[Peach ตามผมลงทุนคริปโต] การเทรดแบบ Trend Following ในตลาดคริปโต คุณไม่จำเป็นต้องทายจุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุดของตลาด เพื่อทำกำไรในคริปโตให้ยั่งยืน คุณต้อง “ตามเทรนด์” ให้ทัน แล้วปล่อยให้กำไรเติบโต ขณะที่ควบคุมขาดทุนให้เล็กที่สุด

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

15 ส.ค. เวลา 02:35 • คริปโทเคอร์เรนซี

การเทรดแบบ Trend Following ในตลาดคริปโต

คุณไม่จำเป็นต้องทายจุดต่ำสุดหรือจุดสูงสุดของตลาด เพื่อทำกำไรในคริปโตให้ยั่งยืน คุณต้อง “ตามเทรนด์” ให้ทัน แล้วปล่อยให้กำไรเติบโต ขณะที่ควบคุมขาดทุนให้เล็กที่สุด นี่คือสาระทั้งหมดของ Trend Following

เมื่อคุณทำถูก ระบบนี้อาจชนะไม่บ่อย แต่เมื่อชนะ กำไรเฉลี่ยจะใหญ่กว่าขาดทุนเฉลี่ยอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือที่มาของผลตอบแทนระยะยาว

ทำไม Trend Following ถึงเวิร์กในคริปโต

คริปโตผันผวนสูงและเกิดเทรนด์แรงบ่อย การปล่อยให้กำไรวิ่งยาวจะดูดซับการขาดทุนเล็ก ๆ หลายครั้งได้ จุดคีย์คือวินัย: ยอมแพ้เร็วเมื่อผิดทาง และกอดผู้ชนะให้นานที่สุด

โครงสร้างระบบแบบใช้งานจริง

1. ตัวกรองแนวโน้ม

ใช้ EMA200 บนไทม์เฟรม 4H หรือ 1D: ราคาบน EMA200 = โฟกัสฝั่ง Long, ราคาต่ำ EMA200 = โฟกัสฝั่ง Short

ยืนยันด้วยโครงสร้างราคา: ขาขึ้น = ทำ Higher High และ Higher Low, ขาลง = ทำ Lower Low และ Lower High

ใช้ ADX(14) > 20 เพื่อหลีกเลี่ยงช่วงไซด์เวย์จ๋า

2. สัญญาณเข้า

Breakout: ปิดแท่งทะลุกรอบสูงสุด/ต่ำสุดย้อนหลัง 20 แท่ง (Donchian 20) ไปตามทิศทางเทรนด์

Pullback ตามเทรนด์: ราคาย่อลงมาที่โซน EMA20–EMA50 แล้วเกิดแท่งกลับตัวไปตามเทรนด์ โดย RSI(14) > 50 สำหรับ Long และ < 50 สำหรับ Short

MA Crossover: ใช้ EMA20 ตัด EMA50 เป็น “ทริกเกอร์” เพิ่มความมั่นใจ แต่ต้องผ่านตัวกรองเทรนด์ก่อน

3. การจัดการความเสี่ยง

จำกัดความเสี่ยงต่อดีล 0.5–1% ของพอร์ต

วาง Stop-loss ไว้ที่ 2×ATR(14) จากราคาเข้า หรือหลังสวิงโลว์/ไฮล่าสุด

ใช้ Trailing Stop ที่ 3×ATR หรือเส้น Chandelier/Donchian(10) เพื่อ “ปล่อยให้กำไรวิ่ง”

4. การออกจากไม้

ออกจากไม้เมื่อโดน Trailing Stop หรือโครงสร้างราคากลับทิศ

จะทยอยทำกำไรบางส่วนที่ +2R แล้วปล่อยส่วนที่เหลือวิ่งต่อก็ได้ ลดความกดดันทางจิตวิทยา

5. การเพิ่มไม้ (Pyramiding)

เพิ่มเมื่อเกิด Breakout ใหม่หรือราคาวิ่งไปอีกประมาณ 1×ATR ในทิศทางเดิม

จำกัดไม่เกิน 3 ไม้ต่อหนึ่งเทรนด์ รักษาความเสี่ยงต่อดีลเท่าเดิม

ไทม์เฟรมและคู่เทรด

สวิงเทรดเน้น 4H และ 1D กับคู่หลักอย่าง BTCUSDT, ETHUSDT เพื่อสภาพคล่องและสัญญาณที่ “สะอาด” กว่า

อินทราเดย์ใช้ 15m หรือ 1H แต่ “เช็กเทรนด์แม่” ด้วย 4H/1D เสมอ

ช่วงสภาพคล่องดีมักทับซ้อน London–New York (ช่วงค่ำถึงดึกเวลาไทย)

สูตรคำนวณขนาดสัญญาแบบง่าย

เงินเสี่ยงต่อดีล = มูลค่าพอร์ต × เปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงที่ตั้งไว้

ขนาดสัญญา ≈ เงินเสี่ยงต่อดีล ÷ ระยะ Stop-loss (หน่วยราคา)

ตัวอย่าง: พอร์ต 10,000 ดอลลาร์ เสี่ยงดีลละ 1% = 100 ดอลลาร์ ถ้า SL ห่าง 200 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ขนาดสัญญาประมาณ 0.5 เหรียญ

ขั้นตอนทำงานในแต่ละดีล

หนึ่ง: ตรวจเทรนด์ด้วย EMA200 และโครงสร้างราคา

สอง: เลือกสัญญาณเข้า—Breakout หรือ Pullback ตามเทรนด์

สาม: คำนวณขนาดสัญญา ตั้ง SL ที่ 2×ATR และกำหนด Trailing 3×ATR ตั้งแต่ต้น

สี่: เมื่อได้กำไรเกิน 1R ย้าย SL ไปจุดคุ้มทุน (Break-even)

ห้า: พิจารณาเพิ่มไม้แบบมีกฎ ไม่ไล่ราคา ไม่เพิ่มไม้เมื่อไม่เข้าเงื่อนไข

หก: ปล่อยให้ Trailing ทำงาน จบดีลอย่างมีวินัย

เช็กลิสต์ก่อนเข้าออเดอร์

เทรนด์ชัด? ใช่หรือไม่

สัญญาณเข้าไปตามเทรนด์? ใช่หรือไม่

คำนวณขนาดสัญญาและ SL แล้ว? ใช่หรือไม่

ข่าวแรงใกล้ประกาศหรือเปล่า? ถ้าใช่ ลดขนาดหรือหลีกเลี่ยง

พร้อมยอมรับการขาดทุนเล็ก ๆ หากสัญญาณล้มเหลวหรือไม่?

ตัวชี้วัดผลลัพธ์ (KPI) ที่ควรติดตาม

Win rate (ไม่ต้องสูงมากก็ได้)

ค่าเฉลี่ยกำไรต่อดีล เทียบกับค่าเฉลี่ยขาดทุนต่อดีล

Expectancy หรือ “กำไรเฉลี่ยต่อดีลเป็น R”

Max Drawdown และเวลาในการฟื้นตัวของพอร์ต

% ของดีลที่ปล่อยให้กำไรวิ่งได้เกิน 3R

การทดสอบและปรับแต่งระบบ

Backtest อย่างน้อย 2–3 ปี หรือ 500 ดีลขึ้นไปในไทม์เฟรมเป้าหมาย

Forward test ด้วยบัญชีเล็กหรือบัญชีทดลอง 30–60 วัน

ปรับพารามิเตอร์อย่างเป็นระบบ เช่น Donchian 20 → 30, ATR 2 → 2.5 แล้วจดบันทึกผลเปรียบเทียบ

หยุดปรับเมื่อสมดุลระหว่าง “สัญญาณไม่ถี่เกิน” และ “ปล่อยกำไรวิ่งได้” ลงตัว

จิตวิทยาและวินัย

ยอมรับความจริงว่า “จะโดนตัดขาดทุนเล็ก ๆ หลายครั้ง”

วัดความสำเร็จจากการทำตามกฎ ไม่ใช่ผลลัพธ์ดีลเดียว

ใช้เช็กลิสต์เดิมทุกครั้ง ลดการตัดสินใจแบบหุนหัน

บันทึกการเทรดและทบทวนเป็นรายสัปดาห์

ข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อย

เข้าเทรดสวนเทรนด์เพราะกลัวตกรถ

ใช้เลเวอเรจสูงเกินไป ทำให้ SL ที่ควรเล็กกลายเป็นความเสียหายใหญ่

ย้าย SL ออกเพื่อ “อยากลองลุ้น”

ออกจากไม้เร็วเกินเหตุ ทำให้พลาด “กำไรใหญ่ที่ระบบออกแบบมาให้ได้”

เวิร์กโฟลว์รายวัน

เช้า: เปิด 1D และ 4H เช็กทิศ EMA200 และโครงสร้างราคา จดแนวโน้มหลักของ BTC และ ETH

บ่าย: วางแผนจุดเข้าแบบ Breakout/Pullback พร้อมระดับ SL ตาม ATR และเตรียมคำสั่งล่วงหน้า

ค่ำ: ติดตามช่วงสภาพคล่องดี ทบทวนสัญญาณ แก้ไขคำสั่งถ้าจำเป็น

ก่อนนอน: ตรวจ Trailing Stop และบันทึกดีล พร้อมภาพหน้าจอและเหตุผลเข้าออก

สรุป

หัวใจของ Trend Following คือ “แพ้เร็ว เสียน้อย ชนะนาน ได้มาก” เมื่อคุณยึดกฎเดิมซ้ำ ๆ ปรับพารามิเตอร์อย่างมีเหตุผล และเคารพความเสี่ยง ระบบนี้จะสร้างความได้เปรียบในระยะยาวให้คุณได้ แม้ในตลาดที่ผันผวนที่สุดอย่างคริปโต

การลงทุนที่ดีที่สุดคือการลงทุนในตัวคุณเอง!

อยากเริ่มระบบ Trend Following แบบมีวินัยและวัดผลได้จริง? เปิดพอร์ตให้พร้อม แล้วมาฝึกทำแผน–ทำตามแผนไปกับผม

🔥 เปิดบัญชีเทรดคริปโต & ทองคำ พร้อมรับรีเบทสูงสุด!

🔹 Exness: เทรดคริปโต & ทองคำ 👉 สมัครเลย

https://www.exnesspromo.com/th/trade-top-digital-currencies/?partner_id=rnol6qxne7

🔹 Binance Global: เทรดคริปโตทั่วโลก 👉สมัครที่นี่

https://accounts.binance.com/register?ref=146976072

🔹 Binance TH: ซื้อขายคริปโต 👉 สมัครที่นี่

https://accounts.binance.th/th/register?ref=HM88D3FU

🔹 Bitkub: เทรดคริปโตไทย 👉 สมัครที่นี่

https://www.bitkub.com/th/signup?ref=2213852

🔥 รีเบท Exness สูงสุดทุกการเทรด!