5 ส.ค. เวลา 13:55 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

"เมฆแมมมาตัส" เหนือเมืองมุมไบประเทศอินเดีย

(Mammatus Clouds) เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งและมีความโดดเด่นไม่เหมือนเมฆทั่วไป ด้วยรูปลักษณ์ที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายถุงกลมๆ หรือเต้านมจำนวนมากห้อยย้อยลงมาจากฐานเมฆ ทำให้มันถูกเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เมฆตะปุ่มตะป่ำ" (Bumpy Clouds) โดยคำว่า "mammatus" มาจากภาษาละติน "mamma" ที่แปลว่า "เต้านม" นั่นเอง
​☁️​รูปร่าง เป็นก้อนกลมๆ คล้ายถุงหรือเต้านมจำนวนมากเรียงรายกัน ห้อยลงมาจากฐานเมฆแม่ โดยแต่ละปุ่มอาจมีขนาดใหญ่ 1-3 กิโลเมตร และยื่นยาวลงมาประมาณ 0.5 กิโลเมตร สามารถเรียงรายยาวหลายร้อยกิโลเมตร
☁️​ สามารถมีได้หลายสี ขึ้นอยู่กับแสงอาทิตย์ที่ส่องกระทบ โดยมักจะเห็นเป็นสีเทาอมฟ้า หรือในบางครั้งอาจมีสีทอง หรือสีแดงเมื่อปรากฏในช่วงพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก
☁️​ ปรากฏการณ์นี้อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 15 นาที ไปจนถึง 1 ชั่วโมง
เมฆแมมมาตัสส่วนใหญ่จะก่อตัวอยู่ใต้ฐานของเมฆคิวมูโลนิมบัส (Cumulonimbus) ซึ่งเป็นเมฆฝนฟ้าคะนองขนาดใหญ่และทรงพลัง โดยทั่วไปแล้ว การก่อตัวของเมฆแมมมาตัสจะเกิดขึ้นเมื่อมีกระแสลมที่ไม่เสถียรในชั้นบรรยากาศ ทำให้มวลอากาศเย็นที่มีความชื้นสูงและมีหยดน้ำหรือเกล็ดน้ำแข็งอยู่ภายในเมฆจมตัวลงมาเป็นก้อนๆ และเมื่อปะทะกับอากาศที่อุ่นและแห้งกว่าที่อยู่ด้านล่าง ก็จะเกิดเป็นลักษณะคล้ายถุงห้อยย้อยลงมา
​เมฆแมมมาตัสไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ว่าจะมีพายุทอร์นาโดเกิดขึ้นโดยตรง แต่ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้น หลังจาก พายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงได้ผ่านพ้นไปแล้ว หรือในบริเวณที่ใกล้เคียงกับพายุที่กำลังก่อตัวรุนแรง เนื่องจากเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นในชั้นบรรยากาศหลังพายุผ่านไป
แม้เมฆแมมมาตัสจะดูสวยงามและแปลกตา แต่ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าสภาพอากาศโดยรอบเคยหรือกำลังจะรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเกิดขึ้นร่วมกับเมฆคิวมูโลนิมบัสขนาดใหญ่ เนื่องจากภายในเมฆแมมมาตัสอาจมีกระแสลมขึ้น-ลงที่รุนแรงมาก รวมทั้งอาจมีลูกเห็บหรือฝนตกหนักตามมาได้ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการบินได้
. .​
FB page : The Earth
โฆษณา