นวัตกรรมกล้องตรวจจับลิ่มเลือด ลดความเสี่ยงเส้นเลือดอุดตัน
โรคหัวใจเป็นสาเหตุการเสียชีวิตเป็นอันดับที่ 3 ของประชากรไทย ภาวะเส้นเลือดอุดตันเป็นสิ่งที่ยากที่จะตรวจพบแบบทันท่วงที่
นักวิจัยญี่ปุ่นพัฒนาวิธีการตรวจจับโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ความเร็วสูงผสานกับ artificial intelligence (AI) เพื่อทำการวิเคราะห์ภาวะที่เกล็ดเลือดอาจจะมีความผิดปกติได้ โดยทีมวิจัยจะต่อยอดผลการทดลองเพื่อใช้ในการพัฒนาการรักษาให้มีความเฉพาะกับผู้ป่วยมากขึ้นได้ ซึ่งได้ทำการตีพิมพ์ในวารสาร Nature Communications เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
โดยปกติแล้วคุณหมอสามารถตรวจวัดการอุดตันของเส้นเลือดได้หลากหลายวิธี เช่น
- 1.การทำ CT ของหลอดเลือดซึ่งต้องมีการฉีดสี เพื่อมองหาร่องรอยของการก่อตัวของเกร็ดเลือดตามผลังหลอดเลือด
- 2.การสวนหัวใจ การใช้สายสวนใส่เข้าไปทางเส้นเลือด เพื่อดูว่ามีการขัดขวางหรือก่อตัวของเกล็ดเลือดตามผนังเส้นเลือดไหม
- 3.ใช้การตรวจเลือด โดยวัดระดับของ D-dimer ซึ่งเป็นโปรตีนที่ร่างกายสร้างขึ้น เมื่อเกิดขึ้นเวลาที่ลิ่มเลือดที่อุดตันมีการสลายตัว
ซึ่งวิธีการตรวจดังกล่าวก็เป็นวิธีการมาตราฐาน แต่ก็มีช่องว่างที่นักวิจัย พยายามพัฒนากระบวนการตรวจวัดให้มีประสิทธิภาพ แม่นยำ และทำให้ผู้ป่วยเจ็บตัวน้อยที่สุด
ทีมวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว (University of Tokyo) นำเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพความเร็วสูงซึ่งสามารถใช้ในการจับภาพเม็ดเลือดที่เคลื่อนตัวในเส้นเลือด (เหมือนกล้องจับความเร็วตามถนนนั้นเอง)
โดยกล้องจะทำการเก็บภาพเม็ดเลือดเป็น 1000 ภาพต่อวินาทีจากนั้นจะทำการวิเคราะห์ ว่าภาพเหล่านั้นเป็นลักษณะของเม็ดเลือดเดี่ยวๆ เม็ดเลือดขาว หรือเม็เลือดที่เคลี่นที่เป็นกลุ่มก้อน
ทีมงานเก็บตัวอย่างเลือดและถ่ายภาพเม็ดเลือดเหล่านั้นจากผู้ป่วยกว่า 200 คน เมื่อทำการวิเคราะห์ภาพถ่ายของเม็ดเลือดก็พบว่าผู้ป่วยภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันจะมีภาพกลุ่มเม็ดเลือดที่เกาะเกี่ยวกันมากกว่ากลุ่มที่มีอาการแบบเรื้อรัง
ขั้นตอนการทดลอง
Dr Kazutoshi Hirose อธิบายว่า งานวิจัยของจะช่วยลดความเจ็บปวดในการตรวจวัดเพราะการเก็บตัวอย่างเลือดจากแขน (ไม่ต้องใส่สายสวน หรือฉีดสี) ก็สามารถให้ผลการวิเคราะห์ที่มีความแม่นยำสูง
นอกจากนี้การวิเคราะห์โดยใช้กล้องบวกกับ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาให้กับผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยโรคหัวใจนั้นจะมีการใช้ยาสลายลิ่มเลือด เนื่องจากผู้ป่วยแต่ละคนก็จะมีการตอบสนองต่อยาที่ไม่เหมือนกัน การตรวจติดตามประสิทธิภาพของยาที่มีต่อผู้ป่วยแต่ละคน ด้วยการเก็บตัวอย่างเลือดง่ายๆ แบบนี้จะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น
การวิเคราะห์เปรียบเทียบตำเเหน่งการเก็บตัวอย่างพบว่า การเก็บตัวอย่างเลือดที่เเขนให้ผลในทิศทางเดียวกับเก็บจากหลอดเชือดใกล้หัวใจ
สำหรับท่านที่สนใจ กล้องจุลทรรศน์ที่ทางทีมวิจัยใช้เป็นกล้องที่มีความซับซ้อนสูง โดยใช้เทคนิคการส่งสัญญาณในหลายช่องสํญญาณพร้อมๆกัน ซึ่งแต่ละสัญญาณที่ส่งออกเป็นจะมีความถี่ไม่เท่ากัน (ทำให้ลดการรบกวนกัน) ซึ่งการที่มีสัญญาณที่หลากหลายเมื่อกระทบวัตถุ การรับสัญญาณก็จะเกิดได้หลายรูปแบบ ซึ่งเราอาจจะมีตัวรับสัญญาณที่เป็นภาพ เป็นสเปกตรัม และอื่นๆ ทำให้เราสามารถมีข้อมูลจำนวนมากในเวลาที่จำกัดนั้นเอง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
