Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Warisara Insight
•
ติดตาม
14 ส.ค. เวลา 14:28 • ข่าวรอบโลก
ภาษี 'ทรัมป์' 50% เขย่าอุตสาหกรรมเพชรโลก
โดย
Warisara Insight
'หัวใจ' ของการเจียระไนเพชรโลก อยู่ที่สาธารณรัฐอินเดีย
อินเดียผลิตเพชรเจียระไน 14 จากทุก 15 เม็ด ที่วางขายอยู่ทั่วโลก
แรงงานอินเดียกว่า 2 ล้านคน ทำงานในอุตสาหกรรมนี้
โดยเฉพาะที่เมืองสุรัต (Surat) รัฐคุชราต ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แต่ตอนนี้ หัวใจดวงนี้กำลังถูกบีบอย่างแรง หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเพชรเจียระไนจากอินเดีย เป็น 50% จากเดิม 25% เพื่อกดดันด้านการค้า
ผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้น
• โรงงานเล็กและขนาดกลางเสี่ยงปิดตัว
เช่น กรณีของ Kalpesh Patel เจ้าของโรงงานในสุรัตที่มีพนักงานเพียง 40 คน ต้องพึ่งตลาดสหรัฐฯ เป็นหลัก
• ยอดส่งออกดิ่งต่ำสุดในรอบ 20 ปี
ปีงบประมาณ 2024/25 อินเดียส่งออกเพชรเจียระไนลดลง 16.8% เหลือ 13.3 พันล้านดอลลาร์
• ราคาขายปลีกจะพุ่งสูง เพราะต้นทุนเพิ่มขึ้น
De Beers บริษัทเพชรยักษ์ใหญ่เตือนว่า ภาษีนี้ไม่ช่วยสร้างงานในสหรัฐฯ แต่จะทำให้ผู้บริโภคจ่ายแพงขึ้น และกระทบห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าผลกระทบอาจเกิดเพียงชั่วคราว หากมีการเจรจาการค้าใหม่
แต่ถ้าสถานการณ์ยืดเยื้อ อินเดียอาจเสียตำแหน่ง “ศูนย์กลางเพชรโลก”
และอาจสูญเสียงานนับล้านตำแหน่งไป
ผลกระทบ “ภาพรวมอุตสาหกรรมเพชรโลก”
1. ผลกระทบต่ออินเดีย (ผู้ผลิตเพชรเจียระไนอันดับ 1 ของโลก)
รายได้ไปหายทันที เพราะตลาดสหรัฐฯ เป็นผู้ซื้อรายใหญ่ ถ้าส่งออกถูกเก็บภาษี 50% สินค้าจะสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน เพราะราคาสูงกว่าคู่แข่ง
แรงงานนับล้านเสี่ยงตกงาน โดยเฉพาะในเมืองสุรัตที่เศรษฐกิจพึ่งพาอุตสาหกรรมเพชรเกือบทั้งหมด
ห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศชะงัก เพราะการผลิตเพชรต้องอาศัยการนำเข้าเพชรดิบจากแอฟริกา
ถ้าการส่งออกชะลอตัว เงินหมุนในระบบจะน้อยลง และกระทบตั้งแต่ผู้เจียระไนเพชรไปจนถึงผู้ค้าปลีก
2. ผลกระทบต่อสหรัฐฯ (ผู้นำเข้าและผู้บริโภค)
ราคาสินค้าพุ่งสูง ผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะต้องจ่ายแพงขึ้นทันทีสำหรับเพชรและเครื่องประดับ
ภาคค้าปลีกและจิวเวลรี่ในสหรัฐฯ จะขายยากขึ้น เพราะผู้ซื้อบางส่วนอาจเลี่ยงการซื้อของราคาแพง
หรือหันไปซื้อจากประเทศที่ไม่ถูกเก็บภาษีสูง เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) หรือจีน
และอาจไม่ได้สร้างงานในประเทศจริง เพราะสหรัฐฯ ไม่มีศักยภาพการผลิตเพชรเจียระไนในปริมาณมากพอที่จะทดแทนอินเดีย
3. ผลกระทบต่อตลาดโลก
อาจมีการโยกย้ายฐานการผลิต อินเดียอาจย้ายบางส่วนของการผลิตไปยังประเทศที่ภาษีต่ำ เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ บอตสวานา หรือจีน เพื่อเลี่ยงภาษี
ความไม่มั่นคงทางการค้า ทำให้นักลงทุนและผู้ประกอบการลังเลที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมเพชร เพราะเสี่ยงจากผลกระทบนโยบายการค้าแบบฉับพลัน
ผู้เล่นรายใหม่อาจได้โอกาส ประเทศที่มีต้นทุนใกล้เคียงและไม่ถูกเก็บภาษีสูง อาจแย่งส่วนแบ่งตลาดจากอินเดียได้
4. ผลกระทบเชิงสังคมและการเมือง
แรงงานทักษะสูงอาจจะหายไปจากวงการ ถ้าโรงงานปิด คนงานฝีมือสูงอาจต้องย้ายอาชีพ และทักษะการเจียระไนที่สั่งสมมาเป็นรุ่น ๆ อาจหายไป
อินเดียอาจมองว่านี่เป็นการกดดันทางเศรษฐกิจและใช้ประเด็นนี้ต่อรองในการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ
ภาพลักษณ์ด้านความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ อาจถูกตั้งคำถามจากพันธมิตรทางเศรษฐกิจอื่น ๆ ว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกขึ้นภาษีแบบฉับพลันเช่นกัน
มาตรการภาษีครั้งนี้ไม่ได้กระทบแค่ผู้ผลิตรายเล็กในอินเดีย
แต่กำลังสั่นคลอน “สมดุลอุตสาหกรรมเพชรโลก”
เพราะอินเดียถือเป็นจุดศูนย์กลางในห่วงโซ่อุปทาน
หากอุตสาหกรรมเพชรของล้มลง ผลกระทบจะลามไปทุกภูมิภาค
ตั้งแต่เหมืองเพชรในแอฟริกา ไปจนถึงร้านจิวเวลรี่บนถนน Fifth Avenue ในนิวยอร์ก
#เพชรอินเดีย #ภาษีทรัมป์ #DiamondCrisis #GlobalTrade #Surat #เศรษฐกิจโลก #TrumpTariff #AlJazeera #WarisaraInsight
(ที่มา: Al Jazeera)
2 บันทึก
1
1
2
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย