Serve Robotics: ผู้นำยุคใหม่ของการส่งอาหารอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างลึกซึ้งกับวิถีชีวิตประจำวัน “การส่งอาหาร” ถือเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตอย่างรวดเร็วและมีการแข่งขันสูง ด้วยพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่เน้นความสะดวกสบาย รวดเร็ว และปลอดภัย “Serve Robotics” กลายเป็นสตาร์ทอัพที่น่าจับตามองในวงการ Food-Tech ด้วยนวัตกรรมหุ่นยนต์ส่งอาหารอัตโนมัติที่ช่วยเปลี่ยนโฉมการจัดส่งอาหารแบบเดิมๆ ไปอย่างสิ้นเชิง
---
ประวัติความเป็นมาและจุดเริ่มต้นของ Serve Robotics
Serve Robotics ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 ในฐานะโครงการหนึ่งของบริษัท Postmates หนึ่งในผู้ให้บริการส่งอาหารออนไลน์ที่ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดยมีเป้าหมายพัฒนาหุ่นยนต์ส่งอาหารอัตโนมัติที่วิ่งบนทางเท้า (sidewalk delivery robot) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และตอบสนองต่อความต้องการผู้บริโภคยุคดิจิทัล
ในปี 2021 หลัง Uber ซื้อกิจการ Postmates เสร็จสิ้น Serve Robotics ก็ถูกแยกตัวออกมาเป็นบริษัทอิสระ เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์ส่งอาหารอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจและเข้าสู่ตลาดทุนอย่างเป็นทางการ
---
เทคโนโลยีหลักและนวัตกรรมของ Serve Robotics
หุ่นยนต์ส่งอาหารบนทางเท้าที่มี AI ควบคุม
Serve Robotics พัฒนาหุ่นยนต์ส่งอาหารที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI ขั้นสูง ซึ่งสามารถเดินทางบนทางเท้าได้อย่างปลอดภัยและแม่นยำ หุ่นยนต์เหล่านี้มีขนาดกะทัดรัด สามารถบรรทุกอาหารและสินค้าขนาดเล็กได้ เหมาะสำหรับการส่งในระยะทางสั้นถึงกลาง
เทคโนโลยี AI ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง รักษาความเร็ว และปฏิบัติตามกฎจราจรบนทางเท้าได้อย่างอิสระ นอกจากนี้ ยังมีระบบเซ็นเซอร์และกล้องความละเอียดสูงที่ช่วยให้หุ่นยนต์รับรู้สภาพแวดล้อมรอบข้างอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด
การรวมระบบ Multimodal Delivery
Serve Robotics ยังได้ร่วมมือกับ Wing บริษัทลูกของ Alphabet ในการทดลองระบบส่งอาหารแบบ “robot-to-drone” โดยหุ่นยนต์ส่งอาหารจะวิ่งส่งจากร้านอาหารไปยังจุด AutoLoader ของโดรน จากนั้นโดรนจะบินส่งต่อไปยังลูกค้าในระยะทางไกลสุดถึง 6 ไมล์ ซึ่งช่วยขยายขอบเขตการให้บริการและเพิ่มความรวดเร็วได้อย่างมาก
ระบบนี้เป็นหนึ่งในแนวคิด Multimodal Delivery ที่จะผสานหุ่นยนต์บนทางเท้าและโดรนเข้าด้วยกันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด และลดต้นทุนด้านแรงงานและโลจิสติกส์
---
การเติบโตและผลประกอบการของ Serve Robotics
ตั้งแต่เข้าสู่ตลาดหุ้น Nasdaq ในปี 2024 Serve Robotics มีอัตราการเติบโตที่น่าประทับใจ แม้รายได้ปัจจุบันยังไม่สูงมาก แต่แสดงให้เห็นถึงการขยายตัวอย่างรวดเร็วและการยอมรับจากพันธมิตรธุรกิจรายใหญ่
ตัวเลขรายได้และการใช้งาน
ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 รายได้ของ Serve Robotics อยู่ที่ประมาณ 642,000 ดอลลาร์สหรัฐ และส่งมอบหุ่นยนต์ไปใช้งานจริง 120 ตัว เพิ่มขึ้นกว่า 80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
แผนการในปี 2025 คือการส่งมอบหุ่นยนต์เพิ่มอีกหลายร้อยตัว รวมถึงเป้าหมายที่จะมีหุ่นยนต์ใช้งานจริงครบ 2,000 ตัวภายในสิ้นปี เพื่อก้าวสู่รายได้ประจำปีในระดับ 60–80 ล้านดอลลาร์ในปี 2026
การระดมทุนและสถานะการเงิน
Serve Robotics มีเงินทุนคงเหลือมากกว่า 183 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นทุนที่เพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจและพัฒนานวัตกรรมต่อเนื่องจนถึงปี 2026 นอกจากนี้ บริษัทยังคาดหวังว่าจะลดการขาดทุนในอนาคตเมื่อขยายฐานลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
---
พันธมิตรและตลาดที่ Serve Robotics มุ่งเน้น
Serve Robotics ได้สร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งกับแบรนด์ร้านอาหารและบริการจัดส่งชื่อดัง เช่น
Uber Eats หนึ่งในแพลตฟอร์มส่งอาหารออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
Shake Shack ร้านเบอร์เกอร์ชื่อดังที่เริ่มทดลองใช้หุ่นยนต์ส่งอาหาร
7-Eleven ร้านสะดวกซื้อที่ให้บริการส่งสินค้ารวดเร็วด้วยหุ่นยนต์
Little Caesars Pizza ร้านพิซซ่าระดับโลกที่ใช้บริการหุ่นยนต์ในบางพื้นที่
พันธมิตรเหล่านี้ช่วยให้ Serve Robotics สามารถทดลองและขยายบริการได้อย่างรวดเร็วในเมืองใหญ่อเมริกา เช่น Los Angeles, Miami, Dallas–Fort Worth, Atlanta และกำลังเตรียมขยายสู่ Chicago
---
Serve Robotics กับความท้าทายและโอกาสในอนาคต
แม้จะมีจุดแข็งหลายด้าน แต่ Serve Robotics ก็ยังเผชิญความท้าทายสำคัญหลายประการ เช่น
ความท้าทายด้านรายได้และผลกำไร
ปัจจุบัน Serve Robotics ยังไม่สามารถทำกำไรได้ โดยรายได้ที่เกิดขึ้นยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับต้นทุนการพัฒนาและดำเนินงาน การเพิ่มจำนวนหุ่นยนต์และขยายตลาดอย่างรวดเร็วจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยบริษัทลดต้นทุนต่อหน่วยและเพิ่มผลตอบแทน
การแข่งขันในตลาด
ตลาดหุ่นยนต์ส่งอาหารเป็นตลาดที่มีคู่แข่งหลายราย ทั้งสตาร์ทอัพและบริษัทยักษ์ใหญ่ที่พัฒนาเทคโนโลยีหุ่นยนต์คล้ายกัน เช่น Starship Technologies และ Nuro ซึ่งเน้นส่งของและอาหารด้วยยานยนต์อัตโนมัติบนถนนและทางเท้า
Serve Robotics ต้องรักษาความสามารถในการแข่งขันโดยเน้นนวัตกรรม เทคโนโลยี AI และระบบความปลอดภัย เพื่อสร้างความแตกต่างและสร้างความไว้วางใจให้ลูกค้า
---
ผลกระทบทางสังคมและสิ่งแวดล้อม
การนำหุ่นยนต์ส่งอาหารมาใช้งานในเมืองใหญ่ไม่เพียงแต่ช่วยให้การส่งอาหารสะดวกและรวดเร็วขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ยานยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และลดปัญหาการจราจรติดขัด
นอกจากนี้ การใช้หุ่นยนต์ยังช่วยลดแรงกดดันในการหางานแรงงานมนุษย์ในงานส่งอาหาร ซึ่งเป็นงานที่มีความเสี่ยงและเหนื่อยล้ามากในสภาพแวดล้อมยุคปัจจุบัน
---
Serve Robotics กับภาพรวมตลาด Food-Tech
ตลาด Food-Tech กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ที่ผู้บริโภคหันมาใช้บริการสั่งอาหารออนไลน์และเดลิเวอรี่มากขึ้น สตาร์ทอัพที่สามารถผสมผสานเทคโนโลยี AI หุ่นยนต์ และระบบอัตโนมัติ จะมีโอกาสสูงในการครองตลาดในอนาคต
Serve Robotics จึงถือเป็นหนึ่งในผู้นำของเทรนด์นี้ ด้วยการมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีส่งอาหารแบบอัตโนมัติที่ตอบโจทย์ทั้งธุรกิจและผู้บริโภคยุคใหม่
---
บทสรุป: Serve Robotics กับอนาคตของการส่งอาหาร
Serve Robotics กำลังสร้างอนาคตใหม่ของการส่งอาหารด้วยหุ่นยนต์อัตโนมัติที่ปลอดภัย แม่นยำ และยั่งยืน ด้วยพันธมิตรธุรกิจระดับโลก แผนการขยายบริการที่ชัดเจน และเงินทุนเพียงพอ บริษัทมีศักยภาพที่จะพลิกโฉมตลาด Food-Tech อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านรายได้และการแข่งขันยังคงมีอยู่ ทำให้ Serve Robotics เป็นโอกาสลงทุนที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองเห็นภาพรวมการเติบโตระยะยาวและพร้อมรับความเสี่ยง
หากคุณสนใจติดตาม Serve Robotics หรือวงการ Food-Tech อื่น ๆ อย่าลืมติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เพราะโลกของเทคโนโลยีส่งอาหารกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วและน่าตื่นเต้น
---
#การลงทุนในธุรกิจสตาทอัพมีความเสี่ยงสูงมาก นักลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
