5 ส.ค. เวลา 01:20 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

แอปเปิ้ล 3 ลูกที่เปลี่ยนแปลงโลก

ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของมนุษย์ มีเหตุการณ์ไม่มากนักที่สามารถเขย่าโลกทั้งใบและเปลี่ยนเส้นทางของประวัติศาสตร์ได้อย่างถาวร เหตุการณ์เหล่านั้นบางครั้งเกิดจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ การปฏิวัติทางสังคม หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวัฒนธรรม แต่ก็มีบางครั้งที่จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงไม่ได้มาจากสิ่งยิ่งใหญ่หรือซับซ้อน หากมาจากสิ่งเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ ที่เราอาจมองข้าม
ผลไม้เล็ก ๆ ที่เรารู้จักกันดี “แอปเปิ้ล” ได้โผล่ขึ้นมาเป็นตัวละครหลักในสามเรื่องราวของสามยุคสมัย สามลูกนี้ไม่ได้อยู่ในตะกร้าเดียวกัน ไม่ได้อยู่ในเวลาเดียวกัน แต่ ทั้ง 3 ลูกล้วนส่งผลสะเทือนต่อความคิดของมนุษย์ นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงโลกทั้งทางรูปธรรมและในเชิงสัญลักษณ์จนไม่มีวันหวนกลับไปเหมือนเดิม
ลูกแรกถือกำเนิดในโลกแห่งศรัทธาและตำนาน ณ สวนเอเดน ดินแดนที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่พระเจ้าสร้างขึ้นในคัมภีร์ปฐมกาล อดัมและอีฟดำรงชีวิตโดยไม่มีความทุกข์ ไม่มีความตาย และไม่มีความกังวล ข้อห้ามเพียงข้อเดียวคือห้ามกินผลไม้จาก “ต้นไม้แห่งความรู้ดีและชั่ว” คำสั่งที่ดูเหมือนง่ายแต่กลับเป็นบททดสอบสำคัญของมนุษย์คู่แรก
เรื่องราวเปลี่ยนไปเมื่อ “งู” สัญลักษณ์ของความล่อลวงและเจ้าเล่ห์ เข้ามาพูดเกลี้ยกล่อมอีฟว่าผลไม้ลูกนั้นจะทำให้เธอมีความรู้ทัดเทียมพระเจ้า อีฟกัดผลไม้และแบ่งให้อดัม ความไร้เดียงสาพังทลายลงในทันที ดวงตาแห่งความตระหนักรู้ของพวกเขา “เปิด” ทำให้รู้จักความดีและความชั่ว รู้จักความละอาย พวกเขาถูกขับออกจากสวรรค์ ทำให้ความตายและความทุกข์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ตลอดไป
แม้คัมภีร์จะไม่ระบุว่าผลนั้นคือ แอปเปิ้ล แต่ในยุโรปยุคกลาง คำละติน pomum ที่หมายถึงผลไม้ ถูกตีความแคบลงเป็น “apple” และศิลปะยุคเรอเนสซองส์ได้ตอกย้ำภาพอีฟถือแอปเปิ้ลสีแดงไว้ในมือ ทำให้กลายเป็นภาพจำฝังแน่นในวัฒนธรรมตะวันตก แอปเปิ้ลลูกนี้จึงไม่ใช่เพียงผลไม้ต้องห้าม แต่กลายเป็นสัญลักษณ์ของความอยากรู้ ความกล้าที่จะเลือก แม้รู้ว่าผลลัพธ์จะเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล
หลายร้อยปีต่อมา แอปเปิ้ลลูกที่สองร่วงจากกิ่งในสวนของบ้านชนบทในอังกฤษ เรื่องเกิดขึ้นกลางศตวรรษที่ 17 ในช่วงที่กาฬโรคแพร่ระบาด มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ปิดทำการชั่วคราว เซอร์ไอแซก นิวตันกลับไปบ้านเกิดที่ Woolsthorpe Manor และใช้เวลาที่มีอยู่ในการสังเกตสิ่งรอบตัว วันหนึ่งเขานั่งอยู่ใต้ต้นแอปเปิ้ลและเห็นผลหนึ่งร่วงลงสู่พื้น ภาพที่ใคร ๆ อาจมองว่าเป็นเรื่องธรรมดากลับกลายเป็นประกายไฟแห่งคำถามในหัวของเขา “ทำไมมันตกลงมา? ทำไมไม่ลอยขึ้นไป?”
