เมืองกาญจน์ งานไว! “กลีบบัว” ชัวร์แน่ “นิวราชมังฯ” ใกล้ความจริง
ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วครับกับศึกฟุตบอลระดับชาติที่แฟนบอลบ้านเรารอคอยอย่าง “คิงส์ คัพ ครั้งที่ 51” ปีนี้มีอะไรพิเศษหลายอย่างเลย หนึ่งในนั้นก็คือสนามแข่งขัน จะไปฟาดแข้งที่จังหวัดกาญจนบุรีเป็นครั้งแรก ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของทัวร์นาเมนต์นี้เลยก็ว่าได้
สนามที่ถูกเลือกใช้เป็นเจ้าภาพคือ “สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี” หรือที่แฟนบอลเรียกติดปากว่า “สนามกลีบบัว” ซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงรีโนเวตแบบยกเครื่องครั้งใหญ่ พูดง่ายๆ คือเปลี่ยนทุกอณูของสนามกันเลยครับ ตั้งแต่หญ้า ระบบน้ำ ยันห้องน้ำห้องแต่งตัว
สำหรับเรื่องหญ้านั้น ใครที่กังวลว่าจะไม่ทันหรือหญ้าไม่แน่น ไม่เขียวพอ…บอกเลยว่าไม่ต้องห่วงครับ เพราะงานนี้เขาใช้หญ้าสดพันธุ์พิเศษ Paspalum Big Roll ที่นำเข้ามาจากฟาร์มคุณภาพของ “พันตา เทิร์ฟ แคร์” โดยเฉพาะ ซึ่งพันธุ์นี้เขาว่าทนเท้า ทนฝน เหมาะกับเกมระดับทีมชาติสุดๆ
ระบบระบายน้ำก็จัดเต็ม ใช้ระบบ Subdrain ใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สนามแห้งเร็วแม้ฝนตกหนัก ขณะเดียวกันก็เพิ่มระบบ สปริงเกอร์หัวปั๊ม Horizontal Turbine ถึง 8 จุด กระจายน้ำทั่วถึง ไม่ต้องกลัวจุดแห้งหรือเปียกเกินไป เรียกได้ว่าเตรียมไว้รับเกมหนักๆ ได้สบายเลย
การแข่งขันจะมีขึ้นในช่วง “ฟีฟ่า เดย์” ระหว่างวันที่ 1-9 กันยายน 2568 โดยจะมี 4 ชาติลงสนาม ได้แก่ ไทย, อิรัก, ฮ่องกง และ ฟิจิ โดยรอบรองชนะเลิศจะเตะกันวันที่ 4 กันยายน และรอบชิงชนะเลิศกับชิงอันดับ 3 ในวันที่ 7 กันยายน ซึ่งทุกแมตช์จะเตะที่สนามกลีบบัวนี่แหละ
ล่าสุดผู้รับเหมาหลักอย่าง “พันตา เทิร์ฟ แคร์” และ “พงษ์ชนะ” ออกมายืนยันด้วยตัวเองว่า “ทุกอย่างจะเสร็จทันเวลาแน่นอน” ซึ่งฟังแล้วค่อยอุ่นใจหน่อยครับ เพราะพวกเขาก็เคยมีผลงานระดับประเทศมาแล้ว อย่างตอนเปลี่ยนหญ้าราชมังคลากีฬาสถานก่อนเกมทีมชาติไทยเจอยูเออี ก็ใช้เวลาแค่ 21 วันเท่านั้น
ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่คิงส์คัพถูกจัดที่กาญจนบุรี ถือว่าสร้างกระแสได้ไม่น้อยเลยครับ เพราะกาญจน์ถือว่าเป็นจังหวัดท่องเที่ยวยอดฮิตของคนไทย การนำฟุตบอลระดับชาติไปจัดที่นี่เท่ากับเป็นการ “เปิดเมืองด้วยกีฬา” เลยก็ว่าได้
ลองคิดภาพแฟนบอลจากกรุงเทพฯ ขับรถมาไม่ไกลมาก ไปดูเกมใหญ่ๆ ที่สนามใหม่ บรรยากาศริมแม่น้ำ บวกกับธรรมชาติสวยๆ ของเมืองกาญจน์ นี่มันน่าไปสุดๆ แล้วใช่ไหมล่ะครับ
และการปรับสนามรอบนี้ไม่ได้ทำเพื่อแค่ทัวร์นาเมนต์นี้เท่านั้นนะครับ เพราะผู้เกี่ยวข้องมีแผนจะผลักดันให้สนามกลีบบัวกลายเป็นหนึ่งในสนามมาตรฐานของไทยในระยะยาวด้วย อาจจะใช้รองรับเกมไทยลีกหรือทีมเยาวชนในอนาคตก็เป็นได้
หันมาดูที่การแข่งขันกันบ้าง ปีนี้ถือว่าเป็นคิงส์คัพที่น่าสนใจ เพราะได้รับการรับรองจากฟีฟ่าให้จัดในช่วง “ฟีฟ่าเดย์” อย่างเป็นทางการ ทำให้ทุกทีมสามารถส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามได้เต็มที่ งานนี้ทีมชาติไทยเจองานไม่ง่ายแน่นอน
อิรัก – ทีมจากตะวันออกกลาง ที่อันดับฟีฟ่าสูงกว่าไทยหลายอันดับ และขึ้นชื่อเรื่องพละกำลังและเกมรุกที่จัดจ้าน
ฮ่องกง – ชาติจากเอเชียตะวันออกที่มีความรวดเร็ว และพัฒนาฟุตบอลของตัวเองมาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง
ฟิจิ – ตัวแทนจากโซนโอเชียเนีย ที่แม้ชื่ออาจไม่คุ้นหู แต่ก็ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและพลังทางกายภาพ
ทุกทีมจัดเต็มแน่นอน เพราะเป็นเกมที่มีผลต่อคะแนนฟีฟ่าโดยตรง ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะเจอชุดสำรองครับ แฟนบอลเตรียมลุ้นกันมันๆ ได้เลย
อย่างที่หลายคนพูดกันครับ การเป็นเจ้าภาพรายการใหญ่ ไม่ได้แค่เพื่อดูบอล แต่มันหมายถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ด้วย ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร การเดินทาง และธุรกิจท้องถิ่นต่างๆ ก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย
การจัดคิงส์คัพที่กาญจนบุรีครั้งนี้ จึงเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเมืองผ่านกีฬา ซึ่งเป็นเทรนด์ที่หลายประเทศทั่วโลกให้ความสำคัญ เรียกว่าเป็น Sport Tourism ที่มีทั้งแฟนบอลและนักท่องเที่ยวมาเติมเต็มกันได้อย่างลงตัว
ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ปีนี้น่าจะมีอะไรให้พูดถึงเยอะเลยครับ ทั้งเรื่องสนามใหม่อย่างกลีบบัวที่ถูกพลิกโฉมอย่างจริงจัง การแข่งขันที่ฟีฟ่ารับรองเต็มรูปแบบ และการจัดในเมืองรองที่เข้าถึงง่ายอย่างกาญจนบุรี
เครดิตรูป : 51st King’s Cup 2025 Kanchanaburi
เพื่อนๆ สามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ https://www.ballthai.com/บทความบอลไทย
.
และติดตามเราได้ผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียดังนี้
Website - ballthai.com
Instagram - instagram.com/ballthaidotcom/
Tiktok - tiktok.com/@ballthai_com
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
