมงเช้า ลุกไปเข้าห้องน้ำ กะว่าฉี่สักหน่อยแล้วจะกลับมางีบอีกสักหน่อย ดันปวดท้องอึ (แบบเบ่งเต็มที่) เสร็จแล้วออกไปกินน้ำ 1 แก้ว กลับไปนอน
เกิดอาการเวียนหัวมาก ถึงขั้นต้องเรียกภรรยาหาถุงให้อ้วก
ก็อ้วกไปชุดใหญ่ มีแต่น้ำที่เพิ่งดื่มไปออกมา และต้องออกไปนั่งนิ่งๆ นอกห้อง
ขอยาลม ทั้งดมและผสมน้ำกิน กินเท่าไรก็อ้วกออกเท่านั้น
พอดื่มน้ำไป 2 จิบ ก็อ้วกออกมาอีก
ทำอะไรไม่ได้ นอกจากนั่งเฉยๆ เพราะนอนก็จะมึนหัวมาก เลยอยู่ในท่านั่งกึ่งนอนและม่อยหลับไป
ได้งีบไปสัก 2 ชม. ตื่นขึ้นมา รู้สึกดีขึ้นแต่ก็ไม่กล้ากินอะไร เพราะกลัวจะอ้วกออกมาอีก
วันนั้นก็เลยไม่ได้ไปทำงาน ไปหาหมอแทน
หมอสรุปว่าเป็น "บ้านหมุน"
ก็เพิ่งเข้าใจว่าบ้านหมุนเป็นแบบนี้นี่เอง
ถ้าเอาสรุปง่ายๆ คือพักผ่อนน้อย เครียดสะสม และความอ่อนแอตามวัย
(มีสิ่งที่ประทับใจ ค่อ ลูกชายตามติดตลอดตอนอยู่ รพ. น่ารักมาก )
วันนั้นก็เลยได้นั่งทบทวน ว่า จริงๆ แล้ว ร่างกายมันเตือน
อะไรที่มันมากไป หรือน้อยไป มักจะไม่ดี
ไม่เหมือนสมัยวัยรุ่นที่ทำอะไรไม่บาลานซ์ ก็ยังทำต่อได้
แต่พออายุเลยเลข 4 แล้ว มันก็ต้องค่อยเป็นค่อยไป
ภายหลัง ได้มานั่งพิจารณาเรื่องนี้ ก็เข้าใจมากขึ้น
บ้านหมุนครั้งนี้ บอกเราแบบชัดเจนว่า ถ้าเราไม่ดูแลตัวเองให้สมดุลกว่านี้ จะแย่แน่นอน นี่ถือว่าปราณีมากแล้ว
นอกเหนือจากเรื่องที่ต้องดูแลตัวเองให้ดีขึ้น คือ ออกกำลังกายให้สมวัยมากขึ้น (ออกให้หนักกว่านี้อีกหน่อย) กินให้ Healthy และไปตรวจสุขภาพจริงจังตามวัยด้วย
สิ่งที่ปรารถนาสูงสุด จริงๆ แล้ว คือ
1) อยากอยู่กับลูกและภรรยาไปนานๆ อยากเห็นเขาโต และอยากเห็นตัวเราเองได้ไปอยู่ในโมเม็นต์สำคัญของเขา
 
2) อยากเดินทางกับภรรยา และใช้ชีวิตแบบคนแก่ไปพร้อมๆ กัน
 
3) ดูแลพ่อแม่ตามความสามารถ
สิ่งที่รองลงมา คือ
1) มีสังคม มีสิ่งแวดล้อม รายล้อมไปด้วยผู้คนที่มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน - เราต้องสร้างขึ้นมา
 
2) Purpose ในงานต้องเคลียร์ให้ชัด และเดินไปเส้นทางนั้น แน่นอนเราอาจจะไม่ได้ทำเหมือนดั่งใจหวังได้ขนาดนั้น แต่อย่างน้อย Intrinsic Value ของงานที่เราจะทำ ต้องเป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุด เหนือสิ่งอื่นใด
 
3) WHY ที่เรามี ต้องขยายวงให้กว้างมากขึ้น ส่งผลกระทบให้มากขึ้นด้วย
นอกเหนือจาก 2 สิ่งนี้แล้ว ไม่มีอะไรสำคัญอีก
งานที่มี เหมือนการแก้ปัญหารายวัน อย่าไปจริงจัง เพราะมันเป็นแค่ "จุด" หนึ่งที่เชื่อมกันไปทุกวัน หน้าที่เราคือประคองจุดไปเรื่อยๆ
ถ้ามีโอกาสที่จะได้แสดงศักยภาพ ก็ทำไป (นั่นคือ Purpose)
ใครมันจะเห็นอย่างไร ช่างมัน
Content (Intrinsic Value) สำคัญที่สุด และคนที่ใช่จะเห็นเอง
ชีวิตนั้นสั้นและบอบบางนัก (ดูบ้านหมุมครั้งนี้เป็นบทเรียน - เกือบไปแล้ว)
มีสติ และ Enjoy ความสุขในแบบของเราดีกว่า!
โฆษณา