ของจริง ทุกทีม! "ACL ELITE" เดือด "ปราสาท" หนึ่งเดียวลีกไทย
ฤดูกาล 2025/26 ของศึก AFC Champions League Elite กำลังจะเปิดฉากในเดือนกันยายนนี้ และแน่นอนว่าทีมแชมป์ไทยลีก อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือหนึ่งทีมม้ามืดของโซนตะวันออก แต่ครั้งนี้บอกเลยว่าไม่ง่าย เพราะบรรดาคู่แข่งแต่ละทีมคือ "ของจริง" ทั้งนั้น
เพื่อให้แฟนบอลได้เห็นภาพชัด ๆ ว่าศึกนี้โหดขนาดไหน และใครคือคู่แข่งที่ต้องจับตา เรามาไล่ดูระบบการแข่งขัน พร้อมเจาะลึก 12 ทีมโซนตะวันออกที่จะลุยศึกในรอบลีกสเตจกันก่อน
รอบแรกของ ACL Elite จะเรียกว่า "ลีกสเตจ" ซึ่งต่างจากระบบเดิม เพราะไม่มีการแบ่งกลุ่มแบบ 4 ทีมเหมือนก่อน แต่ใช้วิธีจับสลากแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ กลุ่มละ 6 ทีม โดยที่แต่ละทีมจะเตะ 8 นัด (เหย้า 4 เยือน 4) และจะไม่เจอทีมซ้ำกัน
หลังจบ 8 นัด จะคัดเอา 8 ทีมที่ทำผลงานดีที่สุดของแต่ละโซนเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ ซึ่งตรงนี้ทำให้ ทุกแมตช์มีความสำคัญมาก เพราะไม่มีเกมไหนที่เป็น "นัดแก้ตัว" ได้ง่าย ๆ
โถที่ 1 (ทีมแชมป์ลีกและทีมอันดับสูงสุด)
- ●วิสเซล โกเบ – แชมป์เจลีก ที่มีสตาร์ดังและเกมรุกดุดัน
- ●อุลซาน ฮุนได HD – ขาประจำ ACL จากเกาหลีใต้
- ●เซี่ยงไฮ้ พอร์ต เอฟซี – ทีมเงินถุงเงินถังของจีน
- ●บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด – แชมป์ไทยลีก
- ●เมลเบิร์น ซิตี้ – ตัวแทนจากออสเตรเลีย ที่มีระบบทีมแข็งแกร่ง
- ●ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม – ยักษ์ใหญ่แห่งมาเลเซียที่พัฒนาไม่หยุด
โถที่ 2 (ทีมอันดับรองแชมป์และทีมผลงานเด่น)
- ●ซานเฟรซเซ ฮิโรชิม่า – เกมรุกหลากหลายจากญี่ปุ่น
- ●กังวอน เอฟซี – ทีมม้ามืดจากเคลีก
- ●เซี่ยงไฮ้ กรีนแลนด์ – ขุมกำลังต่างชาติแน่น
- ●มาชิดา เซลเวีย – น้องใหม่ไฟแรงของ ACL
- ●เอฟซี โซล – ทีมใหญ่จากเมืองหลวงเกาหลีใต้
- ●เฉิงตู หรงเฉิง – ทีมกำลังมาแรงในไชนีสซูเปอร์ลีก
บุรีรัมย์ภายใต้การคุมทีมของ ออสมาร์ ลอสส์ กวาดแชมป์ทุกรายการในประเทศปีที่แล้ว รวมถึงคว้าถ้วย Shopee Cup ระดับอาเซียน และไปไกลถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย ACL Elite ซึ่งเป็นบทเรียนล้ำค่า
ฤดูกาลนี้บุรีรัมย์ต้องเสียสองกำลังสำคัญ – ลูคัส คริสปิม และ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (แขวนถุงมือในวัย 41 ปี) แต่ยังคงบทบาทเป็นทูตและผู้บริหารฝ่ายปกครองของสโมสร
- ●ขาออก – ดิออน คูลส์ ย้ายไป เซเรโซ่ โอซาก้า, ครีกอร์ โมราเอส ไปมาเลเซีย ฯลฯ
- ●ขาเข้า – เสริมแนวรับจัดเต็มด้วย โรเบิร์ต เบาเออร์, เอเลียส ดอเลาะ, ชินภัทร์ ลีเอาะ และแนวรุกเพิ่ม โรเบิร์ต ซูลจ์, เฟจ์ซัล มูริช, เนมันยา นิโคลิช, อิลฮาน ฟานดี้
บุรีรัมย์ มีนักเตะต่างชาติ 11 คน แต่ไทยลีกอนุญาตเพียง 7 คนต่อแมตช์ ทำให้ต้องเลือกใช้โควตาอย่างรอบคอบ ซึ่งแผนตอนนี้คือใช้ บิสโซลี่, ซูลจ์, สตอยโควิช, เบาเออร์, มูริช, และ โก มยอง-ซอก เป็นหลัก
ทีมขนาดใหญ่แบบนี้ต้องมีทั้งฝีเท้าและทัศนคติที่ยอดเยี่ยม เพราะโปรแกรมฤดูกาลนี้มีถึง 5 รายการ ความลึกของขุมกำลังสำคัญมาก นักเตะที่ไม่ติดโผ 11 ตัวจริงต้องพร้อมสลับลงเล่นได้โดยไม่เสียคุณภาพ
บุรีรัมย์ยังเปิดโอกาสให้เด็กจากอะคาเดมี่ได้พิสูจน์ตัวเอง สะท้อนว่าสโมสรไม่ได้มองแค่ผลลัพธ์ระยะสั้น แต่ลงทุนสร้างอนาคตในระยะยาว
เป้าหมายชัดเจน รักษาแชมป์ในประเทศ และเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ACL Elite ให้ได้อีกครั้ง หรือไปไกลกว่าเดิม เพื่อยืนยันว่าบุรีรัมย์คือหนึ่งในท็อปคลับของเอเชีย
เวทีนี้เป็นเหมือนโชว์รูมให้เอเยนต์จากทั่วโลกจับตา หากนักเตะทำผลงานดี อาจได้ย้ายไปลีกใหญ่ เหมือนเคส ดิออน คูลส์ ที่ไปเจลีกและสร้างรายได้ให้สโมสร
เส้นทางของบุรีรัมย์ใน ACL Elite 2025/26 ไม่ง่าย คู่แข่งโซนตะวันออกแต่ละทีมโหดจริง แต่ด้วยการเสริมทัพจัดหนักและการบริหารทีมแบบมืออาชีพ "ปราสาทสายฟ้า" ก็ยังคงเป็นทีมที่สร้างเซอร์ไพรส์ได้ทุกเมื่อ
ในเดือนสิงหาคมนี้ การจับสลากที่กัวลาลัมเปอร์จะบอกทุกอย่างว่า บุรีรัมย์จะต้องเจอกับใครบ้าง แต่ไม่ว่าผลจะออกมาแบบไหน แฟนบอลไทยก็เตรียมตัวลุ้นกันยาว ๆ ได้เลย เพราะศึกนี้... ของจริง!
เครดิตภาพ : BURIRAM UNITED, SANFRECCE HIROSHIMA
เพื่อนๆ สามารถติดตามอ่านบทความย้อนหลังได้ที่ https://www.ballthai.com/บทความบอลไทย
.
และติดตามเราได้ผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียดังนี้
Website - ballthai.com
Instagram - instagram.com/ballthaidotcom/
Tiktok - tiktok.com/@ballthai_com
ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
