6 ส.ค. เวลา 00:54 • หุ้น & เศรษฐกิจ

George Soros ชายผู้ทำลายธนาคารกลางอังกฤษและทำกำไร 1 พันล้านดอลลาร์ในคืนเดียว

ในโลกการเงิน มีเพียงไม่กี่เหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางและยังคงอยู่ในความทรงจำของนักลงทุนทั่วโลก และหนึ่งในนั้นคือ “Black Wednesday” วันที่ 16 กันยายน 1992 วันที่ George Soros ทำกำไรได้ 1 พันล้านดอลลาร์ จากการ “ถล่มค่าเงินปอนด์” ของอังกฤษ ถือเป็นหนึ่งในการเดิมพันทางการเงินที่ยิ่งใหญ่และกล้าหาญที่สุดในประวัติศาสตร์โลก
George Soros เป็นนักลงทุนและนักเก็งกำไรชื่อดังชาวฮังการี-อเมริกัน ผู้ก่อตั้ง Quantum Fund หนึ่งในกองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก เขามีชื่อเสียงจากการผสมผสานระหว่างทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ จิตวิทยา และการวิเคราะห์เชิงลึกเข้าด้วยกันในการตัดสินใจลงทุน
เบื้องหลังการ “ถล่มค่าเงินปอนด์”
ช่วงต้นทศวรรษ 1990 อังกฤษเป็นสมาชิกของระบบ ERM (European Exchange Rate Mechanism) ซึ่งกำหนดให้อัตราแลกเปลี่ยนของค่าเงินปอนด์ต้องผูกไว้กับค่าเงินดอยช์มาร์คของเยอรมนี โดยมีขอบเขตการแกว่งตัวจำกัด
แต่เศรษฐกิจอังกฤษในตอนนั้นมีปัญหาหลายอย่าง เช่น
- อัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าของเยอรมนี
- ดอกเบี้ยในประเทศสูง ทำให้เศรษฐกิจซบเซา
- ค่าเงินปอนด์ถูกกำหนดไว้สูงเกินความเป็นจริง
Soros วิเคราะห์ว่า รัฐบาลอังกฤษจะไม่สามารถคงค่าเงินปอนด์ไว้ในระดับนั้นได้ จึงเริ่ม “ขายชอร์ต” (short sell) ค่าเงินปอนด์จำนวนมหาศาล ผ่านกองทุน Quantum Fund
Black Wednesday วันที่ปอนด์พัง
ในวันที่ 16 กันยายน 1992 George Soros และทีมงานทุ่มเงินกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ ในการเทขายเงินปอนด์ และแรงกดดันจากตลาดทั่วโลกทำให้
- ธนาคารกลางอังกฤษพยายามป้องกันโดยการขึ้นดอกเบี้ยและซื้อเงินปอนด์คืน
- แต่ไม่สามารถสู้แรงกดดันได้
- สุดท้ายอังกฤษต้องถอนตัวออกจาก ERM และปล่อยให้ค่าเงินปอนด์ลอยตัว
ผลคือ ค่าเงินปอนด์ร่วงลงทันที และ Soros ทำกำไรจากการขายชอร์ตกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในเวลาเพียงวันเดียว จนได้รับสมญานามว่า “The Man Who Broke the Bank of England”
กลยุทธ์ของ Soros ปรัชญาการลงทุนที่ไม่ธรรมดา
- ทฤษฎี Reflexivity Soros เชื่อว่าตลาดไม่สะท้อนความจริง แต่สะท้อนมุมมองของนักลงทุน ซึ่งอาจทำให้ราคาเบี่ยงเบนจากมูลค่าที่แท้จริง
- การเก็งกำไรเชิงมหภาค (Macro Investing) มองภาพใหญ่ของเศรษฐกิจโลก การเงิน และนโยบายรัฐบาล
- เดิมพันอย่างกล้าหาญเมื่อมั่นใจ Soros ลงเงินก้อนใหญ่เมื่อเขา “มั่นใจสูงสุด” ซึ่งเป็นจุดแตกต่างจากนักลงทุนทั่วไป
จากนักเก็งกำไรสู่ผู้ใจบุญ
แม้จะเป็นนักลงทุนผู้โด่งดังจากการเก็งกำไรค่าเงิน แต่ในเวลาต่อมา Soros กลายเป็นนักการกุศลรายใหญ่ของโลก โดยบริจาคเงินผ่านมูลนิธิ Open Society Foundations ไปแล้วกว่า 32,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนเสรีภาพ สิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย
บทเรียนจาก George Soros
1. เข้าใจระบบเศรษฐกิจในภาพรวม
2. ใช้ข้อมูลและเหตุผล ไม่ใช่แค่ความรู้สึก
3. กล้าเดิมพันเมื่อโอกาสมา
4. แม้จะชนะเกมการเงิน แต่เป้าหมายชีวิตอาจใหญ่กว่านั้น
George Soros ไม่ใช่แค่นักลงทุนที่ฉลาดที่สุดคนหนึ่งของโลก แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของพลังทางการเงินที่สามารถพลิกประวัติศาสตร์ของทั้งประเทศได้
#GeorgeSoros #นักลงทุนเน้นคุณค่า #ลงทุนแบบฉลาด
โฆษณา