มีการเล่าขานว่ามันตกใส่หัวเขา แต่ในความจริงจากบันทึกของเพื่อนและญาติสนิท เขาเพียงเห็นมันร่วงลงมาในแนวตรง เหตุการณ์นั้นนำไปสู่การตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับแรงที่ดึงวัตถุให้ตกลงสู่พื้นโลก และแรงนี้ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ดวงจันทร์คงอยู่ในวงโคจร เขาใช้เวลาหลายปีในการคำนวณ พิสูจน์ และสร้างทฤษฎี จนกลายเป็น “ทฤษฎีแรงโน้มถ่วง” ซึ่งตีพิมพ์ใน Principia Mathematica ปี 1687 แอปเปิ้ลลูกนี้จึงไม่เพียงเป็นแรงบันดาลใจ แต่เป็นสัญลักษณ์ของการมองสิ่งธรรมดาด้วยสายตาที่ไม่ธรรมดา และลงมือค้นหาคำตอบด้วยความเพียรพยายาม
จากโลกแห่งวิทยาศาสตร์ เราก้าวมาสู่โลกแห่งเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 20 แอปเปิ้ลลูกที่สามถือกำเนิดขึ้นในโรงรถเล็ก ๆ ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย วันที่ 1 เมษายน 1976 สตีฟ จอบส์, สตีฟ วอซเนียก และรอน เวย์น ก่อตั้งบริษัท Apple Computer, Inc. เพื่อสร้างคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่เข้าถึงได้ง่าย โลโก้แอปเปิ้ลถูกกัดมุมหนึ่งปรากฏขึ้นเป็นเอกลักษณ์ หลายคนตีความว่ามันหมายถึง “การกัดกินความรู้” คล้ายกับแอปเปิ้ลในตำนาน แต่ครั้งนี้ไม่ได้ลงเอยด้วยการถูกขับออกจากสวรรค์ หากเป็นการเปิดประตูสู่โลกใหม่
จาก Apple II ที่ประสบความสำเร็จในตลาด ไปจนถึง Macintosh ที่นำอินเทอร์เฟซแบบกราฟิกมาให้ผู้ใช้ทั่วไป จาก iPod ที่ปฏิวัติการฟังเพลงสู่ iPhone ที่เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือให้กลายเป็น สมาร์ตโฟนเต็มรูปแบบ Apple ไม่ได้ขายเพียงอุปกรณ์ แต่ขายประสบการณ์และวิธีคิดที่กล้าท้าทายสิ่งเดิม แนวคิด “Think different” ของจอบส์กลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนทั้งโลกมองว่าการคิดต่างคือจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่
สามลูก สามยุค สามเรื่องราว แต่สิ่งที่พวกมันมีเหมือนกันคือการเป็น “จุดเริ่มต้น”
แอปเปิ้ลในสวนเอเดนสอนให้เรารู้ว่าความรู้คืออิสระ แม้มาพร้อมความรับผิดชอบและความสูญเสีย แอปเปิ้ลของนิวตันเตือนให้เรามองสิ่งรอบตัวด้วยความสงสัยและอย่ากลัวที่จะตั้งคำถาม แอปเปิ้ลของสตีฟ จอบส์ บอกเราว่าการสร้างสิ่งใหม่ที่โลกยังไม่รู้ว่าต้องการ อาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตผู้คนนับล้านได้ในชั่วพริบตา และบางที แอปเปิ้ลลูกต่อไปอาจไม่ได้อยู่ในสวนเอเดนหรือในสวนชนบทของอังกฤษ หรือในโรงรถของซิลิคอนวัลเลย์ แต่อาจอยู่ในมือของคุณ เพียงรอให้คุณกล้ากัดมันและเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ของโลกใบนี้
โฆษณา