Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
9 ส.ค. เวลา 03:02 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
🤔 “Requirement” หรือแค่ “Assumption”?
📝 ‘กับดักความต้องการ’ ที่ทำให้โปรเจกต์ล้มเหลว และวิธีแยกแยะ ‘เสียงจริง’ ออกจาก ‘เสียงรบกวน’
โศกนาฏกรรมของโปรเจกต์ต่างๆ ที่มัก “เริ่มด้วยเจตนาดี แต่จบด้วยความผิดหวัง”
เกือบทุกโปรเจกต์เริ่มจากความตั้งใจที่ดี—อยากแก้ปัญหา อยากสร้างคุณค่า—แต่คำถามคือ “ทำไมของที่ดูสมบูรณ์แบบบนสไลด์ ถึงใช้จริงแล้วไม่เวิร์ก?”
คำตอบมักไม่ใช่เรื่อง “ลงมือทำไม่พอ” หากแต่อยู่ที่ สมมติฐานที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ ซึ่งถูกวางตัวเป็น “Requirement” ตั้งแต่วินาทีแรก
“Belief isn’t a strategy.”
บทความนี้เสนอกรอบคิดและวิธีการที่ ไม่ต้องเชื่อใครก่อน แต่ให้ข้อมูลและสนามจริงเป็นคนตัดสิน—เพื่อแยก Requirement (เสียงจริง) ออกจาก Assumption (เสียงรบกวน) ก่อนคุณจะเผาเวลา/งบไปกับการสร้างคำตอบให้ “คำถามที่ผิด”.
====
1. ทำไมสิ่งที่เรียกว่าความต้องการ…ถึงมักไม่ใช่ความต้องการ (Anatomy of a Bad Requirement)
“Requirement” ที่ทีมรับมามักเป็นส่วนผสมของสิ่งเหล่านี้
* ปัญหาที่ยังไม่พิสูจน์ (Unvalidated Problems) – ได้ยินมาว่าผู้ใช้ลำบาก แต่ไม่มีหลักฐานหน้างานมายืนยัน
* ทางแก้ที่ทึกทักเอาเอง (Assumed Solutions) – “ทำ Dashboard เพิ่มสิ” โดยยังไม่รู้ว่าจะแก้อะไร?
* ความต้องการคลุมเครือ (Vague Needs) – “อยากให้ง่ายขึ้น” แต่ไม่รู้ว่า “ง่ายสำหรับใคร/เมื่อไร/อย่างไร?”
* ความชอบส่วนตัว (Preferences) – “อยากให้ธีมเป็นสีองค์กร หรือหน่วยงาน” เป็นต้น
* ข้อจำกัดจริง (Constraints) – เช่น กฎระเบียบ ความปลอดภัย ข้อสัญญา เป็นต้น
เมื่อเราเอา ส่วนผสมทั้งหมด ไป “สวมป้าย Requirement” แล้วสั่งทีมลงมือ เรากำลังพัฒนาเพื่อ ผู้ใช้ในจินตนาการ และพอของไม่ work ก็เข้าสู่ The Blame Game—โทษผู้ใช้ “ต้านการเปลี่ยนแปลง” ทั้งที่ของๆ เรา “ไม่ได้แก้ปัญหาเขา”
====
2. Requirement Filter หรือวิธีการแยก
ก่อนกระโดดลงโค้ดหรือสั่งทีม ให้คั่นเวลา ทุก “Requirement” ลง 4 แกนนี้ (ยังไม่ตัดสินถูกผิด แค่แยกประเภท)
1. เห็นปัญหาที่ชัดเจน (Clear Problems) คืออะไร?
* ปัญหาทางธุรกิจ/ผู้ใช้ที่มีหลักฐานเชิงพฤติกรรมหรือข้อมูลสนับสนุน
* ตัวอย่าง: “ลูกค้า B2B สมัครสำเร็จเพียง ~ครึ่งหนึ่งเมื่อกรอกแบบฟอร์มหน้า หรือพบว่าผู้ใช้หลุดระหว่างอัปโหลดเอกสารจำนวนเท่าไร?”
2. ทางแก้ที่ทึกทักเอง (Assumed Solutions)?
* คือโซลูชันที่ถูกเสนอมาโดยยังไม่ชี้ชัดว่าจะแก้ปัญหาไหน?
* ตัวอย่าง: “User บอกอยากทำ Real‑time Lead Scoring Dashboard” → คำถามคือ “เพื่อแก้อะไร? ใครใช้? เมื่อไร?”
3. ความต้องการคลุมเครือ (Vague Needs)?
* เป็นคำพูดกว้างๆ ที่บอกเป็นนัย
* ตัวอย่าง: “ต้อง user‑friendly ขึ้น” → ต้องเฉพาะเจาะจงว่า “จุดไหน/เมตริกอะไร/ Persona ไหน”
4. ความชอบ & ข้อจำกัด (Preferences & Constraints)?
* สิ่งที่อยากได้กับสิ่งที่จำเป็นต้องทำตาม
* ตัวอย่าง: “ธีมสีแบรนด์” (ชอบ) vs “ต้องสอดคล้อง PDPA/ISO” (ข้อจำกัดจริง)
เป้าหมายของทั้ง 4 แกน ไม่ใช่การพิพากษา แต่ “ยกของออกจากกัน”—เพื่อให้ทีมเห็น “อะไรคือปัญหาจริง” ก่อนจะพูดเรื่องทางแก้
====
3. จากการคัดแยก…สู่การค้นหาความจริง?
3.1 Clear Problems by “Validate with data”
* ตรวจแหล่งที่มา: เหตุผล/ตัวเลข/ช่วงเวลา/กลุ่มผู้ใช้มาจากไหน
* ผ่าเส้นทาง (Funnel/Flow) เพื่อระบุ “จุดแตก” ที่แท้จริง
* ออกแบบ KPI/Success Criteria ให้วัดผลหลังแก้ปัญหาได้
3.2 Don’t Assumed Solutions by “Uncover the underlying problem”
* ใช้ 5 Whys เพื่อเจาะ “เหตุแห่งเหตุ”
* ทำ Contextual Inquiry/Shadowing ดูงานจริง 30–60 นาที จะเห็น Pain จริงเร็วกว่าอ่านรีพอร์ต 30 หน้า
* สรุปเป็น “ปัญหาเวอร์ชันที่ตรวจสอบได้” ก่อนแตะโค้ด
3.3 Validate Vague Needs by Seek clarity
* เปลี่ยนคำกว้างให้เฉพาะเจาะจง: “ง่ายขึ้น” → “ลดเวลาเติมฟอร์มจาก ~8 นาทีเหลือ ≤4 นาทีสำหรับ Sales ภาคสนาม”
* ผูกกับ Metrics วัด (เวลา/อัตราความสำเร็จ/ข้อผิดพลาด/CSAT/Call deflection ฯลฯ)
3.4 Don’t sink with Preferences & Constraints by “Verify & Evaluate”
* แยก ข้อจำกัดจริง ออกจาก “ความชอบ”
* ถ้าเป็นข้อจำกัด: นิยาม “พื้นที่เล่น” ให้ทีม (What’s allowed/forbidden)
* ถ้าเป็นความชอบ: ทดลอง A/B หรือทำ Guideline ที่ยืดหยุ่นได้
หลายครั้งคุณจะพบว่า “โจทย์จริง” ไม่ใช่ Dashboard เลย แต่คือ Response Time/Flow/Policy— การรู้ให้ชัดตั้งแต่ต้นช่วยประหยัดทั้งงบและเครดิตทีม
====
4. ตัวอย่างการแยก ‘สัญญาณ’ ออกจาก ‘สัญญาณหลอก’
กรณี CRM B2B: ผู้บริหารขอ “Lead Scoring Real‑time” → หลังสังเกตการณ์ พบว่า ดีลหาย เพราะฝ่ายขายตอบช้าเกิน 2–4 ชม. โซลูชันจริงคือ Auto‑assign + SLA Alert + Template Reply ไม่ใช่ Dashboard
* Signal: เวลาตอบกลับเกิน SLA บ่อยและสัมพันธ์กับโอกาสปิดดีลที่ลดลง Noise: ความเชื่อว่า “เห็นคะแนนแบบเรียลไทม์แล้วจะขายได้” โดยไม่แตะเวลาตอบกลับ
* Metric เป้าหมาย: ลด First Response Time เหลือ ≤30 นาที และเพิ่ม Win Rate ใน 14 วันแรกหลังปรับระบบ
กรณีแอปที่ใช้หน้างาน: คอมเมนต์ว่า “ใช้งานยาก” → เจาะลึกพบว่า ยากเพราะไม่มีสัญญาณเน็ต โซลูชันคือ Offline‑first + Sync อัตโนมัติ ไม่ใช่สอนอบรมเพิ่ม
* Signal: Task ล้มเหลวช่วงอยู่นอกพื้นที่สัญญาณ และผู้ใช้ทำซ้ำเมื่อกลับเข้าเน็ต Noise: โทษ UI โดยไม่ทดสอบในบริบทไม่มีสัญญาณ
* Metric เป้าหมาย: อัตราสำเร็จของงานภาคสนามเพิ่มขึ้น ≥25% และลด Rework ลง ≥50%
กรณีอีคอมเมิร์ซ: “ใส่คูปองแล้วไม่ซื้อ” → Data ชี้ว่า คูปองใช้ไม่ได้กับสินค้าขายดี โซลูชันคือ ปรับกติกาโปรฯ และคำอธิบายที่จุดตัดสินใจ แทนการทำ Recommendation ใหม่ทั้งระบบ
* Signal: อัตรา “คูปองใช้ไม่ได้” สูงผิดปกติในหน้าชำระเงิน Noise: โทษระบบแนะนำสินค้าไม่แม่น
* Metric เป้าหมาย: เพิ่ม Coupon Redemption Rate และลด Drop‑off ที่ Checkout Step
กรณี HR Onboarding (องค์กรบริการมืออาชีพ): ผู้บริหารอยากลงทุนระบบ LMS ใหม่เพราะ “คนใหม่เรียนไม่ครบ” → ตรวจข้อมูลพบว่า ค้างอยู่ที่ขั้นตอนยืนยันเอกสารและสิทธิ์เข้าใช้งานหลายระบบ
* ทางออก: Single Sign‑On + Onboarding Checklist เดียว + แจ้งเตือนอัตโนมัติ แทนการซื้อ LMS เพิ่ม
* Metric เป้าหมาย: เวลาปรับตัว (Time‑to‑Productivity) ลดลง และ Completion Rate ของ Onboarding > 90%
กรณี Contact Center: เสนอให้ทำ Chatbot เพราะ “สายเข้าเยอะ” → วิเคราะห์หมวดคำถาม พบว่า ฐานความรู้ล้าสมัย/ค้นหายาก
* ทางออก: ปรับปรุง Knowledge Base + Search ในระบบตอบรับ + เทมเพลตคำตอบ L1 ก่อนทำบอท
* Metric เป้าหมาย: ลด Average Handling Time และเพิ่ม First‑Contact Resolution
กรณี portal ภาครัฐ/สาธารณะ: มีแรงกดดันให้ทำ “แอปใหม่” เพราะประชาชนสมัครบริการไม่สำเร็จ → ลงพื้นที่พบ คอขวดอยู่ที่ยืนยันตัวตน (eKYC) และ OTP ล่มเป็นช่วงๆ
* ทางออก: หลากหลายวิธีพิสูจน์ตัวตน + สำรองช่องทาง OTP + คิวอัจฉริยะ มากกว่าทำแอปซ้ำซ้อน
* Metric เป้าหมาย: เพิ่มอัตราสำเร็จของขั้นสมัคร และลดคิวรอเฉลี่ยในช่วงพีก
ในสนามหรือหน้างานจริง โจทย์แท้มัก “ซ่อนอยู่” หลังคำพูดกว้างๆ การลงพื้นที่สั้นๆ + คัดแยก 4‑Box ช่วยเปลี่ยนทิศโปรเจกต์ได้ตั้งแต่สัปดาห์แรก
เคล็ดลับ คือให้มองหา 3 สิ่งนี้ทุกครั้ง
1) จุดคอขวดใน Flow
2) ปัจจัยบริบท (เช่น เน็ต/อุปกรณ์/นโยบาย)
3) เมตริกที่เชื่อมโยงตรงกับผลลัพธ์ธุรกิจ แล้วค่อยเลือกโซลูชันให้ “พอดีโจทย์” ไม่ใช่ “พอดีความเชื่อ”
====
5. หยุด “รักคำตอบ” แล้วกลับไป “รักคำถาม”?
5.1 Requirement นี้อ้างอิง พฤติกรรมจริง หรือแค่ความเห็น?
* วิธี Validate: ขอหลักฐานเชิงพฤติกรรม (คลิป session/ตัวเลข funnel/บันทึกหน้างาน) อย่างน้อย 1 ชิ้นต่อข้อกล่าวอ้าง
* สัญญาณเตือน: สไลด์มีแต่ความเห็น/คำคม ไม่มีพฤติกรรมจริงให้ดู
5.2 เรามี KPI ที่จะขยับ ถ้าแก้สำเร็จหรือยัง?
* วิธี Validate : นิยามเมตริกเดียวที่สำคัญที่สุด เช่น ลด First Response Time เหลือ ≤30 นาที หรือ เพิ่ม Completion Rate +15%
* สัญญาณเตือน: มี 6–8 KPI ต่อการทดลอง → โฟกัสหลวม ผลวัดไม่ชัด
5.3 ถ้า ห้ามทำโซลูชันที่ถูกเสนอ เราจะอธิบาย “ปัญหา” ที่ต้องแก้ว่าอะไร?
* วิธี Validate : ลองลบชื่อโซลูชันออกจากสไลด์ แล้วอธิบายปัญหาให้ชัดใน 1–2 ประโยค
* ตัวอย่าง: “ดีลหายเพราะตอบช้า” ไม่ใช่ “เพราะยังไม่มี Lead Scoring แบบเรียลไทม์”
5.4 จุดไหน “ข้อจำกัดจริง” vs “ความชอบ” ของใครบางคน?
* วิธี Validate : ขอเอกสาร/กฎอ้างอิง หากเป็นข้อจำกัด; ถ้าไม่มีหลักฐาน ให้จัดหมวด Preference และทดลอง A/B
* สัญญาณเตือน: คำว่า “ต้อง” โดยไม่มีแหล่งอ้างอิงที่ตรวจสอบได้
5.5 มี วิธีพิสูจน์ที่ถูกที่สุด/เร็วที่สุด ภายใน 1–2 สัปดาห์ ไหม?
* วิธี Validate : ระบุรูปแบบทดลองที่เล็กที่สุด (Fake‑door/Prototype/Flag) พร้อมเกณฑ์ Go/Kill ก่อนลงมือ
* ตัวอย่าง: ทำปุ่ม “ขอลดเวลาอนุมัติ” (fake‑door) ดูอัตราคลิกก่อนจะลงทุนทำ workflow ใหม่ทั้งระบบ
====
ดังนั้น “ให้หาคำถามที่ใช่…ก่อนรีบสร้างคำตอบที่ผิด”
* Requirement ที่อันตรายที่สุดไม่ใช่สิ่งที่งี่เง่า แต่คือสิ่งที่ “ดูสมเหตุสมผล” ทว่าเต็มไปด้วยสมมติฐานซ่อนอยู่
* การใช้เวลา เพียงเล็กน้อย เพื่อคัดแยกและตั้งคำถามตั้งแต่ต้น อาจดูทำให้งานช้าลงหนึ่งก้าว แต่จะพาโปรเจกต์ของคุณ วิ่งได้ไกลกว่า เร็วกว่า และคุ้มค่ากว่า ในระยะยาว
* ความล้มเหลวของโปรเจกต์ส่วนใหญ่ ไม่ได้เกิดจากการ “สร้างคำตอบที่ผิด”…แต่เกิดจากการ “ตกหลุมรักคำถามที่ผิด” ตั้งแต่แรก
“Software ที่แพงที่สุดคือ Software ที่ทำออกมาแล้วไม่มีคนใช้”
#วันละเรื่องสองเรื่อง #ProductManagement #การบริหารโปรเจกต์ #RequirementsTrap #ProblemSolving #AssumptionTesting #StrategicPlanning #BuildTheRightThing #SignalVsNoise #LeadershipMindset
เทคโนโลยี
ความต้องการ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย