12 ส.ค. เวลา 03:00 • ธุรกิจ

ต้นกำเนิด Cronut ขนมลูกผสม ครัวซองต์+โดนัท ที่ตั้งใจจะขายเป็นเมนูพิเศษในวันแม่

ในโลกของขนมหวาน มีน้อยครั้งนักที่ของอบชิ้นหนึ่งจะกลายเป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้หลายคนต้องยอมต่อคิวยาวตั้งแต่เช้าตรู่ หรือยอมจ่ายแพงเกินราคาในตลาดมืด
โครนัท (Cronut) หรือขนมหน้าตาคล้ายโดนัท แต่แป้งกรอบซ้อนเป็นชั้น ๆ แบบครัวซองต์ คือขนมชิ้นนั้น
และโครนัทยังเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของนิวยอร์กถึงทุกวันนี้ แล้วใครเป็นผู้คิดค้น “โครนัท” ? ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในปี 2013 ที่ร้าน Dominique Ansel Bakery ร้านขนมอบเล็ก ๆ ในย่านโซโหของนิวยอร์ก
ภรรยาของเชฟ Dominique Ansel ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนคู่คิดและหุ้นส่วนธุรกิจ ได้แนะนำไอเดียให้เขาทำโดนัทขายเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์วันแม่ที่กำลังจะมาถึง
แต่ในฐานะเชฟชาวฝรั่งเศสที่ไม่คุ้นเคยกับโดนัทแบบอเมริกัน เชฟ Ansel จึงตอบว่าเขาไม่มีสูตรทำโดนัทเลย
แม้จะลังเล แต่สุดท้ายเชฟก็ยอมทำตามคำขอของภรรยา โดยหยิบสิ่งที่เขาคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็กอย่างครัวซองต์ มาผสานกับโดนัท กลายเป็นขนมลูกผสมที่โลกไม่เคยมีมาก่อน
ซึ่งการทำโครนัท ไม่ใช่แค่การนำครัวซองต์มาทำให้เป็นทรงกลมแล้วทอดในน้ำมัน เพราะแป้งครัวซองต์ดั้งเดิมนั้นไม่เหมาะกับการทอดเลย
เชฟ Ansel จึงต้องใช้เวลาเกือบ 3 เดือนในการคิดค้นเนื้อแป้งใหม่ที่ต้องผสมและพักแป้งไว้เป็นเวลา 3 วัน ก่อนจะนำไปทอดในอุณหภูมิที่เหมาะสม แล้วถึงค่อยสอดไส้ครีม คลุกน้ำตาล และเคลือบด้วยเกลซ
และรสชาติแรกที่เขาเลือกเปิดตัว ก็คือ Rose Vanilla ไส้กานาชวานิลลาตาฮิติ เคลือบน้ำตาลกุหลาบ โรยหน้าด้วยกลีบกุหลาบที่ตกผลึก ชวนให้นึกถึงช่อดอกไม้วันแม่
โดยวางขายครั้งแรกในวันที่ 10 พฤษภาคม 2013 หรือก่อนวันแม่ในสหรัฐฯ เพียงไม่กี่วัน
ซึ่งเมนูใหม่นี้ก็กลายเป็นไวรัลอย่างรวดเร็ว หลังจากบล็อกเกอร์ประจำนิตยสาร New York Times มาพบเข้า และนำเมนูนี้ไปเขียนรีวิวลงบล็อกของตัวเอง
ผ่านไป 3 วันหลังเปิดตัว มีผู้คนประมาณ 150 คนมาต่อคิวยาวเหยียดหน้าร้าน Dominique Ansel Bakery ตั้งแต่ตี 5 เพื่อรอร้านเปิด 8 โมงเช้า
มีคนกว้านซื้อโครนัทไปรีเซลในตลาดมืด ขายต่อชิ้นละ 20-100 ดอลลาร์สหรัฐ จากราคาจริงเพียง 5 ดอลลาร์สหรัฐ จนร้านต้องจำกัดให้ซื้อได้คนละไม่เกิน 2 ชิ้น
ผ่านไป 2 สัปดาห์ กลายเป็นว่ามีคนมาต่อคิวรอที่หน้าร้านตั้งแต่ตี 2
ร้านต้องจ้างรปภ. เพราะเริ่มมีการแซงคิว ก่อความวุ่นวายเสียงดัง จนชาวบ้านโทรแจ้งตำรวจ พนักงานในร้านบางคนโดนด่าทอ ถูกถ่มน้ำลายใส่ เพราะสินค้าหมดเร็ว
เรียกได้ว่าผู้คนคลั่งไคล้โครนัทมาก จนสื่อใหญ่พร้อมใจกันรายงานปรากฏการณ์นี้ และในปีเดียวกันนั้น TIME เลือกให้โครนัทเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ยอดเยี่ยมแห่งปี 2013 อีกด้วย
ส่วนตัวเชฟ Ansel เอง ก็กลายเป็นเชฟระดับโลกในวงการขนมอบชั่วข้ามคืน
โดย Food & Wine ยกให้เขาเป็น “Van Gogh แห่งวงการอาหาร” ขณะที่ New York Post ยกให้เขาเป็น “Willy Wonka แห่งนิวยอร์ก”
นอกจากนี้ ในปี 2014 เขายังได้รับรางวัล James Beard Award ที่เปรียบเสมือนรางวัลออสการ์ของวงการอาหาร ในฐานะ Outstanding Pastry Chef และได้รางวัล World’s Best Pastry Chef จาก World’s 50 Best Restaurants ในปี 2017
มาถึงวันนี้ แม้เวลาจะผ่านมากว่า 12 ปีแล้ว แต่โครนัทยังคงเป็นเมนูที่มีคนต่อแถวซื้อทุกวัน เพิ่มเติมคือมีรสชาติให้เลือกมากขึ้น และสามารถสั่งล่วงหน้าทางออนไลน์ได้แล้ว
สำหรับใครที่มีโอกาสไปร้าน Dominique Ansel Bakery อย่าลืมแวะไปลองชิมโครนัทด้วยตัวเองสักครั้ง
รวมถึงเมนูสุดครีเอตจากเชฟ Ansel อีกมากมาย เช่น
- Cookie Shot คุกกี้ช็อกโกแลตชิปรูปทรงแก้วช็อต เสิร์ฟพร้อมนมวานิลลา เวลาทานให้เทนมลงในคุกกี้
- Frozen S’mores ไอศกรีมวานิลลาเคลือบช็อกโกแลต ห่อด้วยมาร์ชแมลโลว์ ที่จะถูกเบิร์นจนเกรียมตอนเสิร์ฟ
- Blossoming Hot Chocolate เครื่องดื่มช็อกโกแลตร้อน เสิร์ฟพร้อมมาร์ชแมลโลว์รูปดอกไม้ ที่ค่อย ๆ บานในถ้วย
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
หลังจากที่โครนัทโด่งดังไปทั่วโลก เชฟ Ansel จึงไม่รอช้า นำเมนูนี้ไปจดเป็นเครื่องหมายการค้าในชื่อ “Cronut” หลังเปิดตัวสินค้าเพียงแค่ 9 วันเท่านั้น
ซึ่ง 5 วันถัดจากนั้น มีการยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าชื่อเดียวกันนี้ อีก 27 ครั้ง เลยทีเดียว..
References :
- Tastingtable
- Forbes
- Cntraveler
- Sogoodmagazine
โฆษณา