Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สงคราม story
•
ติดตาม
11 ส.ค. เวลา 16:45 • การเมือง
ตาคลีแดนหัวใจ EP.4
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ก่อนที่จะไปอ่านนิยายเรื่องนี้ ผู้เขียนขอให้ทุกท่านโปรดช่วยกดไลก์ กดติดตาม และกดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนในการทำบทความหรือนิยายต่อๆไป
ต่อจากการบินโชว์ในตอนแล้วท่อไอพ่นพาพวกเขาพุ่งทะยานผ่านฟ้าสีคราม เครื่องบินขับไล่ F-16B MLU หมายเลข 40303 จากฝูงบิน 403 กองบิน 4 ตาคลี พร้อมสัญลักษณ์รูปงูจงอางที่แพนหางดิ่งและหมายเลข 90034 ลอยตัวในความสูงสี่หมื่นฟุต หมวกนักบิน JHMCS ของทั้งคู่รับแสงแดดยามสาย ถังเชื้อเพลิงขนาด 370 แกลลอนห้อยอยู่ใต้ปีกทั้งสองข้าง เพิ่มน้ำหนักและแรงต้านจนปีกอวบเล็กน้อยเมื่อมองจากด้านหน้า
ปลายปีกขวามีกระเปาะ ACMI pod สีฟ้าอมน้ำเงินยาวเรียว สะท้อนแดดวาววับในบางจังหวะ ODIN ลดคันเร่งให้อยู่ในความเร็วเท่าเครื่องบิน Airline เพื่อนประหยัดน้ำมันในขณะเดินทางกลับตาคลี
เบื้องล่างคือผืนป่าและทุ่งนาแผ่กว้าง เส้นทางกลับไม่หวือหวาเหมือนการแสดงที่สนามบินเวียงธรรมเมื่อครู่ แต่แฝงด้วยความน่ากลัวที่พร้อมสำแดงพลังให้ศัตรูได้เห็น
ต้นเสียงพูดคุยจาก EVIL ราวกับทำให้รุ่นน้องในตำแหน่งนักบินหน้าอย่าง ODIN สบายใจ โดยไม่ต้องคิดว่าเขากำลังภารกิจอะไร นี่คือการคุยกันแบบสบายๆตามประสาลูกทัพฟ้า
EVIL ในตำแหน่งเบาะหลังยกคิ้ว พูดผ่านวิทยุในหมวก JHMCS ขึ้นแซวเสียงขรึม “อย่าให้เร่งแรงกว่านี้เดี๋ยวเราตาย คุณบินช้าๆก็ได้”
ODIN กล่าว "ครับพี่ เดี๋ยวผมจะพยายามเบาตามที่พี่บอก" นักบินรุ่นพี่พูดต่อ "ถ้าบนฟ้ามีแดงป่านนี้ผมว่าเราคงโดนจับไปแล้ว ใช่ไหมหมวดไอซ์" "จริงอย่างที่พี่ว่าแหละครับ ตั้งแต่ผมเป็นนักบิน F-16 ผมไม่เคยบินเร็วกว่านี้มาก่อน พี่คิดว่ายังไงครับ" เขาตอบนักบินรุ่นน้อง "ผมว่านี่อาจเป็นบทเรียนสำหรับคุณ ยิ่งคุณบินเร็วมากกว่านี้มันยิ่งเปลืองน้ำมัน แถมอาจทำเครื่องเราตกถ้าคุณเร่ง Afterburner ไปมากกว่านี้"
ODIN หัวเราะแห้งๆ ผ่านหมวก JHMCS ที่เขาใส่เหมือนกับ EVIL แต่ก็ยังคงดึงหัวเครื่องขึ้นอย่างมั่นใจ เส้นขอบฟ้าลาดลงใต้กระจกบังลม ฟ้าสีครามข้างหน้าเปิดกว้างราวเชื้อเชิญ ขณะที่ตัวเลขความเร็วบน HUD ไต่ขึ้นเรื่อยๆ ราวกับอยากพิสูจน์ว่าคราวนี้จะไม่ซ้ำรอยเก่า
เปลี่ยนภาพไปที่มุมมองจากข้างนอก F-16MLU มีการติดตั้งอุปกรณ์ไม่กี่ชนิดเช่น ปีกขวามี ACMI pod จุดติดระเบิดใต้ปีกทั้ง 2 ข้างที่ไม่มีระเบิดติดมา และถังเชื้อเพลิงสองข้างใต้ปีก
แม้จะไม่ได้ติดมามากมายคล้ายกับตอนที่พวกเขาไปทำสงคราม แต่มันกลับทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นเมื่อการรบครั้งหน้ามาเยือน
เหยี่ยวพิฆาตสองที่นั่งจากฝูงบิน 403 ลอยสูงเหนือพรมสีเขียวที่ทอดยาวสุดสายตา ป่าเบื้องล่างแผ่กิ่งก้านราวผืนพรมที่ถักด้วยมือของธรรมชาติ แสงแดดช่วงสายส่องกระก้อนเมฆอย่างงดงามราวกับไฟส่องกระทบร่างกาย พื้นเบื้องล่างต้นไม้นานาพรรณรับแสงอันอบอุ่น ลำธารสายเล็กทอประกายเงินไหลคดเคี้ยวระหว่างทิวไม้ใหญ่
เรืออากาศโท ณัฐชนนท์ พอใจ "ODIN" นักบิน F-16 new gen หน้าเอียงศีรษะมองผ่านขอบหมวกนักบินแล้วพูดว่า “สวยกว่าที่คิดนะครับพี่” น้ำเสียงเขาเบาลงกว่าตอนทำภารกิจ ขณะที่คันเร่งอยู่เพียงย่านครูซ
นาวาอากาศโท พีรสันต์ กมลเวชช์ "EVIL" ครูการบิน F-16 ในเบาะหลังเพียงยิ้ม พลางปล่อยให้เสียงเครื่องยนต์ Pratt & Whitney F100 เป็นเพียงเสียงพื้นหลังของภาพตรงหน้า—ภาพที่ไม่มีการซ้อมรบ ไม่มีแรงกดจี มีเพียงป่า ภูเขา และฟ้าที่กว้างพอจะเยียวยาความเหนื่อยล้าของนักบินสองนายที่กลับจากการแสดงเมื่อครู่
"ผมรู้สึกผ่อนคลายมากๆ พอบินมาเส้นทางนี้นี่คือเส้นที่ผมไม่เคยบินผ่านมาก่อนจริงๆ" ODIN ถาม "พี่ยังไม่เคยมาเส้นทางนี้เหรอครับ"
EVIL ตอบ "ใช่ ผมพึ่งบินมาที่นี่กับคุณครั้งแรก บรรยากาศเบื้องล่างมันทำให้ผมผ่อนคลายจากเรื่องที่ผ่านๆมาได้" นักบินรุ่นน้องพูดต่อไป "ถ้าผมได้บินกับ F-16 ต่อคงจะมีความสุขน่าดูนะครับพี่ ตอนนี้ที่โคราชมี F-16 Block 70 เมื่อผมย้ายไปที่นั่น จะไปลองสมรรถนะเจ้าเหยี่ยวตัวใหม่ดู" จากนั้น EVIL ก็พูดว่า "ช้าก่อน มันยังเร็วไปที่คุณจะย้ายฝูง" "ครับพี่ ผมยังอยู่จนกว่า F-16MLU จะปลด"
เหนือป่ากว้างไกลนั้น F-16MLU ยังคงมุ่งหน้าสู่ตาคลี แต่หัวใจของคนในห้องนักบินได้หยุดพักชั่วครู่ ท่ามกลางความงดงามที่ไม่มีเสียงวิทยุใดกลบได้
5 นาทีต่อมา “เรียกตาคลี นี่ ODIN พร้อมจะถึงสนามบินปลายทางแล้วเปลี่ยน”
