รื้อหรือรอด!? "ช้าง อารีนา" กับดราม่า ที่ดิน ‘เขากระโดง’
กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สั่นสะเทือนวงการฟุตบอลไทยไปเรียบร้อย สำหรับกรณีของ “สนามช้าง อารีนา” สนามเหย้าสุดยิ่งใหญ่ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ล่าสุดอาจโดนเพิกถอนสิทธิ์การใช้ที่ดิน
เรื่องนี้ไม่ใช่ข่าวลือ แต่เป็นข้อมูลจริงที่ยืนยันโดยกระทรวงมหาดไทย นำโดยคุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งออกมาชี้แจงชัดเจนว่าที่ดินบริเวณ “เขากระโดง” จ.บุรีรัมย์ นั้นเป็นกรรมสิทธิ์ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ตามคำพิพากษาศาล
ประเด็นคือ สนามฟุตบอล “ช้าง อารีนา” และบางส่วนของสนามแข่งรถ “ช้าง อินเตอร์เนชันแนล เซอร์กิต” ถูกสร้างอยู่บนพื้นที่นี้ ทำให้เข้าข่ายการก่อสร้างโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และกรมที่ดินสามารถเพิกถอนสิทธิ์การใช้ที่ดินได้ตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป
แน่นอนว่าเรื่องนี้กระทบโดยตรงกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งใช้สนามช้าง อารีนา เป็นรังเหย้ามาโดยตลอด และได้ยื่นสนามแห่งนี้ไว้กับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) และอาเซียน (AFF) เพื่อใช้ในการแข่งขันทุกรายการ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดสโมสรยังไม่ได้แจ้งเปลี่ยนสนาม เพราะเพิ่งมีคำสั่งออกมาไม่นาน
แต่ที่น่าสนใจคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยังมีแผนสำรองอยู่แล้ว โดยมีสนาม “บุรีรัมย์ ซิตี้ สเตเดี้ยม” หรือชื่อเดิมคือสนามกีฬากลางจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และเคยใช้เป็นรังเหย้าแห่งแรกของทีมปราสาทสายฟ้า สนามแห่งนี้ยังอยู่ในสภาพดีและได้รับรองมาตรฐานจาก AFC จัดแข่งระดับนานาชาติได้แบบสบายๆ
ในแง่ของแนวโน้มการรื้อถอนหรือบังคับย้ายออกจากพื้นที่ ผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ รวมถึงสโมสรเอง ก็ยังไม่วิตกกังวลมากนัก เพราะการบังคับเพิกถอนต้องใช้ทั้งงบประมาณ เวลา และแผนงานของ รฟท.
ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีท่าทีว่าจะเข้ามาใช้พื้นที่ในทันที ดังนั้นสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด รวมถึงสนามฟุตบอลและสนามแข่งรถ จึงยังสามารถใช้งานได้ต่อไป เพียงแค่ต้องมีการดำเนินการในเชิงเอกสาร เช่น การขอเช่าพื้นที่ให้ถูกต้องตามระเบียบ
ไม่ใช่แค่สนามช้าง อารีนา และช้าง เซอร์กิตเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งปลูกสร้างอีกมากมายในพื้นที่เดียวกันที่ได้รับผลกระทบไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านจัดสรร โรงแรม ร้านค้าต่างๆ ซึ่งรวมแล้วกินพื้นที่มากถึงเกือบ 5,000 ไร่ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็อยู่ในสถานะเดียวกัน คือมีสิทธิ์โดนเพิกถอน หากไม่มีการดำเนินการแก้ไขหรือเช่าที่อย่างถูกต้อง
แม้สนาม “ช้าง อารีนา” จะเสี่ยงต่อการต้องรื้อถอนในทางกฎหมาย แต่ในทางโครงสร้าง กลับมีจุดที่น่าคิดตาม เพราะสนามแห่งนี้มีโครงสร้างที่ทำจาก เหล็กมากถึง 90% หมายความว่าหากเกิดเหตุที่เลวร้ายที่สุด ต้องรื้อถอนสนามจริงๆ โครงสร้างเหล็กเหล่านี้สามารถ “ถอด-แยก-ขายต่อ” ได้ในฐานะวัสดุก่อสร้างหรือรีไซเคิล ซึ่งถือว่ามีมูลค่าไม่น้อย และไม่สูญเปล่าโดยสิ้นเชิง
ข้อมูลจากวิศวกรที่เคยเกี่ยวข้องกับการออกแบบสนามช้าง อารีนา ให้ข้อมูลไว้ว่าการใช้เหล็กเป็นวัสดุหลัก ทำให้สนามมีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น และสามารถติดตั้งหรือรื้อถอนซ้ำได้ ซึ่งต่างจากสนามที่ก่อสร้างด้วยคอนกรีตถาวรแบบเดิม และที่สำคัญ โครงสร้างที่เป็น Modular (ถอดประกอบได้) แบบนี้ สามารถเคลื่อนย้ายไปติดตั้งที่อื่นได้ในอนาคตหากมีการเตรียมพื้นที่ไว้รองรับ
ในวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคมนี้ เวลา 10.00 น. ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เตรียมเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการเพื่อชี้แจงทุกประเด็นเกี่ยวกับผลกระทบจากปัญหาที่ดินเขากระโดง โดยจะมีการอัปเดตแผนการดำเนินงานต่อไปของสโมสร รวมถึงความมั่นใจในอนาคตของทีมว่าจะยังคงเดินหน้าต่อไปได้ไม่สะดุด
แฟนบอลบุรีรัมย์ไม่ต้องกังวลจนเกินเหตุ เพราะแม้จะมีแรงสั่นสะเทือนจากเรื่องสิทธิ์ที่ดิน แต่องค์ประกอบอื่นของทีมยังแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นขุมกำลังนักเตะ แฟนคลับ หรือแผนงานบริหาร ทีมยังคงเป็นเบอร์ต้นของประเทศ
เพียงแค่ต้องรอดูความชัดเจนว่ารังเหย้าที่เต็มไปด้วยความทรงจำที่มีความสำเร็จ จะต้องถูกสั่งรื้อ หรือรอดได้ใช้งานต่อในฤดูกาลนี้
เครดิตภาพ : Chang Circuit Buriram / BURIRAM UNITED
เพื่อนๆสามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ https://www.ballthai.com/บทความบอลไทย
.
และติดตามเราได้ผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียดังนี้
Website - ballthai.com
Instagram - instagram.com/ballthai_com
Tiktok - tiktok.com/@ballthai_com
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
