12 ส.ค. เวลา 10:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

💳 ทางรอดจาก หนี้ค้างชำระ: ด้วยโครงการรัฐ และ มาตรการช่วยเหลือของไฟแนนซ์

ในช่วงที่เศรษฐกิจผันผวน รายได้ไม่แน่นอน แต่ภาระหนี้ยังเดินหน้าตามสัญญา หลายคนเริ่มเจอกับปัญหา “หนี้ค้างชำระ” ที่สะสมจนกลายเป็นก้อนใหญ่ และถ้าไม่รีบหาทางออก อาจนำไปสู่การถูกฟ้องร้อง หรือเสียประวัติเครดิตบูโรได้
ข่าวดีคือ ปัจจุบันทั้ง ภาครัฐ และ บริษัทไฟแนนซ์ ต่างมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น
การปรับโครงสร้างหนี้
การพักชำระเงินต้นหรือดอกเบี้ย
โครงการปรับลดดอกเบี้ยพิเศษ
หรือแม้แต่การล้างประวัติให้กลับมาสะอาด เมื่อชำระครบตามเงื่อนไข
บทความนี้ จะพาคุณไปรู้จักทั้ง โครงการช่วยเหลือจากรัฐ และ มาตรการของสถาบันการเงิน ที่มีอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้คุณมองเห็นทางเลือกที่เหมาะกับสถานการณ์ของตัวเอง และเริ่มต้นก้าวแรกในการปลดล็อกปัญหาหนี้อย่างเป็นระบบ
---
1. ภาพรวมปัญหาหนี้ค้างชำระในปัจจุบัน
1
ปีหลัง ๆ มานี้ หลายครอบครัวต้องเจอกับแรงกดดันจากรายได้ที่ลดลง ค่าครองชีพที่สูงขึ้น และดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกหนี้บางส่วนเริ่มจ่ายค่างวดไม่ไหว จนกลายเป็น หนี้เสีย (NPL)
หนี้ค้างชำระไม่ได้ส่งผลแค่เรื่องการเงิน แต่ยังกระทบต่อ เครดิตบูโร ทำให้กู้ยืมในอนาคตยากขึ้น รวมถึงส่งผลต่อสภาพจิตใจและคุณภาพชีวิตอย่างมาก
---
2. โครงการช่วยเหลือจากภาครัฐ
2.1 โครงการปรับโครงสร้างหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน (ธนาคารแห่งประเทศไทย)
รวมหลายหนี้เป็นหนี้เดียว
ลดดอกเบี้ยลงให้เหมาะกับรายได้
ยืดระยะเวลาชำระเพื่อให้ค่างวดลดลง
2.2 โครงการพักชำระหนี้ชั่วคราว
เปิดเป็นรอบ ๆ ตามประกาศของรัฐ
เหมาะสำหรับคนที่ได้รับผลกระทบเฉพาะหน้า เช่น ตกงาน รายได้ลดลงชั่วคราว
2.3 ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน (ศคง.)
ให้คำปรึกษาและช่วยประสานงานกับธนาคารหรือไฟแนนซ์
สามารถโทรติดต่อสายด่วน 1213 เพื่อขอความช่วยเหลือได้
---
3. มาตรการช่วยเหลือจากบริษัทไฟแนนซ์และธนาคาร
ปรับโครงสร้างหนี้รายบุคคล (Restructure)
ลดค่างวดต่อเดือนและปรับดอกเบี้ย
พักชำระเงินต้น จ่ายเฉพาะดอกเบี้ย
ลดภาระรายจ่ายระยะสั้น
ลดดอกเบี้ยพิเศษ
ช่วยให้ภาระดอกเบี้ยรวมลดลง
แคมเปญปิดหนี้ ลดดอก
สำหรับคนที่พร้อมปิดบัญชี จะได้ส่วนลดดอกเบี้ยบางส่วน
เปลี่ยนวันชำระหนี้
ให้ตรงกับรอบรายได้ เพื่อช่วยให้จ่ายตรงเวลาได้ง่ายขึ้น
---
4. วิธีเลือกโครงการที่เหมาะกับตัวเอง
1. ประเมินสถานะการเงินปัจจุบัน
รายรับต่อเดือน
รายจ่ายจำเป็น
ภาระหนี้รวมทั้งหมด
2. แยกประเภทหนี้
บัตรเครดิต
สินเชื่อส่วนบุคคล
สินเชื่อบ้าน / รถ
3. เปรียบเทียบมาตรการ
เลือกตามความสามารถในการผ่อน
พิจารณาผลกระทบระยะยาว เช่น ดอกเบี้ยรวมหลังปรับเงื่อนไข
---
5. เทคนิคเจรจากับไฟแนนซ์ให้ได้เงื่อนไขดีที่สุด
เตรียมข้อมูลรายได้ รายจ่าย และหลักฐานให้ครบ
แสดงความตั้งใจชำระ ไม่หนี ไม่เงียบ
เสนอแผนการผ่อนที่ทำได้จริง
ขอเอกสารยืนยันเงื่อนไขทุกครั้งก่อนตกลง
ถ้าคุยเองไม่ไหว ให้ใช้ตัวช่วยจาก ศคง. หรือหน่วยงานกลาง
---
6. สรุป
การมีหนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การปล่อยให้หนี้บานปลายคือปัญหา
ทั้งโครงการภาครัฐและมาตรการจากไฟแนนซ์ เป็นเหมือน “บันได” ที่ช่วยให้เราก้าวออกจากปัญหา แต่ต้องก้าวเองด้วยความตั้งใจ
เริ่มต้นวันนี้ เพื่อคืนอิสระทางการเงินให้ตัวเอง และกลับมามีชีวิตที่ไม่ถูกตัวเลขในสมุดบัญชีครอบงำ
---
ปล.บทความหน้า ผมจะนำเสนอแนวทางออกหนี้แต่ละประเภท บัตร บ้าน รถ สินเชื่อบุคคล ทั้งค้างชำระและไม่ค้างชำระ(ที่กำลังตึงมือทุกเดือน😅)
โฆษณา