เสียงตอบกลับจากหอคอนโทรลดังชัดเจนในเฮดเซ็ต
“ODIN จากตาคลี รับทราบ ขอให้รักษาระดับความสูง 2,000 ฟุตค่ะ” เจ้าหน้าที่ ATC หญิงตอบ
“รับทราบ ตาคลี ขณะนี้อีก 30 กม.พร้อมแลนดิ้งแล้วครับ” ทางหอตอบ "รับทราบค่ะ" ขณะนี้มีการปรับคันเร่งให้ความเร็วคงที่
เบื้องล่างเริ่มปรากฏเส้นถนนใหญ่ที่ทอดยาวไปทางตัวเมือง เสียงลมพัดผ่านลำตัวเครื่องดังสม่ำเสมอ ลำตัวสีเทาดำกระแสงแดดยามสายวูบวาบ
ขณะนี้เหลืออีก 20กม. พวกเขาจะสัมผัสรันเวย์กองบิน 4 ตาคลีแล้ว ในขณะนี้การบินลาดตระเวนและการบินโชว์ครั้งแรกของพวกเขาก็เสร็จสิ้นไปแล้ว ถือว่าเป็นเรื่องดีที่พวกเขาสองคนทำงานร่วมกันได้โดยไม่มีอุปสรรคใดๆ การบินในครั้งหน้าจะเป็นภารกิจใดนั้น ไม่มีใครรู้มีแต่พวกเขาเท่านั้นที่รับรู้ พวกเขาคือนักบิน F-16 แห่งฐานบินตาคลี
ในวันเดียวกัน ณ กองบิน 4 ตาคลี นาวาอากาศโทพิศาล เตชะอำพล "AMERICA" ผู้บังคับฝูงบิน 403 ใส่ชุดนักบินสีเขียวมะกอกพร้อมแว่นกันแดดสีดำและหมวกแก๊ปประจำฝูงบินหลังจากไปขับ F-16 ทิ้งระเบิดมา เขาเดินมาคุยกับจ่าชื่น พันจ่าอากาศเอกพิษณุ ทองดี ทหารในเครื่องแบบลายพรางฟ้าดิจิตอลวัย 55 ปีสังกัดกองพันอากาศโยธินในกองบินแห่งนี้
จ่าชื่นพูดว่า "ผู้ฝูงครับ การฝึกวันนี้หนักหน่วงมากเลยครับ พวกผมต้องคอยปกป้องฐานทัพจากสมมติฐานการโจมตีทางภาคพื้นดินและการฝึกยิงโดรน"
ผู้ฝูงพูดว่า "ใช่...แต่สิ่งที่พวกเราทำสำคัญกว่าที่คิดเยอะเลยนะ" ผู้ฝูงที่ใส่หมวกแก๊ปฝูงบิน F-16 ตาคลีสีเขียวดำพูดขึ้นต่อ "ถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่ภาคพื้นทุกนายที่มายืนอยู่ตรงนี้ ประชาชนก็จะหาความปลอดภัยและความสบายใจไม่ได้ จริงไหมจ่าชื่น"
จ่าชื่นตอบว่า "ใช่ครับ ผู้ฝูงพูดถูก ไม่ใช่แค่ผู้ฝูงที่เข้าใจจ่าแก่ๆอย่างผม ทหารทุกนายเข้าใจดีว่าผมทำหน้าตรงนี้ทำไม" เข้าพูดต่อไป "ผมเข้าใจแล้วครับ ถ้าไม่มีการฝึก รบไปมันก็มีแต่จะเสียเปรียบ" ผู้ฝูงพูดต่อ "อย่าว่าแต่จ่าเลย ขนาดผมบินทิ้งระเบิดทุกวันนี้ ผมเองก็มีท้อนะ แต่ทำไงได้ ผมให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยเพราะมันเป็นอาชีพเดียวที่ทำให้ผมมีวันนี้ ถ้าผมลาออกไปก็คงจะไม่มีความสุขเมื่อเทียบกับการขึ้นบินไปด้วยเร็วสูงทุกวัน นี่คือความสุขของผม"
พอผู้ฝูงพูดจบจ่าชื่นพูดต่อว่า "ผมชอบบรรยากาศที่ตาคลี ผมไม่อยากย้ายไปไหนเลยตั้งแต่ผมมาบรรจุรับใช้ชาติที่นี่ พร้อมกับภาพ F-16 ที่บินให้เห็นทุกวันตั้งแต่ปี 2548 ผมมีความสุขมากที่ที่นี่คือบ้านหลังที่ 2 ของผม"
ผู้ฝูงถามต่อ "แล้วที่โคราชไม่ดีกว่าเหรอ" เขาตอบต่อไป "มันไม่ใช่ไม่ดีอไรหรอกครับ ผมย้ายตามเพื่อนผมที่เป็นช่างเครื่อง F-16 มาที่นี่ มันชื่อไอ้เชิด มันชวนผมมา ผมก็เลยย้ายตามมัน มันกับผมก็เหมือนกับที่ผู้ฝูงและรองผู้ฝูงสนิทกันครับ"
ระหว่างที่พูดคุยเสียง F-16 เครื่องหนึ่งก็บินขึ้นทำบรรยากาศพูดคุยสนุกๆหายไปสักระยะ จากนั้นก็กลับมาคุยกันต่อ จ่าชื่น "ถ้า F-16 ปลดผมว่าน่าสงสารนะครับ" ผู้ฝูง "ใช่ๆ F-16 มันอยู่คู่ทัพฟ้าไทยมาหลายปี ผมเคยขับไปรบกับกัมพูชา รบกับเชียงหลวง ไปบินโชว์วันเด็ก หรือไปที่ใดก็แล้วแต่ ผมยังลืมไม่ลงจริงๆ ราวกับว่ามันคือคนที่ผมรัก" เมื่อทั้งคู่พูดจบ
ผู้ฝูงกับจ่าชื่นชวนกันไปที่ร้านอาหารของเจ๊แป้งในช่วงเที่ยง เพราะทั้งคู่ท้องร้องแล้ว
ลมร้อนเวลา 12 นาฬิกาพัดไหวผ่านยอดไม้สูงในเขตกองบิน 4 ตาคลี แสงแดดลอดผ่านช่องใบไม้แต้มเงาสลับบนพื้นดิน นาวาอากาศโทพิศาล เตชะอำพล ''AMERICA" ก้าวเดินช้า ๆคู่กับพันจ่าอากาศเอกพิษณุ ทองดี บนทางคอนกรีตแคบที่คั่นระหว่างแนวต้นไม้ สายตาพวกเขามองไปข้างหน้าผ่านแว่นกันแดดสีดำที่ทั้งคู่ใส่ แต่ใบหูกลับรับฟังเสียงใบไม้เสียดสีกันกับเสียงนกป่าร้องเป็นระยะ
กลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิงจากโรงเก็บเอฟที่อยู่ไม่ไกลยังติดปลายลมหายใจ ทว่าไม่มีเสียงเครื่องยนต์ใดกวนความเงียบในตอนนี้ มือข้างหนึ่งสอดกระเป๋าชุดบินอย่างสบาย ๆ อีกข้างแกว่งตามจังหวะก้าว เสียงรองเท้าหนังแตะพื้นเป็นจังหวะชัดเจนในความสงบ
บัดนี้ ทั้งผู้บังคับฝูงบิน 403 และจ่าสังกัดอากาศโยธินเดินมาพร้อมกัน โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุและวัยวุฒิ พวกเขามาพร้อมกันราวกับว่าเป็นเพื่อนซี้ ถึงจะอยู่คนละหน่วย พวกเขาก็คือคนๆหนึ่งที่พร้อมจะปกป้องแผ่นดินของเรา "นี่คือคู่หูต่างวัย''
(To Be Continue)
Credit ภาพประกอบนิยาย
Tensors.Art
Defense Info
Chittapon Kaewkiriya
JSTCNX
เรียบเรียงโดย : THUNDERBIRD
บันทึก
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย