4 ส.ค. เวลา 21:32 • การเมือง

แผ่นดินของเรา Season 2 EP.5

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ก่อนที่จะไปอ่านนิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนขอให้ทุกท่านโปรดช่วยกดไลก์ กดติดตาม และกดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนในการทำบทความหรือนิยายต่อๆไป
สถานตำรวจภูธรเชียงดาวถูกทำลายโดยขีปนาวุธ BM-21 Grad จากกองทัพบกเชียงหลวง ส่งให้ผลเจ้าหน้าที่ตำรวจหนีตายกันอลหม่าน นี่คือการโจมตีที่ร้ายแรงที่สุดที่สารวัตรแสงทองเคยพบเห็น ไม่ใช่แค่สภ.แห่งนี้อานุภาพการทำลายล้างส่งผลให้ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนซ้ำรอยเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีที่แล้วไม่มีผิดเพียงแต่รอบนี้มันไม่ได้เกิดที่อีสานใต้มันเกิดที่ภาคเหนือ
ช่วงใกล้ยามวิกาลของการโจมตีวันแรก มีการตรวจพบว่าทหารเชียงหลวงส่งโดรนขึ้นบินสอดแนมที่ตั้งทางการทหาร ทำให้ทางกองทัพอากาศออกคำสั่งห้ามบินโดรนทั่วราชอาณาจักร เหตุการณ์นี้สร้างความตึงเครียดมากขึ้นแก่ประชาชนในพื้นที่ รวมถึงสร้างความหวั่นตกต่อชาวไทยที่ใช้งานโดรนจำนวนมาก
ไปดูกันที่ชายแดนใกล้ประเทศเพื่อนบ้านที่ทำเป็นศัตรูกับไทย 3 วันผ่านไป หน่วยทหารพรานของหมวดโชติยังคงเดินทางต่อไปจนกว่าจะมีความหวังมาถึง หมวดโชติคุยกับลูกน้อง "ผมว่าเราน่าจะพักตรงนี้นะ" จ่าอ๊อดถาม "จะดีเหรอครับหมวด ถ้ามันตามมายิงผมว่าเราไม่น่าจะรอดนะครับ" หมวดวัย 27 ปี บอกกับจ่าอ๊อด
"ที่นี่ผมประเมินแล้วเป็นพื้นที่ปลอดภัย ไม่มีการตรวจจับจากทหารข้าศึก พวกเราพักที่นี่ได้" ทหารพรานนักรบชุดดำทั้ง 5-6 นายที่รอดชีวิตทำการจัดสถานที่สำหรับค้างคืน ที่นี่คือถ้ำอันกว้างใหญ่ไพศาล แม้จะดูสวยงามด้วยธรรมชาติจากแร่และหินต่างๆ แต่ที่นี่คือที่พักพิงชั่วคราวาำหรับพวกเขา
พวกเขาไม่ได้นอนโรงแรมห้าดาว ไม่ได้นอนบนเตียงในบ้าน ไม่ได้นอนรีสอร์ท พวกเขานอนบนพื้นแข็งๆใช้หมวกเบเรต์หรือถอดเสื้อสีดำที่พวกเขาใส่รบทำเป็นหมอน
อีกฟากหนึ่งที่อาคารกองบังคับการ กองบิน 4 ตาคลี ผู้ฝูงพิศาลทำการ Brief ให้นักบินทุกนายฟัง โดยจะลดระยะเวลาในการฝึกบินโจมตีจากเดิม 6 สัปดาห์ เหลือ 2 สัปดาห์ เนื่องจากความขัดแย้งได้ปะทุขึ้น "ในการโจมตีนี้เราจะใช้เครื่องบินขับไล่เอฟ-16 จำนวน 8 เครื่อง หมู่บิน 4 เครื่องแรกจะมี CANON , AMERICA , ODIN และ URANIUM หมู่บินที่ 2 4 เครื่องถัดมา นำหมู่บินโดย  EVIL , THANOS , ZEUS และ  VIRUS"
"เราจะบินไปฝึกทิ้งระเบิดที่ "CHANDY RANGE" (สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล) ด้วยลูกระเบิด Mk.82 ติดตั้งกับชุดคิท KGGB ที่มีความแม่นยำสูง อย่างไรก็ดีในการโจมตีจะต้องมีเครื่องบินข้าศึกบินมาสกัดกั้นเราด้วย โดยจะให้ Gripen ที่บินมาจากกองบิน 7 สุราษฎร์ธานีที่มาวางกำลัง ณ ตาคลี ทำหน้าที่จำลองสถานการณ์ในครั้งนี้เนื่องจากข้าศึกมีเครื่องบินขับไล่ J-10 ที่พึ่งจัดมาไม่กี่ปีมานี้ ฉะนั้นเราจะใช้เครื่องบิน Gripen มาร่วมสมมุติสถานการณ์ในครั้งนี้ด้วย"
ODIN ถาม AMERICA "ผู้ฝูงครับ จากที่เช็คสภาพอากาศในวันฝึกบินของพวกเรา ผมว่าวันแรกของการฝึกมีเมฆมากและฝนตกหนักในยามเช้าขอเลื่อนเป็นวันที่ 2 ของการฝึก เพราะวันนั้นสภาพอากาศปลอดโปร่ง ผู้ฝูงเห็นด้วยไหมครับ"
นาวาอากาศโทพิศาล เตชะอำพล "AMERICA" ผู้บังคับฝูงบิน 403 และนักบิน F-16 รุ่นพี่มากประสบการณ์ตอบ "ผมเห็นด้วยกับคุณ ใครมีอะไรจะเสนอไหม ถ้าไม่มีผมจะขอปิดการ Brief เพียงเท่านี้" พลอากาศเอกเจษฎากรณ์ พลังวาณิช "VIRUS" ผู้บัญชาการทหารอากาศและอดีตผู้บังคับการกองบินที่เคยนำหมู่บิน F-16 ไปรบกับกัมพูชาเมื่อ 10 ปีก่อนกล่าวเสริม
"ในความคิดของผมแล้ว ผมว่าเราควรจะประสานกับหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษมาร่วมกับทำการฝึก clear ระบบป้องกันภัยทางอากาศและเรดาร์ในพื้นที่ที่เราจำลองว่าเป็นพื้นที่ข้าศึก จากนั้นก็จะส่งฝูงบิน F-16 เข้าโจมตีพร้อมกับ AT-6TH ที่มาร่วมฝึกด้วย โดยจะใช้ระเบิดฝึกเป็นหลัก ส่วนระเบิดจริงในการรบเราจะใช้แน่นอน ผมลืมบอกไปในการฝึกนี้ควรจะมีการนำรถถังและทหารราบมาร่วมด้วย เพื่อเป็นการปิดฉากการฝึกซ้อมรบของเรา"
ในขณะที่การ Brief เป็นไปอย่างเข้มข้น ที่ประเทศเชียงหลวง ณ กองบัญชาการทหารบกในกรุงมะหยิ่น "ข้าว่า F-16 นี่แหละคือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เราต้องเอาคืนกองทัพไทย" ทหารยศพลเอกพูด "ท่านนายพล ข้าเห็นแล้วว่า F-16 ฤทธิ์เดชมันเเรงตั้งแต่ไปทิ้ง KGGB ใส่กัมพูชาจนต้องสูญเสียทหารไปจำนวนมาก หรือแม้แต่การสอนเครื่องบินขนยาเสพติดฝ่ายเราตก F-16 มันก็ทำได้ ท่านจะให้เรานิ่งเฉยกับเรื่องได้หรือไรขอรับ" ลูกน้องพูดกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดเชียงหลวง พลเอกดาว เรืองรอง
"พวกเจ้าเตรียม PHL-03 และ J-10 ให้พร้อม รอ F-16 บินมาติดกับข้าจะได้สะใจที่พวกมันโดนเรายิง (หัวเราะ)" จากนั้นทหารเชียงหลวงอีกนายพูดตัดบท "แย่แล้วขอรับท่าน" "มีเรื่องอันใดฤา" "ขณะนี้ข้าไปได้ข่าวจากทหารไทยแปรพักตร์นายหนึ่งว่า ทหารไทยระบาดสะพานทิ้งไปแล้ว หากเป็นเช่นนี้รถถังหาข้ามไปโจมตีฝั่งไทยได้ไม่ขอรับ"
"โธ่เอ้ย ข้าเจ็บใจทหารไทยจริงๆ" พลเอกดาว พูดจบ รัฐบาลข้าศึกสั่งใช้กฎอัยการศึกห้ามประชาชนออกนอกบ้านทันที
ตัดภาพไปที่ร้อยโทโชติ ใจอาสา ทหารพรานหนุ่มพร้อมพรรคพวก ขณะนี้กำลังเดินทางหาทางออกจากป่าอันกว้างใหญ่แห่งนี้ หลังจากที่ฐานทัพของพวกเขาถูกจัดการโดย BM-21 Grad พวกเขาเดินฝ่าทุ่งหญ้าที่สูงท่วมหัวและเถาวัลย์จำนวนมากรวมถึงทุ่นระเบิดที่ทหารเชียงหลวงวางไว้เพื่อมีเจตนาให้ทหารไทยกลายผีเฝ้าป่าไม่ต่างจากบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
ขณะที่จ่าอ๊อดกำลังเดินนำหน้าขาไปเหยียบโดนบางสิ่งบางอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจ นั่นคือทุ่นระเบิด PMN-2 เขายังเดินต่อไปได้ไม่นานจากนั้นขาอีกที่รอดมาได้เพียงข้างเดียวก็โดนกับระเบิดทำให้เสียชีวิตในที่สุด ส่วนหมวดโชติตัวลอยไปกระทบกับท่อนไม้แต่ไม่สลบเพราะมีพระห้อยคอคุ้มครอง จึงช่วยพาอาสาสมัครทหารพราน เดช และอาสาสมัครทหารพราน รังสรรค์ ออกมาจากพื้นที่
แต่ทว่าทหารข้าศึกโผล่ออกมายิงปืน AK-47 จัดการทหารพรานทั้ง 3-4 นาย พวกเขาแม้จะมีกำลังพลไม่มากแต่ก็มีขวัญกำลังใจที่จะต่อสู้จนวินาทีสุดท้าย ทั้งปืนอาก้า ปืน M16 ปืน RPG ยิงใส่กันตู้มต้ามทำให้ป่ายามค่ำคืนเปลี่ยนจากอันเงียบสงัดไปป่าที่มีเสียงปืนทำหมู่สัตว์แตกกระเจิง
มีทหารนานหนึ่งอายุเท่าหมวดโชติขว้างระเบิดที่เขา เขาจึงเตะด้วยรองเท้าผ้าใบที่เขาใส่ไปที่ทหารข้าศึก จนโดนระเบิดฝ่ายตัวเองเสียชีวิต
ทหารพรานทุกนายที่รอดชีวิตไม่มีใครใส่รองเท้าคอมแบต เพราะมันหนักเกินไปจึงก้าวข้ามกระเบิดไม่พ้น ดังนั้นการที่ใส่รองเท้าผ้าใบจึงเหมาะสมกับการเคลื่อนที่ที่คล่องแคล่วเมื่อรบในป่า
ทหารพรานไทย 3-4 นายแยกกันปะทะตามยุทธวิธีกองโจรกับทหารข้าศึกทั้ง 12 นายที่ถูกส่งมาเพื่อช่วยเหลือลูกน้องที่ถูกทางการไทยจับหลังจากโดนเครื่องบิน F-16 ยิงตก บางนายโดนล่อไปโดนกับระเบิดจนพิการบ้าง มีเสียชีวิตบ้าง บางนายก็ถูกการโจมตีแบบสายฟ้าแลบด้วยอาวุธปืนจากนักรบชุดดำทหารพราน จนกระทั่งขณะนี้มี 4 ต่อ 4 ที่จะต้องปะทะกันตัวต่อตัว
หมวดโชติเข้าไปแย่งมีดยาวที่ทหารเชียงหลวงนายหนึ่งจะฟันเขา มาต่อสู้แต่ก็ถูกทหารอีกนายยิงอาก้าใส่ โชคดีที่เขาหนังเหนียวจากหลวงพ่อองค์ดังที่ใส่ออกรบประจำ เมื่อพบว่าฟันทหารข้าศึกไม่เข้า จึงเป่าคาถาใส่ในมีดยาวแล้วฟันหัวทหารข้าศึกขาด จากนั้นเขาก็นำมีดยาวที่ใส่คาถาอาคมลงไปมาแทงเพื่อนทหารข้าศึกอีกนายตายตามไป อีก 2 นายหนีรอดไปได้  ดังนั้นแผนการช่วยนักบิน Cessna 172 ที่โดน F-16 ไทยยิงตกจึงล้มเหลว
"แทนที่จะช่วยเพื่อนที่ถูก F-16 สอย สุดท้ายถอยกันเป็นแทบ" อาสาสมัครทหารพรานรังสรรค์ "ผมว่าสงครามจริงมันจะเริ่มนับจากนี้
เราไม่ได้ต่อสู้กับขบวนการขนยาเสพติด เรากำลังต่อสู้กับทหารข้าศึกที่รุกรานอธิปไตย"
ในสนามรบครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ยาเสพติดเป็นตัวร้าย การปะทะกันด้วยกองทัพต่อกองทัพมันได้เริ่มขึ้นแล้ว ภาพสงครามคราวนี้จะยืดเยื้อนานเท่าใดหามีผู้ใดล่วงรู้ไม่ บัดนี้ศักดิ์ศรีทหารไทยมีเต็มเปี่ยมมากขึ้นและมีขวัญกำลังใจมากขึ้นที่จะปกป้องแผ่นดินของเราเพื่อคนรุ่นต่อๆไป
ตัดภาพไปที่พื้นที่ป่าแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขา ทหารชนกลุ่มน้อยกองกำลังเชียงหลวงเสรี ได้เข้าแทรกซึมทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศเพื่อเปิดทางให้ F-16 บินโจมตีเป้าหมายภาคพื้นได้ง่ายขึ้น ไม่เพียงเท่านี้พวกเขายังสอยโดรนของฝ่ายรัฐบาลที่จะไปโจมตีประชาชนร่วงร่วมกับประชาชนในฝั่งไทยที่อาสามาช่วยทหารและตำรวจ
"สารวัตรครับ นี่คือหลักฐานของโดรนพิฆาตที่มาตกในเขตชุมชน" พันโท อิน ตา หัวหน้ากองกำลังเชียงหลวงเสรีกล่าวกับพันตำรวจโทแสงทอง บุญมี สารวัตรหนุ่มชาวไทย "ขอบคุณผู้พันมากๆครับ ผมจะนำซากโดรนส่งต่อให้ทางการเพื่อนำไปประจานแก่ประชาคมโลกว่า เหตุการณ์นี้มันไม่ใช่แค่เรื่องของยาเสพติด มันคือเรื่องของการทำสงครามที่ไร้ซึ่งความปราณีต่อพี่น้องประชาชนทุกคน"
พันโท อิน ตา "สารวัตรลองคิดดูนะครับ เงินจากการส่งออกยาเสพติดของรัฐบาลทหาร ทำให้ประเทศเชียงหลวงถูกจับตามองว่าเป็นรัฐอันธพาล แทนที่จะเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งแบบประเทศที่พัฒนาแล้ว กลับลดคุณค่าตัวเองด้วยเม็ดเงินจากยานรก มันไม่มีประเทศใดโลกที่ทำแบบนี้แล้วประชาชนจะมีความสุขนะครับ"
(To Be Continue)
ภาพประกอบนิยาย
Military Weapons อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรภาค 4 ส่วนหน้า
Spacebar
Airlinesweek
เรียบเรียงโดย : จ่าแดง ภูมะเขือ
โฆษณา