Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
PPTV Wealth
•
ติดตาม
12 ส.ค. เวลา 09:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ดีเกินคาด! HSBC มองไทยโดนภาษี19% ลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
HSBC มองไทยโดนภาษี 19% ช่วยลดความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ-ไม่เสียเปรียบประเทศอาเซียน พร้อมจับตา กนง.พิจารณาอัตราดอกเบี้ย
อาริส ดาคาเนย์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคารเอชเอสบีซี เปิดเผยว่า อัตราภาษีนำเข้าที่สหรัฐฯ เก็บจากไทยอยู่ที่ 19% นั้น ถือว่าดีกว่าคาดการณ์และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นในอาเซียน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ โดยหลายฝ่ายเคยคาดหวังผลการเจรจาภาษีที่แย่กว่านี้ เพราะการประกาศภาษีนำเข้าที่สูงถึง 36% ส่งผลให้ไทยเสียเปรียบทางการค้า แต่การที่ไทยยืนหยัดปกป้องอุตสาหกรรมบางประเภท รวมทั้งความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างไทยกับกัมพูชา
อาริส ดาคาเนย์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธนาคารเอชเอสบีซี
ทำให้การเจรจาล่าช้าจนถึงนาทีสุดท้าย ก่อนที่อัตราภาษีนำเข้าจะถูกลดลงมาเหลือ 19% ซึ่งถือว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยความเสี่ยงที่ไทยจะสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ ก็จะถูกลดลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาษีนำเข้าใหม่ยังส่งผลกระทบทางลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทย แต่ความเสี่ยงด้านลบหรืออุปสรรคลดลง เนื่องจากไทยไม่มีข้อเสียเปรียบด้านภาษีเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาคเดียวกัน ขณะเดียว ไทยได้ยกเว้นภาษีให้กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ประมาณ 10,000 รายการ และลดอุปสรรคการนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ยังอำนวยความสะดวกให้บริษัทจากสหรัฐฯ ในภาคพลังงานหมุนเวียน เซมิคอนดักเตอร์ และโลจิสติกส์เข้ามาลงทุนในไทย รวมถึงมีการตกลงลดดุลการค้าเกินดุลกับสหรัฐฯ ลง 70% ภายในปี 2573
ขณะเดียวกัน แม้อัตราภาษีนำเข้าที่ 19% จะสูงกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เคยคาดไว้ที่ 18% แต่เมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ในอาเซียนแล้ว ไทยไม่มีข้อเสียเปรียบด้านภาษีนำเข้า อีกทั้งยังทำให้อัตราภาษีนำเข้าของไทยอยู่ในระดับเดียวกับอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ และต่ำกว่าเวียดนามเล็กน้อย
นอกจากนี้ เอชเอสบีซี ระบุว่า อัตราภาษีนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ไทยสูญเสียการเติบโตทางเศรษฐกิจประมาณ 0.9 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ โดยคาดการณ์ว่าการเติบโตทั้งปี 2568 จะลดลงเหลือ 1.7% อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงด้านลบจำกัดจะมากขึ้น เนื่องจากภาษีตอบโต้ในภูมิภาคนี้ไม่ได้สร้างแรงจูงใจให้เกิดการทดแทนสินค้าหรือการเปลี่ยนแปลงส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ
ขณะที่ก่อนหน้านี้ ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้ประกอบการในไทยลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ จนถึงการประกาศภาษีนำเข้า รวมไปถึงภาคเอกชนผู้ผลิตก็ไม่เติมสินค้าคงคลัง แม้จะมีการสั่งซื้อล่วงหน้า แต่ล่าสุดมีแนวโน้มว่าสัดส่วนใหญ่ของการส่งออกในอนาคตจะมาจากการผลิตสินค้าใหม่ และการเปิดสายการผลิตจะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ และระดับสินค้าคงคลังที่เพิ่มขึ้นหลังจากลดลงติดต่อกัน 6 เดือน ถือเป็นสัญญาณบวกที่แสดงว่าผลประกอบการของภาคเอกชนในไทยอาจดีขึ้นในอนาคต
สำหรับการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ไทยได้เปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐฯ เข้ามาเพิ่มขึ้น โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าพลังงานและปัจจัยการผลิตขั้นสูงที่ไทยไม่มีการผลิตเอง ซึ่งคาดว่าจะไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อตลาดภายในประเทศ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ยังชี้ว่าไทยนำเข้าสินค้าจากจีนมากกว่าสหรัฐฯ ถึง 4 เท่า เมื่อไม่นับรวมสินค้าในกลุ่มพลังงาน
ส่วนนโยบายการเงิน เอชเอสบีซีคาดว่า ธปท. จะลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อรับมือผลกระทบจากภาษีนำเข้าและกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ ธปท. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% เนื่องจากประเมินว่าประเทศไทยจะเสียเปรียบด้านภาษีมากกว่าประเทศอาเซียนอื่น ๆ หากเทียบกับการเก็บภาษีของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ดี เอชเอสบีซี มองว่า ผลการเจรจาที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ ทำให้ความไม่แน่นอนลดลง และความเสี่ยงด้านลบต่อการเติบโตของไทยจึงลดน้อยลงตามไปด้วย ทำให้แรงกดดันต่อ ธปท. ในการผ่อนคลายนโยบายการเงินลดลงเช่นกัน
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
https://www.pptvhd36.com/wealth/economic/254560
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์
https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTVHD36 :
https://www.facebook.com/PPTVHD36
YouTube :
www.youtube.com/@PPTVHD36
ดอกเบี้ย
ทรัมป์
เศรษฐกิจ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย