Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มินิซีรี่ย์
•
ติดตาม
10 ส.ค. เวลา 06:35 • ประวัติศาสตร์
นิราศบ้านแหลม
นายพินแต่ง
๏ นิ รารักหักจิตต์ให้
โหยหวน
ราศ จากนุชฉวีนวล
เสน่ห์หนิ้ว
บ้าน เคยเกิดกามกวน
กอดกก แก้วเฮย
แหลม กว่าวนดูดดิ้ว
ฤดีดิ้นถวิลทวี ฯ
๏ นิราศน้องคลองบ้านแหลมแรมสถาน
สู่ประเทศถึงกระทั่งบังตะพาน
เวลาประมาณสองยามพอน้ำลง
พร้อมต้นหนคนท้ายบ่ายนาเวศ
จากประเทศล่องน้ำความประสงค์
เสียงน้ำจิตต์คิดขอให้คืนคง
ลาอนงค์นวลลอองนิ่มน้องนาง
จงอยู่ดีเจริญศรีสุขสวัสดิ์
อย่าข้องขัดราคินมลทินหมาง
อาลัยน้องตรองตรึกรำลึกพลาง
เรือยิ่งห่างใจยิ่งเหี่ยวเปลี่ยวฤทัย
เห็นภูมิถานบ้านช่องสองฟากฝั่ง
ยิ่งหล่อหลั่งชลนาน้ำตาไหล
สท้อนถอนอ่อนรันทดสลดใจ
แต่นี้ไปเปนวิบากจากสบาย
โอ้ชตาอาภัพอัปประภาค
ไม่อยากจากจำไกลพาใจหาย
เคยคลึงเคล้าเช้าเย็นไม่เว้นวาย
แสนเสียดายดูอื่นไม่ชื่นตา
คนึงน้องล่องน้ำข้ามคุ้งวัด
ยกสองหัตถ์ขึ้นประนมก้มเกศา
ชวลิตจิตต์คำรพนบวันทา
วิหารมหาเขตต์ขอบรอบอาราม
ขอพระเดชเกศมงกุฎวิสุทธิแก้ว
อันเลิศแล้วเฉลิมลบภพทั้งสาม
คุณบิดรมารดาเมตตาตาม
ช่วยหักห้ามป้องกันสรรพภัย
พอเรือเลี้ยวแหลมคุ้งสดุ้งวาบ
ตัวแมงสาบบินถลามาแต่ไหน
ถูกที่อกตกต่ายแล้วหายไป
ให้หวั่นใจคิดวนฉงนงง
พิเคราะห์ความตามนิมิตรอุทิศหมาย
จะดีร้ายหน้าหลังหวังประสงค์
ขอพระรัตนมิ่งอันยิ่งยง
ยอดมิ่งมงคลคุ้มประชุมมา
โปรดระงับดับร้ายให้หายเหตุ
เปนปิ่นเกศปกปักช่วยรักษา
น้องที่อยู่ผู้ที่ไปในนาวา
ทั้งตัวข้าขออย่ามีราคีพาน
ให้ไปดีมาดีศรีสวัสดิ์
สารพัดลาภผลดลสถาน
ต้องจากสวาทขาดชมไปนมนาน
ขอคืนบ้านเคียงคู่อยู่กับนวล
พอเรือเลยเกยเลนแหลมปากอ่าว
พระพายผ่าวพัดฮือกระพือหวน
ที่ฝั่งตื้นคลื่นลั่นเสียงครั่นครวญ
น้ำก็ป่วนเรือก็ปั่นเที่ยวหันเปร
เอาแจวซ้ำค้ำท้ายบ่ายไม่ออก
ข้างท้ายบอกหัวให้ค้ำลำไม่เห
ต้องจำอยู่สู้หนาวแอบอ่าวชะเล
ให้ว้าเหว่เวิ้งว้างเมื่อกลางคืน
จะเหลียวแลซ้ายขวาดูหน้าหลัง
เห็นแต่รังรั้วเรียงกับเสียงคลื่น
ทั้งสองฟากซ้ายขวาล้วนป่าฟืน
ข้างบนดื่นดาวดาษสอาดดวง
ข้างพื้นล่างพร่างแพร่กระแสสินธุ์
ตลอดสิ้นสุดคเณชะเลหลวง
เอนกคณาปลาปูอยู่ทั้งปวง
เห็นมากดวงไต้แดงนึกแคลงใจ
จึงถามเขาเหล่าพวกที่มาเพื่อน
ว่าบ้านเรือนที่โน่นมีหรือที่ไหน
ดูดื่นดวงช่วงแดงด้วยแสงไฟ
กระแสใสเสียงผู้หญิงเที่ยววิ่งวง
คนเข้าใจในวิธีเขาชี้บอก
กลับตคอกขู่ให้ว่าใหลหลง
พวกจับรังฝังเรือกเอาเฝือกวง
พอน้ำลงจับปลาได้พาไป
เที่ยวซื้อขายจ่ายแจกแลกขนม
ไปแกงต้มปิ้งจี่ตามวิสัย
เขาหากินถิ่นที่ตมถมทั่วไป
แต่พอได้เลี้ยงชีวาประสาจน
ได้ทราบแจ้งแหนงจิตต์คิดสละ
วิจารณะตรองเห็นไม่เปนผล
นิยมหยาบบาปกรรมจะนำตน
ไปทุกข์ทนทางทุเรศเวทนา
เปนทั้งนี้ที่แท้แน่หนักหนอ
ให้เกิดก่อความประมาทในสาสนา
บาลีธรรมคำพระว่าอวิชชา
เปนผู้พาสัตว์ให้วนทรมาน
เปนสัตว์มนุษย์สุดเลิศประเสริฐสัตว์
สารพัดทำได้หลายสถาน
แต่ปลาว่ายมาในสายนทีธาร
ประกอบการจับปลาพาไปกิน
เอาไม้รวกทำหลักปักเปนรั้ว
เปนแถวทั่วเรียงรายในสายสินธุ์
รั้วรวกห่างหว่างหลักปันปักดิน
เหมือนนกบินกางปีกฉลีกลม
มีก้นถุงวุ้งแว้งฉะเวิกวาก
ทำเปนปากเปิดปิดสนิทสนม
เปนที่ปูชูก้ามในน้ำตม
ตั้งนิยมบัดพลีพะลีการ
ขนานนามตามสำเนียกเรียกเปนโป๊ะ
จะลวงโละปลากินในถิ่นถาน
สงสารปลาต้องมาติดนิจกาล
เที่ยวซมซานเซอะเซิงละเลิงมา
กระทบรั้วกลัวนักไม่ยักรู้
ก็พาหมู่พวกพ้องของมัจฉา
เข้าก้นบึ้งถึงกระทั่งที่ขังปลา
เพราะปัญญาไม่รู้ข้อเขาล่อลวง
เวลาเย็นเห็นเขาพากันมาเฝ้า
นั่งนอนเนาพยายามคอยห้ามหวง
เช้าอวนล้อมอ้อมชักขึ้นตักตวง
ปลาทั้งปวงโดดดิ้นดับสิ้นปราณ
โอ้สารพัดสัตว์เกิดมาลุ่มหลง
เที่ยวเวียนวงอยู่ในวัฏสงสาร
ไม่ยืดยืนอยู่ยังจิรังนาน
ทรมานมากำเนิดเกิดแล้วตาย
แต่ตัวเราเขลาเหมือนคนพิกลจริต
ครั้นหวนคิดขึ้นมาได้โอ้ใจหาย
จะซูบผอมตรอมอุระไม่สบาย
ร้างรศสายสวาทร้อนอาวรณ์ใจ
โอ้บ้านแหลมแหลมจริงยิ่งกว่าเข็ม
มาตำเต็มเจ็บอุราน้ำตาไหล
อกระบมตรมตรึกนึกเมื่อใด
มาเจ็บใจด้วยไม่ชังเสียบ้างเลย
นั่งรำจวนป่วนจิตต์คิดถึงน้อง
หนาวลอองวิรุณพรมลมระเหย
เอนระงับทับที่หมอนยกกรเกย
ละลาเลยอาลัยตรองถึงน้องนาง
แม้นเปลี่ยนใจไปสถิตในจิตต์น้อง
แม่คุณของพี่จะแจ้งแห่งเรียมหมาง
จะเห็นจริงสิ่งซึ่งครวญถึงนวลนาง
จะเห็นทางที่ไม่อยากจะจากเลย
ถ้าเหาะเหินเดินโดยโพยมได้
พี่จะไปร่วมเรียงเคียงเขนย
อนาถนึกตรึกตรมอยากชมเชย
จนหลับเลยลงกับที่ค่อยมีแรง
พอน้ำขึ้นตื่นตาผวาลุก
ร้องเรียกปลุกคนข้างท้ายจวนสายแสง
ก็เร่งลุกรีบรัดขึ้นจัดแจง
ได้ลมแรงแล่นเรื่อยเฉื่อยเฉื่อยมา
โอ้ป่านนี้ศรีเสาวลักษณล้วน
จะคร่ำครวญนึกถึงคำนึงหา
จะแลเหลียวก็จะเปลี่ยวจะเปล่าตา
คงโสกาซบเศร้าเงียบเหงาใจ
พี่อยู่ด้วยน้องได้พี่ไม่จาก
แสนวิบากกรรมกรรมทำไฉน
ต้องจำเข็ญเปนจรสท้อนใจ
ตัดอาลัยจากน้องพี่ต้องลา
ขอทวยไทยเทพท้าวเทพารักษ์
สิทธิศักดิ์เรืองฤทธิ์ทั่วทิศา
มารับพรวอนไหว้วันทนา
ฝากสุดาเดียวด้วยเชิญช่วยดู
ให้อยู่เย็นเปนศุขศรีสวัสดิ์
ไม่ข้องขัดจะพะลีทั้งหมี่หมู
ขอเทพทั่วอุปะถัมภ์ได้ค้ำชู
ช่วยดอดดูดวงเนตร์เวทนา
เรือกระทั่งบางหูใส่หัวใจเสียว
ชำเลืองเหลียวแลหลังดูฝั่งฝา
เห็นบ้านเรือนเกลื่อนกลาดดาษดา
ที่วัดวารกร้างอยู่อย่างไร
ไม่มีคนปรนนิบัติสันทัดเที่ยง
สงฆ์จึงเลี่ยงหลีกล่าไม่อาศรัย
ธรรมดาว่าพระสงฆ์ทุกองค์ไป
อยู่ที่ไหนผาสุกชอบชุกชุม
นี่กระไรใจจิตต์คิดสละ
ไม่พึ่งพระเพลินไปทางแต่สร้างสุม
อกุศลผลที่ทำจะร่ำรุม
กรรมจะกุมเกาะกายให้ว่ายวน
โอ้นึกวินิจแล้วก็คิดถึงนวลน้อง
มีแต่ปองสมสร้างทางกุศล
ประพฤติศีลาทานุวัตรสัจสวดมนต์
บำเพ็ญผลแผ่บุญกรุณา
ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตคิดสมเพช
หมั่นฟังเทศน์ทางโอวาทพระสาสนา
แม่งามสำรวยสวยสำอางมาห่างตา
พี่โหยหาอยากให้เห็นไม่เว้นวาย
โอ้ป่านนี้ยุพยงอนงนาฎ
เคยลินลาศไปเสาะซื้อสิ่งของขาย
ลงเรือเล็กเด็กด้วยช่วยกันพาย
เที่ยวจับจ่ายสารพันสิ่งอันมี
ทั้งมังสาปลาทูหมูกล้วยส้ม
ขนุนขนมถมไปในวิถี
ถ้าพบของท้องตลาดรสชาติดี
มาฝากพี่ตั้งไว้มิได้วาย
เรือครรไลไกลบ้านมานานช้า
พระสุริยาส่องนภางค์กระจ่างฉาย
ร้อนแสงแดดแผดกล้าหน่วยตาพราย
เรือถึงท้ายบ้านมากปากชะเล
ลมไม่แรงแคลงโคลงสายโยงขย้อน
ใบก้านหย่อนแกว่งกวัดตะปัดตะเป๋
ละลอกต้องคล่องแคล่งเหมือนแกว่งเปล
ตุรัดตุเหร่ลอยเลื่อนเคลื่อนเคลื่อนคลา
พี่ยืนยลบนบ้านสถานถิ่น
ชำเลดินบ้านนี้ดีหนักหนา
บริบูรณ์พูลเกิดหอยปูปลา
จีนไทยพากันมาอยู่ดูสบาย
นิยมหยาบบาปกรรมจำใจสู้
เลี้ยงล้วนหมูเป็ดไก่เอาไข่ขาย
ชนิดเราเนาไม่ได้ไม่สบาย
ถึงไร้ร้ายทรัพย์สินไม่ยินดี
ด้วยจะมาฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
ถึงสิ้นคิดขัดลงเปนคงหนี
จะพาน้องของฉันขยันดี
ไปทำที่ไร่นากว่าจะตาย
โอ้ป่านฉนี้ยุพเยาว์เสาวภาคย์
ธุระมากนฤมลแม่ขวนขวาย
จะนิ่งอยู่ดูไม่ได้ไม่สบาย
เรียกหญิงชายบ่าวทาษประกาศการ
ให้ทำโน่นทำนี่เที่ยวชี้บอก
ข้างในนอกวุ่นวายหลายสถาน
จนสำเร็จเสร็จวินิจในกิจการ
แสนสงสารสายสุดใจพี่ไม่วาย
ครั้นนาวามาถึงบ้านบางแก้ว
เห็นแต่แนวเนินป่าพฤกษาหลาย
แล่นข้ามอ่าวก้าวออกนอกสบาย
เห็นขาวทรายบนหาดสอาดตา
เรียกบางแก้วแก้วจะมีอยู่ที่ไหน
เที่ยวแลในท้องชะเลพระเวหา
ถ้ามีแก้วแวววับคงจับตา
นี่ไม่ปรากฎมีที่แห่งใด
มาตั้งนามตามบ้านบูราณเรียก
หรือสำเนียกกำหนดมีอยู่ที่ไหน
อยากถามผู้รู้เล่าให้เข้าใจ
ไม่มีใครชี้เช่นไม่เห็นจริง
เห็นเขาเรียกเรียกตามนามเรียกนั้น
โอ้นึกถึงขวัญดวงเนตร์แก้วเกศหญิง
พี่รักน้องปองรักสมัคจริง
รักสุดสิ่งรักแล้วเกินแก้วตา
โอ้ป่านฉะนี้ศรีสวัสดิ์กำดัดโฉม
จะทุกข์โทมนัสทะเวศถึงเชษฐา
ด้วยพี่พรากจากครรไลมาไกลตา
ไม่รู้ว่าร้อนเย็นเปนอย่างไร
เวลานี้พี่กับน้องสองไสยาสน์
ไม่เคยขาดเคียงชิดพิสมัย
สำราญรมย์สมสองแห่งห้องใน
โอ้สายใจจะว้าเหว่อยู่เอกา
๏ ถึงแหลมพะเนินเกินบางแก้วมาแล้วหนอ
เกิดกกกอต้นแสมแลนักหนา
เปนพงพืชน์ยืดหยั่งฝั่งชลา
แหลมมีป่าต้นโพทะเลราย
พฤกษาสูงยูงยางหามีไม่
เปนแหลมใหญ่คนผู้หมู่มากหลาย
เที่ยวจับหอยหาปูอยู่สบาย
ไม่เอือมอายเวรกรรมจะนำตน
แต่ว่ายากหากจะเห็นว่าเปนโทษ
หาประโยชน์อื่นไม่อวยอำนวยผล
มิอาจล่วงหลีกลุปุถุชน
เพราะความจนจึ่งจำทำบาปกรรมเวร
สังเวชจิตต์คิดถึงตัวมัวมากหมอง
ไม่รักน้องปองจิตต์คิดบวชเถร
ประพฤติธรรมคำพระสละเวร
ไม่โอนเอนกอบกับกายจนตายเลย
นี่สุดจิตต์คิดจะไกลใจไม่จาก
แบกวิบากอกอานิจาเอ๋ย
ไม่สมประกอบชอบได้ชื่นคืนชวดเชย
นั่งนึกเสวยทุกข์วิโยคเศร้าโศกโซ
ถึงยากเย็นขอให้เห็นวันละหน
ที่ร้อนรนก็จะชื่นขึ้นอักโข
เฝ้าคิดถึงคนึงในใจเรโร
แทบเผ่นโผลงชลาให้ปลากิน
โอ้ปานนี้นิ่มนุชสุดสวาท
เคยลีลาศลงท่าชลาสินธุ์
ชำระล้างกายสกลหมดมลทิน
ทาขมิ้นขัดสีฉวีวรรณ
แล้วเข้าห้องส่องกระจกหวีศกสาง
ให้สำอางเอี่ยมดีห่มศรีสรรพ์
ทั้งสองปรางปรุงแฉล้มแต้มอำพัน
ดังผลจันทน์หอมโอชาชวนน่ากิน
แต่โหยหวนครวญคร่ำร่ำถึงน้อง
เรือแล่นลองฝืนฝ่าชลาสินธุ์
เกลือกละลอกกลอกมาในวาริน
ถึงที่ถิ่นแหลมผักเบี้ยยังเสียใจ
บางบ้านนี้เขาว่ามีทับทิมมาก
ให้นึกอยากรสร่ำทำไฉน
ครั้นจะหยุดนาวาช้าที่ไป
เรือเดินได้ลมดีดูมิควร
ถึงอยากนั่นอยากนี่พี่อดได้
เหลืออดใจที่จะห้ามความสงวน
อยากให้น้องของพี่นั่งยียวน
อยากไม่ควรแค่นคิดอยากวิบากครัน
โอ้ปานฉนี้วรนุชสุดถนอม
จะทุกข์ตรอมใจวิโยคเฝ้าโศกศัลย์
ด้วยพี่กับเจ้าเช้าเย็นเคยเห็นกัน
มาทิ้งขวัญเนตรน้องอยู่แต่ผู้เดียว
เคยปรึกษาปราไสได้ดับทุกข์
มาสิ้นสุขเสียไม่มีที่จะเหลียว
สงสารแสนสายสมรแม่นอนเดียว
คงแห้งเหี่ยวโหยหาพี่ทุกวี่วัน
ฉงนฉะแง้เลรอบขอบคันเขตร์
ถิ่นประเทศฝั่งฝาเวหาสวรรค์
จวนจะดับลับแสงพระสุริยัน
คัดท้ายหันเหหัวด้วยกลัวลม
แล่นแฉลบแอบฝั่งถึงบางทลุ
พอมีพยุทอดสมอก็พอสม
ควรแก่กาลถานที่อับเข้าลับลม
หยุดนิยมกินนอนผ่อนสบาย
แต่ตัวเรียมเตรียมตรมอารมณ์ถวิล
ไม่ทราบระบินเรื่องยุบลในชลสาย
ถึงมีเพื่อนก็เหมือนมาเอกากาย
ให้วุ่นวายเวทนาไปท่าเดียว
แม้นได้นุชสุดแสนสวาทพี่
มานั่งนี่หน่อยไม่หนักสักประเดี๋ยว
ขอชมโฉมขนิษฐาสุดาเดียว
ให้หายเปลี่ยวทรวงเปล่าเปลื้องเศร้าใจ
บางทลุชื่อบางเปนอย่างนี้
แต่อกพี่ตันจิตต์พิสมัย
ไม่ทลุเหมือนชื่อบางให้สร่างใจ
ด้วยไม่ได้เห็นนางสำอางตา
แต่นั่งตรึกนอนตรึกนึกถึงน้อง
จนยามสองเดือนดับลับเวหา
เคลิ้มระงับหลับไปในนาวา
หวาดผวาถึงที่รักภคินี
จนแสงทองส่องสางน้ำค้างตก
คณานกร้องเร่งพระสุริย์ศรี
ค่อยฟื้นกายหมายว่านุชสุดสตรี
มาปลุกพี่แว่วเสียงสำเนียงดัง
ร้องขานขาลืมตาไม่เห็นนุช
ให้แสนสุดทรวงเสียวเหลียวหน้าหลัง
ไม่มีสุขทุกข์ถวิลสิ้นกำลัง
ลุกขึ้นนั่งแลรอบขอบชะเล
ดาราดับอับแสงไม่มีศรี
ทั่วทิศที่บนล่างสว่างเสว
ชอุ่มเขียวขอบฟ้าอาคเณ
วันนี้เวลาบ่ายลมร้ายแรง
จะพานพัดจัดจ้านมาด้านนี้
ออกจากนี่ไปไหนจะได้แฝง
พอตื่นพร้อมล้อมระดมกันต้มแกง
สุกเสร็จแบ่งแจกปันพากันกิน
แล้วถอนสมอช่อใบใส่หางเสือ
บ่ายหัวเรือแล่นล่องตามท้องสินธุ์
สายกระแสแลปลาในวาริน
บ้างโดดดิ้นดำว่ายมีหลายพรรณ์
ชนิดหนึ่งพึ่งเห็นทั้งหางหัว
มีกายตัวโตแท้แลดูขัน
หลั่นสองลอนท่อนหัวตัวเปนมัน
เขาพูดกันเรียกว่าชื่อปลาวาฬ
ขึ้นทีไรให้เสียงสำเนียงโฟ้
จมลอยโผล่ว่ายเข้ามาดูกล้าหาญ
เพราะเชื่อตนว่าตัวโตโง่สันดาน
อยากประหารเสียด้วยปืนไม่คืนเปน
ขัดอยู่นิดกีดด้วยกรรมจึงจำนิ่ง
มันเย่อหยิ่งว่าไว้พอให้เห็น
เราเปนคนเคยกินปลากล้าก็เปน
มิใช่เช่นฉันจะฆ่ามันว่าไร
โอ้ยามเช้าหนาวกายไม่หายหนาว
หัวอกร้าวร้อนคิดถึงพิสมัย
ได้มานั่งยังที่นี่พี่ดีใจ
จะชี้ให้ชมปลาในสาคร
ฝูงกระโห้โลมาปลาฉลาม
ฉนากตามเรือเรียงเคียงสลอน
ฝูงกู้เราเต่ากระเข้าคละจร
เอนกนิกรมากสัตว์ในนัที
มีเหลือล้นสุดที่คณนานับ
แต่ภัทธกัปเกิดเกาะชมภูศรี
ก็เกิดมาสารพัดสัตว์อันมี
ในนัทีฟ้าดินสิ้นด้วยกัน
กิเลสราคหากให้ปฏิสนธิ์
เกิดสกนธ์ร่างกายเที่ยวผายผัน
แสวงสุขทุกนิสสัยใจเหมือนกัน
แต่ใจฉันคราวนี้เต็มทีทน
ความรักนุชสุดที่รักหักไม่หาย
ชีพจะวายลงเสียวันละพันหน
เพราะตัณหาพาเหียรให้เวียนวน
เหลือจะทนทานที่ทุกข์ไม่สุขเลย
โอ้ยามนี้ศรีสมรวิมลมิ่ง
แม่ยอดหญิงภัคินีเจ้าพี่เอ๋ย
คำนึงนุชสุดใจกระไรเลย
ด้วยแม่เคยสรรหาอุส่าห์ทำ
โภชนาอาหารใส่พานโตก
ให้พี่พอบริโภคจนอิ่มหนำ
ทั้งหมากพลูบุหรี่มีประจำ
เคยสุขสำราญกายสบายเสบย
ถึงบางช้องมองเชือนพอเบือนหน้า
เห็นราวป่ารำไรโอ้ใจเอ๋ย
ห่อนเห็นสุขสนุกสนานสำราญเลย
หรือเขาเคยอยู่สุขสนุกมี
อยากจะถามนามขนานบ้านบางช้อง
ว่าในคลองแห่งหนตำบลนี้
จะหากินถิ่นอาศรัยฉันใดดี
เข้าปลามีบริโภคหรือโศกโซ
นั่งวินิจคิดจำนงค์ความสงสัย
จะถามใครไม่เห็นมาน่าโมโห
โอ้บางช้องคลองบางกว้างเติบโต
ตลอดโร่แลลิ่วแถวทิวทาง
เที่ยวแลโน่นแลนี่ไม่มีสุข
เหมือนอุ้มทุกข์เทียมเท่าภูเขาขวาง
อาดูรโดยโหยหวนเฝ้าคราญคราง
คิดถึงนางน้องพี่ไม่คลี่คลาย
โอ้ปานฉนี้ยุพยงยอดสงสาร
เคยจากบ้านจรดลเที่ยวขวนขวาย
เก็บบุบผามาลัยใส่กระทาย
สำราญกายเดินเล่นเย็นเย็นลม
พี่จากน้องคราวนี้มีแต่ทุกข์
ไม่มีสุขสักเท่าซีกกระผีกผม
ให้หนาวจิตต์หนาวใจไม่ได้ชม
ให้หนาวลมหนาวอุราเอกากาย
ถึงบางเก่าเหงาแก่ยิ่งแต่ก่อน
แทบจะถอนใจจิตต์หวิดหวิดหาย
นึกนับวันหมั่นมีเปนไม่เว้นวาย
สงสารกายคงจะผอมด้วยตรอมใจ
เขาพูดว่ากินน้ำตาตนต่างเข้า
นึกว่าเปล่าเล่าจิตต์คิดสงสัย
ได้เห็นแท้แน่คราวนี้มีจริงใจ
จะจำไว้ว่าเขาว่าวาจาจริง
โอ้ชาตินี้มีกรรมล้ำวิบาก
ต้องพลัดพรากนวลลอองแม่น้องหญิง
ถึงบางเก่าก็จะเก่าเหมือนบางจริง
ชื่อว่าสิ่งใดเล่าที่เก่ารา
เปนนัทีศรีขรินทร์แผ่นดินสถาน
ถ้าถึงกาลแก่เก่าเหมือนเขาว่า
รู้สูญสิ้นไปด้วยไฟประลัยมา
สำมหาสิ่งอื่นมากหมื่นพัน
โอ้ตัวเราเก่าแก่แพ้ลงโข
ด้วยซูบโซร่างกายแต่ผายผัน
มาพลัดพรากจากสุดาไม่ช้าวัน
ไม่เปนอันนอนกินสิ้นเสบย
เห็นจะลับดับสูญเสียเปนแน่
เพราะว่าแก่รักจนเก่ากายเราเอ๋ย
ไม่เริงรื่นชื่นจิตต์สักนิดเลย
แล้วไม่เคยมามีที่รำคาญ
ครั้งคราวนี้ปี้ป่นเปนคนเสีย
กระปลกกะเปลี้ยวุ่นวายหลายสถาน
เพื่อนพวกมาพาสำรวลชวนสำราญ
เล่านิทานเฮฮาพูดจากัน
ถึงเรื่องรักเรื่องใคร่เขาไม่ทุกข์
กลับสนุกหัวร่อเปนข้อขัน
ว่านางนี้นางโน้นได้โดนกัน
เหมือนตุ่มคันแกะเกาพอเบาตน
ไม่อยากคบอยากค้าไม่ผาสุก
พวกพาทุกข์พาเข็ญไม่เปนผล
ใครหลงรักมักมากลำบากตน
เขาพูดบ่นเสียดตำให้ช้ำใจ
นึกน้อยจิตต์คิดถึงตัวช่างชั่วชาติ
ไม่วายสวาทพิศวงเฝ้าหลงใหล
เราก็จิตต์คิดดูเล่าเขาก็ใจ
ใยเขาไม่ทุกข์นักเรื่องรักกัน
โอ้ตัวเราคราวนี้มีทุกข์มาก
ด้วยพลัดพรากจากนิ่มนุชสุดกะสัน
แสนคนึงถึงแม่งามอยู่ครามครัน
ดวงตวันคล้อยเย็นไม่เด่นดวง
โอ้ป่านฉนี้ยุพเยาว์ลำเภาพักตร์
เคยเก็บรักเอามาร้อยแล้วห้อยหวง
มลิร้อยห้อยเล่นเปนพวงพวง
ลำดับดวงดอกดีดูวิไล
จะหาไหนได้เหมือนนุชสุดเสาะหา
ไม่สบตาตัวพี่เข้าที่ไหน
พี่รำพึงถึงสวาทเพียงขาดใจ
สุดอาลัยสุดรักสุดหนักทรวง
๏ พอตั้งพยัพอับพยุจะพัดใหญ่
รีบใช้ใบมาถึงบ้านโตนดหลวง
ขึ้นยืนยลเห็นแต่ต้นตาลทั้งปวง
เปนตาลหลวงเหลือล้นคณนา
ตลอดลิ่วทิวแถวตามแนวน้ำ
เอนกล้ำหลายหลากมากนักหนา
เปนพุ่มบนต้นโล่งโปร่งในตา
งามสง่าย่านนี้ดีสุดใจ
บ้างสูงต่ำคร่ำคร่าชราโรค
ลางต้นโศกแห้งหดไม่สดใส
เที่ยวยืนต้นตายตามแลหลามไป
ดูต้นใบก็ไม่น่าจะว่าดี
แต่โอชาปรากฏด้วยรสชาติ
ถึงไม่สอาดใบก้านรสหวานจี๋
เปนที่ชอบใจมนุษย์สุดยินดี
รสหวานนี้ชอบทั่วทุกตัวคน
แต่ตัวฉันหวั่นถวิลสิ้นเสื่อมสุข
เรื่องที่ทุกข์ใครไม่ทราบอนุสนธิ์
ด้วยทิ้งพะธูอยู่ข้างหลังเกิดกังวล
กลัวแต่คนปากหวานจะพานพา
เอานุชน้องของฉันกันไปกอด
ด้วยใจยอดเยาวมิตรขนิษฐา
ชอบแต่หวานการที่ขมสมเปนยา
ไม่ปราถนาเจ็บไข้ยังไม่กิน
โอ้ปานฉนี้นวลลอองนิ่มน้องนาถ
สุดสวาทของพี่ชายไม่วายถวิล
เคยสำราญกายาเปนอาจิณ
หรือยุพินพี่จะทุกข์ไม่สุขกาย
จะดีชั่วฉันใดไม่พึงรู้
พิเคราะห์ดูคิดไปยิ่งใจหาย
เปนห่วงหวงดวงจิตต์คิดไม่วาย
เฝ้าฟูมฟายชลนาน้ำตากิน
ระยะย่านบ้านโตนดยืดยาวเหลือ
แต่ลำเรือได้ลมสมถวิล
แล่นชะเลแลลายคล้ายนกบิน
ถึงหัวหินฉับพลันมิทันนาน
เรียกหัวหินหินจะมีอยู่ที่ไหน
อ่อมีในชลท่าแถวหน้าบ้าน
ถานหัวหินถิ่นนี้ที่สำราญ
ตำบลบ้านบ่อนนี้ดีสุดใจ
ไม่ต้องตั้งฝั่งเขตต์ทำเขื่อนรั้ว
ใครไม่กลัวก็ต้องเกรงอัชฌาสัย
ถึงเรือแพนาวาเที่ยวมาไป
ไม่เข้าใกล้หลีกตัวกลัวอยู่เอง
โดยน้อยศักดิ์อรรคถานศฤงฆารยศ
คนกลัวหมดเหมาะเจาะที่เหมาะเหม็ง
บางบ้านอื่นดื่นไปเขาไม่เกรง
มายำเยงกลัวสิ้นหาดหินมี
ขอใจนุชที่ฉันสุจริตรัก
ให้แน่นหนักอยู่เหมือนหินในถิ่นที่
ประกอบเกิดกีดสง่าไม่ราคี
ขออย่ามีชายใดอาจใกล้กลาย
คลื่นกระทุ่มกลุ้มกระแทกแดกหัวหิน
เปนอาจิณฉ่าฉาดไม่ขาดสาย
เหมือนพี่ทุ่มทุกข์ถึงนางไม่ว่างวาย
ดูคล้ายคล้ายกันกับคลื่นแผ่นพื้นธาร
โอ้ยามนี้ศรีสวัสดิ์กำดัดสวาท
เคยยุรยาตรจากที่เคหะถาน
เที่ยวบันเทิงเริงรื่นชื่นสำราญ
สบายบานผ่องใสน้ำใจคอ
น้องอยู่หลังครั้งนี้มีสิ่งสุข
หรือจะทุกข์ทะเวศใจไฉนหนอ
แต่อกพี้นี้รันทดสลดพอ
คิดขึ้นท้อใจทุพลทรมาน
เรือแล่นล่องก้าวเลียบตะเกียบเกาะ
รีบละเลาะรุดตะบึงถึงสถาน
เข้าชิดเฉียดเบียดท่าหน้าเมืองปราณ
เห็นเรือนบ้านมีตั้งแฝงฝั่งคลอง
หวนรำลึกนึกคำนึงถึงบ้านแหลม
บ้านข้างแคมฟากฝั่งมีทั้งสอง
เคยนั่งเล่นเย็นสำราญร้านริมคลอง
ได้เห็นน้องลอยนวลมายวนตา
ถึงสร้อยเศร้าเหงาง่วงโศกทรวงนัก
ได้เพ่งพักตร์พิศโฉมขนิษฐา
พอแลพบสบเนตรสังเกตตา
กลับพูลผาสุกชื่นคืนสบาย
โอ้ยามนี้อกเราก็เศร้านัก
ด้วยความรักคิดถึงนางไม่ห่างหาย
สิ่งอื่นอื่นพื้นไม่มีที่สบาย
ให้วุ่นวายเวทนาในอารมณ์
พระสุริยนสนธยาเวลาค่ำ
อากาศคล้ำคลุ้มสีครามยามปฐม
เย็นลอองต้องน้ำค้างที่พร่างพรม
เย็นด้วยลมเฉื่อยฉิวพัดผิวกาย
ชะเลลั่นครั่นครื้นเปนคลื่นคลั่ง
กระทบฝั่งเฟือนหูไม่รู้หาย
จะเหลียวดูผู้พวกเรือก็เหลืออาย
ทำเชิงชายตาเยาะหัวเราะกัน
สู้จำนิ่งเมินหน้าประสาประสี
ดูวารีเหล่าปลาพฤกษาสรรพ์
ให้ชอกช้ำจำใจชื่นทุกคืนวัน
มาตื้นตันเต็มวิตกโอ้อกเรา
คิดถึงโฉมเหมือนหนึ่งโฉมแม่งามพริ้ง
มาสู่สิงทรงทรวงให้ง่วงเหงา
หรือโฉมยอดเยาวหญิงน้องนิ่งเนา
สิงเปนเงาเฝ้าอยู่ตาหรือว่าไร
ให้หลับเห็นตื่นเห็นอยู่เปนนิตย์
เหลือจะปลิดปลดวางเสียข้างไหน
ด้วยจำจากหากต้องทนจนจำใจ
กว่าจะได้กลับคืนไปชื่นเชย
อาภัพพาอาเภททุเรศรัก
เมื่อหนาวนักได้นอนแนบแอบเขนย
ถึงยามร้อนพอได้ผ่อนด้วยลมเชย
เวลาเคยเห็นโฉมประโลมใจ
มาเหลียวแลก็เห็นแต่น้ำกับฟ้า
ห้ามน้ำตาว่าให้เว้นเห็นไม่ไหว
ในทรวงเต้นตึกตึกนึกเมื่อใด
เจียนขาดใจเสียด้วยน้องที่คลองปราณ
โอ้ปานฉนี้ศรีสุดากัลยาหญิง
วิมลมิ่งยุพยงยอดสงสาร
จะเปลี่ยวเปล่าเหงาใจอาลัยลาญ
ด้วยเปนกาลเย็นย่ำจวนค่ำคืน
เมื่อเข้าห้องส่องเห็นปัจฐรณ์
ที่เคยนอนแนบน้องประคองชื่น
สำราญเรียงเคียงข้างไม่ห่างคืน
น้องจะฝืนอาลัยแลดูแดดาล
แต่ล่วงตำบลชลเขตร์ประเทศแถว
ลำเนาแนวสาขรินทร์ถิ่นสถาน
ถึงสามร้อยยอดปลอดเปลี่ยวลำเดียวดาน
ดึกประมาณสามยามครั่นคร้ามใจ
เขาว่าสลัดคอยสลักสำนักนี้
มักเคยมีอยู่ริมเขาเข้าอาศรัย
เห็นเรือแพนาวาวิ่งมาไป
เอาหม้อไฟทิ้งทุ่มล้อมรุมกัน
เข้าแย่งหยิบริบรุกพิฆาฏฆ่า
ใครน้อยกว่าสู้ไม่ไหวใครอาสัญ
ที่เหลือตายกายตัวยอมกลัวมัน
ทำเช่นนั้นในที่นี้มีเนืองเนือง
ประพฤติพาลการโกงเก่งฉกาจ
ถือฉลาดเห็นงามไปตามเรื่อง
แม้นเรือเราเข้ามาทำให้ช้ำเคือง
ถึงจะเรืองแรงกำลังไม่ฟังมัน
ปัจจามิตรจิตต์โหดทำเหลือเหตุ
ไม่เกรงพระเดชจอมวังณรังสรรค์
ปิ่นมกุฎอยุธยาวราธรรม์
เปนฉัตรกั้นร่มเกล้าชาวนคร
ปราบบรรดาข้าศึกฮึกเปนเสี้ยน
ให้ราบเลี่ยนหลีกหลบสยบสยอน
บำรุงเลี้ยงไพร่ฟ้าประชากร
ให้ถาวรไปมาเที่ยวหากิน
ทั้งบกเรือเหนือใต้รายเลขรอบ
โปรดประกอบประกาศกิจนิจสิน
ยังลาดตะเวนเกณฑ์รักษาเปนอาจิณ
พระเจ้าแผ่นดินตั้งพระทัยมิให้กวน
พวกพาลทุพลสนธิเปรตเศษสลัด
เที่ยวสกัดก่อเปนศึกใจฮึกหวน
นิยมเห็นเปนไปเปนไม่ควร
ถึงเจอะจวนเข้าเดี๋ยวนี้ไม่หนีกลัว
ขอพระฤทธิ์อิศราอาญาจักร์
ช่วยพิทักษ์กั้นสกนธ์อยู่บนหัว
บำรุงเลี้ยงเสี่ยงจิตต์อุทิศตัว
จิตต์มิกลัวตั้งมั่นไม่พรั่นพรึง
จะยิงแย่งแทงฟันเอามันหมด
พวกคนคดขาดคิดพระคุณถึง
มุลิกาฝ่าธุลีที่คำนึง
ด้วยได้พึ่งพระบรมสมภาร
กลับเปนศึกนึกเปนเสี้ยนเบียฬรุกราษฎร์
ล่วงอำนาจเจ้าแผ่นดินหมิ่นอาจหาญ
เทวฤทธิ์สิทธิศักดิ์จักบันดาล
จูงสังขารสู่ที่เข็ญเห็นทันตา
ใครขืนคิดจิตต์นำอำนวยผล
เพราะจิตต์ตนมืดมิดด้วยอิจฉา
สันดานชาติขาดจิตต์คิดเมตตา
วิบากพาพวกผู้นั้นเกิดอันตราย
แต่ศึกสลัดตัดจิตต์พอคิดสู้
มาสิ้นรู้ด้วยศึกรักหักไม่หาย
โอ้เกิดมาท่านว่าถูกลูกผู้ชาย
เหมือนเรือพายหมายจะข้ามห้วงน้ำวน
ไปปะหญิงยิงเรือทลุรั่ว
เรือคือตัวบุรุษชายที่ขวายขวน
อาวุธหญิงสิ่งที่ว่าคือตาคน
ยิงเอาจนเรือนั้นล่มจมชะเล
ที่ชนชายพายเรือไม่เฝือฟาก
เหมือนวิบากเราท่านเที่ยวหันเห
ผู้บวชเรียนเพียรจะพาเอากาเย
สู่ถึงเทวนิพพานสำราญรมย์
ไม่สมประสงค์เพราะมาหลงรักผู้หญิง
พายุ่งยิ่งยากเข็ญเปนประถม
ใครปรนนิบัติตัดได้ไม่นิยม
ดีฉันชมว่าผู้นั้นท่านเมธี
ฉันตัดบ้างยังไม่ไหวทุกข์ใจฉัน
นั่งโศกศัลย์คิดถึงน้องจนหมองศรี
คอยแลเรือสลัดมารุมราวี
ไม่เห็นมีเจ๊กแขกปลอมแปลกลำ
ยินแต่เสียงเลียงผาไก่กาสร
จิ้งจอกหอนลองไนเรไรร่ำ
โฉงกเงื้อมเลื่อมเขาเปนเงางำ
เสียงครึมครำลิงค่างร้องครางครวญ
ค่อยล่องเรือเรียบผามาหน้าเกาะ
สำเนียงเสนาะสัตว์ระงมเมื่อลมหวน
น้ำค้างพรมร่มพฤกษ์นึกรันจวน
ให้ปั่นป่วนอกใจกระไรเลย
สู้ฝืนจิตต์จับหนังสือขึ้นถืออ่าน
เปนนิทานเรื่องราวกล่าวเฉลย
ถึงท่านท้าวพรหมทัตพลัดคู่เชย
สลบเลยลงกับแท่นแสนระทม
นางนงลักษณ์ภัคินีสนมนาฎ
สำอางสอาดสวยอื่นพันหมื่นถม
น้ำพระทัยเธอไม่รักหนักอารมณ์
เหมือนงามคมกากีศรีสุดา
โอ้เรานี้มีแม้นไม่เหมือนนัก
โดยความรักจักเที่ยวเลือกเสือกเสาะหา
ถ้าประสงค์คงคนมีที่เมตตา
เที่ยวขายค้ากินมานานทุกบ้านเมือง
ได้เห็นโน่นเห็นนั่นไม่เหมือนนี่
ที่ดีดีนวลเนื้อนั้นเหลือเหลือง
ขืนเข้ามากล้ำกลายชายชำเลือง
ยังคิดเคืองไม่ประสงค์ที่นงเยาว์
แต่คราวนี้นี่กระไรที่ไหนหนอ
เล่นจนงออยู่กับที่เหมือนอิเหนา
เมื่อจากนุชบุษบายุพาเยาว์
เธอแสนเศร้ากะสันหายุพาพิน
โอ้ตัวพี่พลัดพรากแต่จากสวาท
ใจจะขาดเสียด้วยนุชสุดถวิล
สู้กลืนรักหนักหน้าน้ำตากิน
แทบจะสิ้นสูญหายกายสกนธ์
เอาขันหนุนต่างหมอนลงนอนหงาย
วิรุณปรายโปรยปรอยเปนฝอยฝน
ลอองหยาดสาดกระเซนเย็นสกนธ์
มัวกระมลม่อยหลับกลับบันดาล
ฝันว่าได้สายสมรมานอนแอบ
ถนอมแนบชิดชมภิรมย์สมาน
ประคองกอดยอดมิ่งวิมลมาลย์
แสนสำราญรื่นรื่นชื่นอารมณ์
ประจงจูบลูบคลำเคล้นคลึงเคล้า
ทั้งสองเต้าหอมประทิ่นกลิ่นผ้าห่ม
ดูสองเนตรน้องชม้ายคายค้อนคม
พี่ได้สมสวาทนี้ความดีใจ
เสมอเหมือนเลื่อนลอยจากสถาน
ขึ้นวิมานมรกดสุกสดใส
ได้เชยสุรางค์นางสวรรค์นั้นฉันใด
ความดีใจจะประมาณก็ปานกัน
รริกรรื่นชื่นชมสมสนิท
ปลุกปลื้มจิตต์ปรีเปรมเกษมสันต์
ผวาตื่นฟื้นสมประดีพลัน
ไม่เห็นขวัญตาพี่เนาที่นอน
แสนกำสรดถดถอยห้อยใจโหย
ให้กอบโกยความคำนึงถึงสมร
ถวิลทวีอาทวาให้อาวรณ์
คิดยิ่งค่อนทรวงเศร้าเปล่าอุรา
ปานฉนี้เปนไฉนก็ไม่รู้
แหงนแลดูเดือนกระจ่างหว่างเวหา
พระจันทรจรควรไลในนภา
มีเมฆมามืดมิดปิดมณฑล
รัศมีสีเศร้าสลดแสง
ไม่แจ่มแจ้งห้องฟ้าเวหาหน
ดูดวงเดือนเหมือนกับเราเศร้าสกนธ์
หมองกระมลมืดมิดคิดอาลัย
โอ้ยามนี้โฉมฉายสายสมร
จะอาวรณ์ถึงพี่บ้างหรือไฉน
ได้มาเรียงเคียงคู่ชูชื่นใจ
จะกอดไว้มิได้วางให้ห่างกาย
นั่งนึกมานึกไปใจเคลิ้มเห็น
เหมือนนั่งเล่นชานเรือนเดือนหงายๆ
น้องมาเคล้าเฝ้าให้พี่เล่านิยาย
จึ่งอธิบายความให้ฟังเรื่องหลังมา
ตำนานนี้มีผู้รู้ดูน้อยนัก
แม่แหงนพักตร์เพ่งยลบนเวหา
ดูศะศิจันทรจรเมฆา
เห็นเต็มตาติดช่วงในดวงจันทร์
คือพระฉายกายศะศิโพธิสัตว์
ดูไม่ชัดไกลพ้นบนสวรรค์
ด้วยเดิมกล่าวเล่ามาว่าพระจันทร์
กระต่ายนั้นเนาในป่าพนาลี
เวลาค่ำน้ำค้างลงพร่างพร้อย
ตัวต่ายต้อยเต้นตามความสุขี
เห็นดวงจันทร์นั้นงามความยินดี
ถวิลทวีทะเวศกะสันทุกวันคืน
จนซูบผอมตรอมใจด้วยไกลนัก
เศร้าแสนรักจันทร์โรจีไม่มีชื่น
เจริญพระปริตธรรมทุกค่ำคืน
ใช่บทอื่นคือยัสสานุสสะระเณ
พึงกำหนดบทนี้มีเบื้องต้น
สองนิพนธ์นาปิอันตลิกเข
ตลอดสู่ภูมิยังหวังคะเณ
พณามะเหจบปริตพิศดาร
ด้วยวาศนาบาระมีโพธิสัตว์
ผู้จะตรัสโปรดโลกโอฆสงสาร
พระจันทร์ร้อนวิญญารู้อาการ
เหาะทยานจากแท่นทิพบันทม
เข้าข้างเคียงเรียงศะศิโพธิสัตว์
ทรงสำผัสอุ้มชูขึ้นสู่สม
ยังรถแก้วสุริกาญจน์สำราญรมย์
กระต่ายชมชื่นแช่มแจ่มวิญญา
องค์ศะศิโพธิสัตว์อัธิษฐาน
ขอสมานฝากกายภายภาคหน้า
ให้ฉายชิดติดตรงวงจันทรา
ประจักษ์ตาโลกสิ้นแผ่นดินดาล
เหตุฉนั้นจันทระชื่อศะศิ
เพราะดำหนิรูปกระต่ายในสัณฐาน
สถิตจักระราษีทุกทิวาร
พิศถานไว้หวังเห็นเปนมงคล
ให้ฝูงสัตว์ทัศนาปัญญาพระ
ทรงวิริยะอุตโมวโรผล
แต่ดวงจันทร์อันวิจิตร์สถิตบน
ตัวต่ายตนเตี้ยต่ำเฝ้ารำพึง
เจริญธรรมร่ำเร่งไม่เลยละ
ผลเดชะมรรคญาณบันดาลถึง
ได้โดยหวังดังอารมณ์สมคำนึง
ข้อนี้จึงแจ้งจิตต์จำเปนคำจริง
เชิญแม่น้องตรองตรึกนึกบ้างหนา
เกิดกายมายากอยู่เปนผู้หญิง
พี่ขอสอนวอนหวังไม่ชังชิง
สมรมิ่งแม่อย่ามีราคีเคือง
อภัยโทษแล้วอย่าโกรธว่าพี่ว่า
มาพูดจาแจ้งกระทู้คันหูเหือง
พี่สอนสั่งหวังรักจักประเทือง
ให้รุ่งเรืองกายน้องไม่หมองมัว
ธรรมดาสาธุชนคนเปนหญิง
จะสุดสิ่งชั่วดีเมื่อมีผัว
ครั้นสามสองหมองศรีราคีตัว
เหมือนทองกลั้วเกลือกธาตุตะกั่วนม
แต่ตัวพี่นี้ได้เห็นเช่นมากหลาย
ชายพาขายเล่นเบี้ยเสียก็ถม
เกลียดจริตคิดชังไม่หวังชม
ให้สาสมใจหญิงหยิ่งเปนพาล
ไม่เสงี่ยมเจียมจิตต์คิดสงวน
บอนกระบวนปากกล้าเที่ยวว่าขาน
ให้ชายช้ำคำแหนบเจ็บประจาน
อย่าสามารข้อนี้ไม่ดีจริง
อันตัวนางอย่างมณฑาผกาหอม
ควรถนอมกายอยู่เพศผู้หญิง
สันชาติชายคล้ายภมรมาวอนวิง
เว้นหยามหยิ่งอย่าดูถูกลูกผู้ชาย
ด้วยเวทมนต์ดลคาถายาแฝดแฝง
จริงมีแจ้งประจักษ์อยู่ไม่รู้หาย
เกลือกเขาหาพาผู้รู้อุบาย
กระทำกายย่อยยับอับประมาณ
เสียงคนไอได้สติดำริห์จิตต์
เอะเราผิดลุ่มหลงด้วยสงสาร
มัวละเมอเพ้อพำน่ารำคาญ
เล่านิทานให้ใครฟังนั่งเอกา
พอมีสติตริตรึกนึกได้หน่อย
กลับเศร้าสร้อยโศกไห้อาลัยหา
เห็นเปนน้องย่องกริบฉิบเข้ามา
แอบก้มหน้านิ่งนั่งอยู่ข้างกระออม
พี่ดูถังพลั้งเผลอละเมอพลอด
หวังว่ายอดเยาวมิตร์สนิทถนอม
มานั่งซ่อนหลอนหลอกหยอกคนกรอม
ยกแขนอ้อมกอดไว้มิได้คลาย
ไม่นุ่มนิ่มเหมือนเนื้อน้องมองเปนถัง
เอะเราคลั่งหลงใหลใจเหี่ยวหาย
สุชลไนยไหลหลั่งพรั่งพรูพราย
เฝ้าฟูมฟายฝอยฟองนองสุชล
ดาวก็เคลื่อนเดือนก็ดับลงลับหาย
แสงทองพรายพร่างฟ้าเวหาหน
ขาวประเทืองเหลืองแดงเขียวแฝงปน
พระสุริยนเยื้องพริ้มขึ้นปริ่มดวง
สนั่นเสนาะเพราะเสียงสำเนียงสัตว์
พระพายพัดพุ่มไม้ไศลหลวง
น้ำค้างหยาดสาดกระเซนมาเย็นทรวง
คิดถึงดวงเนตรนักพะวักพะวน ฯ
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย