Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
OnePoverty
•
ติดตาม
9 ส.ค. เวลา 14:28 • การศึกษา
สร้างชุมชนเป็นผู้ผลิตและผู้คิดค้น ด้วย อปท.โมเดลพัฒนาท้องถิ่นเข้มแข็ง เตรียมรับมือภาษีนำเข้าสหรัฐฯ
การพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนต้องเริ่มต้นจากรากฐานที่แข็งแกร่งที่สุด นั่นก็คือการ พัฒนาท้องถิ่น แต่ในประเทศไทย การพัฒนาในระดับท้องถิ่นยังคงเผชิญกับความท้าทายมากมาย จนหลายครั้งทำให้ศักยภาพของชุมชนไม่ถูกดึงออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่
1
ซึ่งแตกต่างจากประเทศที่พัฒนาแล้วที่มุ่งเน้นการสร้างชุมชนให้เป็นฐานการผลิตที่เข้มแข็ง และส่งเสริมให้ชาวบ้านเป็นผู้คิดค้นนวัตกรรมด้วยตนเอง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่ ผู้ผลิต ที่รอรับคำสั่งเท่านั้น
บทความนี้เป็นความคิดเห็นผู้เขียนถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ในการ พัฒนาท้องถิ่น ของไทย และนำเสนอ “อปท.โมเดล” ซึ่งเป็นกรณีศึกษาจาก หน่วยการเรียนรู้ อบต. หนองสนิท จังหวัดสุรินทร์ ที่ประสบความสำเร็จ อย่างน่าชื่นชม โดยเน้นการสร้าง ชุมชนเป็นฐาน และพัฒนาคน ให้เป็นศูนย์กลางแห่งการเปลี่ยนแปลง และกำลังเผชิญหน้ากับภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ที่จะเปลี่ยนระเบียบทางเศรษฐกิจขึ้นใหม่ต้องเตรียมรับมือ
1
[อ่านข่าว:
https://www.1poverty.com/2025/07/13.html
]
ปัญหาที่ซ้ำซากของการพัฒนาท้องถิ่นในประเทศไทย
ทุกครั้งที่พูดถึงการ พัฒนาท้องถิ่น ภาพที่มักจะเกิดขึ้นคือการแจกจ่ายสิ่งของ การจัดอบรมที่ไม่ได้นำไปสู่การปฏิบัติจริง และโครงการที่เกิดขึ้นแล้วก็ล้มเลิกไปในที่สุด ปัญหาเหล่านี้มีรากฐานมาจากหลายปัจจัยที่ฝังลึกในระบบสังคมและโครงสร้างการบริหารจัดการของภาครัฐ
1. ความซับซ้อนของภาครัฐและนโยบายที่ไม่สอดคล้อง
ภาครัฐมีโครงสร้างหน่วยงานที่ซับซ้อน ทำให้การประสานงานขาดประสิทธิภาพ การพัฒนาจึงมักติดอยู่กับ “กับดักทางเทคโนโลยี” ที่เลือกใช้จากภายนอก แต่กลับไม่สามารถเชื่อมโยงให้เกิดห่วงโซ่อุปทานใหม่กับภูมิปัญญาภายในได้ การพัฒนาจึงเป็นไปเพื่อลดรายจ่ายในครัวเรือนเท่านั้น ไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
2. การจัดการความเสี่ยงที่ยังไม่เข้มแข็งของธุรกิจในชุมชน
หลายโครงการที่ได้รับการสนับสนุนต่อเนื่องดูเหมือนจะไปได้ดี แต่เมื่อหน่วยงานภาครัฐถอนตัวออกไป กิจการมักจะประสบปัญหาและต้องล้มเลิก ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจาก
การบริหารจัดการที่ขาดประสิทธิภาพ: ทั้งในเรื่องการบริหารคน งาน และเงิน
จังหวะเวลาที่ไม่สอดคล้องกัน: ปฏิทินการทำงานของหน่วยงานที่เข้ามาส่งเสริมไม่สอดคล้องกับจังหวะการผลิตจริงของชุมชน
การประสานงานที่ขาดความยืดหยุ่น: การเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานที่ส่งเสริมกิจกรรมกับหน่วยงานที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไม่ยืดหยุ่นพอที่จะรับมือกับสถานการณ์ความเสี่ยงเร่งด่วนได้
3. ความไม่เชื่อมั่นและวัฒนธรรมการรอรับแจก
เมื่อปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นซ้ำ ๆ นานวันเข้า ชาวบ้าน ก็เริ่มขาดความเชื่อมั่นในโครงการของภาครัฐ และสร้างวัฒนธรรมที่มุ่งเข้าร่วมอบรมเพื่อหวังจะได้รับสิ่งของแจกมากกว่าการเรียนรู้เพื่อพัฒนาตนเองในระยะยาว
ท่ามกลางความท้าทายเหล่านี้ ก็ยังมีแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จาก อปท.โมเดล ซึ่งเป็นบทเรียนจาก อบต. หนองสนิท จังหวัดสุรินทร์ ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการ พัฒนาท้องถิ่น ที่ยั่งยืนเป็นไปได้จริง
อปท.โมเดล: โมเดลความสำเร็จที่พลิกวิกฤตเป็นโอกาส
โดยโมเดลนี้ได้นำแนวคิด “ชุมชน เป็นฐาน” มาใช้ในการพัฒนาอาชีพเกษตรอินทรีย์ ภายใต้โครงการส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้ที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ได้รับการสนับสนุนจาก กสศ. ระหว่างปี 2562-2566 รวม 4 ปี (เว้นปี 2565) เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
1. หัวใจสำคัญของการสร้างรากฐานที่มั่นคง
ก่อนที่จะเริ่มดำเนินงานในพื้นที่ อปท.โมเดล เน้นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งด้วยหลักการดังนี้
การสร้างความเชื่อใจ: สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการสร้างความเชื่อมั่นระหว่างเจ้าหน้าที่และ ชาวบ้าน ด้วยการแสดงความเคารพต่อศักดิ์ศรีของชุมชนอย่างแท้จริง รับฟังความคิดเห็นอย่างจริงจัง และสื่อสารข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ไม่ให้ความหวังลม ๆ แล้ง ๆ ที่ทำไม่ได้จริง
การสร้างวัฒนธรรมองค์กร: การทำให้ทุกคนใน ชุมชน รู้สึกถึงความเป็น “เจ้าของ” คือกุญแจสำคัญ เริ่มจากการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมและกล้าแสดงความคิดเห็น รับฟังผู้อื่น และฝึกฝนการคิดเชิงกลยุทธ์ร่วมกัน เพื่อสร้างจิตสำนึกในการขับเคลื่อนและดูแลกิจกรรมด้วยตนเอง
อปท.คือหน่วยงานปฏิบัติการและเชื่อมโยงภาคี: อบต.หนองสนิท มีข้าราชการประจำที่มีจิตสำนึกรักบ้านเกิด นำโดยหัวหน้าสำนักปลัด ที่ทำหน้าที่เชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน เกษตรกร วิชาการ และประชาสังคม
2. กระบวนการพัฒนา อปท.โมเดล ตำบลหนองสนิท
อปท.โมเดล ตำบลหนองสนิท จังหวัดสุรินทร์ มีการพัฒนาท้องถิ่น 5 กระบวนการ ได้แก่ 1) ใช้พื้นที่รวมเป็นศูนย์กลาง 2) จัดตั้งกลุ่มองค์กรและศูนย์เรียนรู้ 3) วางแผนธุรกิจที่มีผู้ผลิตและมีตลาดต้องการจริง 4) นำโครงการเข้าแผนพัฒนาท้องถิ่นเพื่อเชื่อมโยงภาคีหนุนเสริม 5) ทบทวนแผนงานและหล่อหลอม (Retraining)
[อ่านเพิ่ม:
https://www.1poverty.com/2025/07/18.html
]
ความสำเร็จของ อปท.โมเดล ไม่ได้มาจากเครื่องมือวิเศษ แต่มาจากการวิเคราะห์และปรับใช้แนวทางที่เหมาะสมกับบริบทของ ชุมชน อย่างแท้จริง
เจาะลึกปัจจัย อปท.โมเดล สร้างชุมชนเป็นฐานการผลิตและผู้คิดค้น
1. การใช้ข้อมูลชุมชนเป็นฐานการตัดสินใจ
การให้ ชาวบ้าน เป็นผู้ร่วมระดมความคิดและตัดสินใจ คือหัวใจของโมเดลนี้ เพราะผู้ที่รู้ปัญหาและวิธีการแก้ไขดีที่สุดคือคนในพื้นที่เอง ข้อมูลจาก ชุมชน จึงกลายเป็นฐานสำคัญในการวางแผนและสร้างสรรค์แนวทางใหม่ ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการจริง
2. กลยุทธ์ในการดำเนินงานอย่างชาญฉลาด
ยึดหลักแนวคิดการพัฒนาท้องถิ่นเป็นเป้าหมายในชีวิต: ศึกษาแนวคิดต่างๆ ให้เกิดจิตสำนึก อย่างต่อเนื่อง การตั้งปณิธานเป้าหมายจะเกิดความตระหนักในหลักคิด ในภายหน้าแม้จะทำงานอีกกี่โครงการก็จะยังคงการพัฒนาท้องถิ่น (หลักการเป็นสำคัญ ขั้นตอนที่ดีต้องยืดหยุ่น เป้าหมายชัดเจน)
การเชื่อมโยงเครือข่ายและงบประมาณ: โครงการถูกบรรจุในแผน พัฒนาท้องถิ่น แต่เลือกที่จะประสานงานกับหน่วยงานภายนอกเพื่อขอรับงบประมาณ ซึ่งไม่เพียงแค่ช่วยในเรื่องเงินทุน แต่ยังเป็นการสร้างเครือข่ายและดึงผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐที่เหมาะสมเข้ามาร่วมสนับสนุน
การวางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับตลาด: มีการศึกษาความต้องการของตลาดอย่างจริงจัง เพื่อให้ผลผลิตที่ได้สามารถขายได้และสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง
การจดตั้งกลุ่มองค์กรตามกฏหมาย: วิเคราะห์ศักยภาพของสมาชิกเพื่อเลือกรูปแบบกลุ่มองค์กรที่เหมาะสมในการจดตั้ง ได้แก่ สหกรณ์ แปลงใหญ่ วิสาหกิจชุมชน และกลุ่มอาชีพ ซึ่งในอนาคตสามารถปรับลด-เพิ่มขนาดองค์กรได้ ควรมีผู้ดูแลด้านทะเบียน บัญชี หรือพัฒนาทักษะให้มีผู้วางแผนธุรกิจ (BMC)
การแก้ไขปัญหาเชิงสร้างสรรค์: เมื่อเจออุปสรรคเรื่องเงินทุนหรือข้อจำกัดด้านฤดูกาล ชาวบ้านได้ร่วมกันคิดหาวิธีแก้ปัญหา เช่น การทำข้อตกลงร่วมกันว่าในการประชุมอบรมจะนำอาหารมาเอง เพื่อเปลี่ยนงบประมาณค่าอาหารไปซื้ออุปกรณ์ที่จำเป็น เช่น โรงเรือนหรือเมล็ดพันธุ์ หรือในระยะยาวมีการจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งเงินทุน
การพัฒนาศักยภาพคน: สร้าง “วิทยากรฐานการเรียนรู้” จากคนในชุมชน เอง เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดความรู้ที่สอดคล้องกับระบบการผลิตจริง และยังเป็นพื้นที่ให้ผู้สูงวัยได้ทบทวนและให้คำปรึกษาได้อย่างใกล้ชิด
การเพิ่มความหลากหลายของสินค้า: พัฒนาสินค้าเกษตรอินทรีย์มูลค่าสูงให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับชาวบ้าน ทั้งรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน
ปลดล็อกการพัฒนาท้องถิ่น สร้างกลไกการตรวจสอบสิทธิ์ทางเลือกรับมือภาษีนำเข้าสหรัฐฯ
ถ้าเราสามารถปลดล็อกแนวคิดกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นได้ จะเกิดโมเดลใหม่ในการพัฒนาท้องถิ่นภายใน 3 ปี อย่าง "อปท.โมเดล" ที่ อบต.หนองสนิท ระบุหน่วยตนว่ามีบทบาทในการเชื่อมโยงภาคีเครือข่าย จะเห็นได้ว่าองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) สามารถเป็นกลไกสำคัญในการบริหารจัดการและพัฒนาพื้นที่ของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ อปท.โมเดล ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกับความเสี่ยงจากภาษีใหม่ของสหรัฐฯ ที่กำหนดให้มีการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาของสินค้าให้ชัดเจน การใช้เทคโนโลยีอย่าง AI และ บล็อกเชน (blockchain) ที่มี อปท. เป็นกลไกการตรวจสอบและรับรองได้ว่าวัตถุดิบหรือส่วนประกอบที่ใช้ผลิตสินค้านั้นมาจากท้องถิ่นจริง ๆ เพื่อป้องกันการ "สวมสิทธิ์" และช่วยให้ผู้ประกอบการชุมชนส่งออกสินค้าได้อย่างมั่นใจ
บทเรียนจาก อปท.โมเดล คือเครื่องยืนยันว่าการ พัฒนาท้องถิ่น จะสำเร็จได้อย่างแท้จริง เมื่อเปลี่ยนแนวคิดจากการให้ความช่วยเหลือแบบ “แจก” มาเป็นการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งจากภายใน ชุมชน เอง
ซึ่งการให้เกียรติ รับฟัง และเปิดโอกาสให้ ชาวบ้าน เป็นเจ้าของ เป็นผู้คิดค้น และเป็นผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง การพัฒนาเช่นนี้ไม่เพียงแค่สร้างรายได้ แต่ยังสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมให้กับท้องถิ่น
หากคุณต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน การเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดคือการหันกลับมามองศักยภาพของคนใน ท้องถิ่น และสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
เรื่อง: แตงโม สกลนคร 090868
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง:
https://www.1poverty.com/2025/07/17.html
1 บันทึก
2
2
7
1
2
2
7
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย