Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
15 ส.ค. เวลา 13:15 • ธุรกิจ
🫕 สงครามสุกี้ 2025 (MK vs ตี๋น้อย vs Lucky Suki)
“จากศึกโปรโมชั่น...สู่สมรภูมิเอาตัวรอดสุกี้ชาบูไทย”
ในสนามรบที่ชื่อว่า "ธุรกิจร้านอาหาร" — ไม่มีใครใหญ่เกินจะเจ็บ และไม่มีใครเล็กเกินจะเขย่าอุตสาหกรรมได้
* ไตรมาส 2 ปี 2025 คือบทพิสูจน์ชัดเจนว่า “สมรภูมิบุฟเฟต์” ไม่ใช่แค่เกมแย่งลูกค้า...แต่มันคือเกมที่ต้องแลกด้วย “กำไร” และ “การตัดสินใจกล้าได้กล้าเสีย” ระดับองค์กร
* ยักษ์ใหญ่อย่าง MK Restaurant Group (SET:M) รายงานกำไรสุทธิเพียง ~276 ล้านบาท ลดลงแรงถึง 31% YoY — จากแรงกดดันของราคาบุฟเฟต์ที่ไม่เคยต่ำขนาดนี้มาก่อน
* แต่ผู้ที่จุดไฟศึกครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่น นอกจากแบรนด์น้องใหม่ที่กำลังแรงอย่าง “สุกี้ตี๋น้อย” และ “Lucky Suki” ที่เปิดเกมรุกด้วยราคา 219–276 บาท หรือแจกเป็ดย่างฟรี กันแบบไม่เกรงใจใคร
กลยุทธ์ราคาแบบ "ทะลวงแนวรับ" ทำให้ตลาดสุกี้ต้องเปลี่ยนกฎการเล่นใหม่หมดในเวลาไม่ถึงครึ่งปี
====
🌪️ พายุ 5 ลูกที่พัดกระหน่ำอุตสาหกรรม?
1. สงครามราคาเดือด
* แบรนด์สุกี้ Budget อย่าง "สุกี้ตี๋น้อย" และ "Lucky Suki" เปิดศึกบุฟเฟต์ด้วยราคาที่ถูกอย่างไม่เคยมีมาก่อนในตลาดคือช่วงราคา 219–276 บาทต่อหัว ซึ่งเจาะฐานลูกค้ากลุ่มใหญ่ได้ตรงจุดและรวดเร็ว
* MK ซึ่งเคยรักษาภาพลักษณ์พรีเมียมต้องลงมาเล่นเกมราคาด้วยการเปิดแบรนด์ลูก “BONUS SUKI” และจัดโปรฯ บุฟเฟต์ในสาขาหลัก นำไปสู่แรงกดดันที่ไม่เคยเผชิญมาก่อนในรอบหลายปี
2. Margin ถูกเฉือน
* กลยุทธ์ลดราคาที่ใช้กันถ้วนหน้า ทำให้ Gross Profit Margin (GPM) ของ MK ร่วงจาก 66.5% ในไตรมาสก่อน เหลือ 61.5% ในไตรมาส 2/2025
* ตามข้อมูลของ FSSIA ที่ระบุว่า การจัดโปรฯ บุฟเฟต์ในกว่า 50% ของสาขาทำให้ต้นทุนต่อหัวสูงขึ้น ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อบิลกลับลดลง ส่งผลโดยตรงต่อกำไรสุทธิ
3. กำลังซื้อหด
* ปัจจัยเศรษฐกิจภาพใหญ่ยิ่งตอกย้ำความเปราะบางของตลาด—ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยในเดือน ก.ค. 2025 ต่ำสุดในรอบ 2 ปี สะท้อนการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
* ขณะที่ดัชนีค้าปลีกเดือน มิ.ย. ก็ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 42 เดือน ร้านอาหารจึงไม่มีทางเลือกนอกจาก “ยอมแลก margin เพื่อ traffic” เพื่อให้รอดจากภาวะยอดขายซบเซา
4. ต้นทุนพุ่ง
* ด้านต้นทุน MK และทุกแบรนด์ในตลาดเผชิญกับต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท/วันใน กทม. ซึ่งมีผลตั้งแต่ 1 ก.ค. 2025
* ประกอบกับราคาหมูที่เป็นวัตถุดิบหลักของเมนูสุกี้เฉลี่ยอยู่ที่ ~86 บ./กก. เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบปีต่อปี ทำให้ร้านอาหารต้องบริหารต้นทุนอย่างเข้มข้นและพึ่งพาการทำ Menu Engineering อย่างหนัก
5. Operation หนักและยาวขึ้น
* ร้านอาหารหลายแบรนด์ปรับเวลาเปิดบริการให้ยาวขึ้น โดยเฉพาะรอบดึกถึงตี 5 เพื่อดึงดูดลูกค้าที่ต้องการกินบุฟเฟต์หลังเที่ยงคืน
* แม้ค่าไฟต่อหน่วยจะยังคงอยู่ที่ ~3.98 บ./หน่วย แต่ชั่วโมงการใช้พลังงานที่มากขึ้น และจำนวนพนักงานที่ต้องเพิ่มเพื่อดูแลบริการนานขึ้น ย่อมหมายถึง SG&A ต่อรายได้ที่ถูกกดดันหนักกว่าเดิม
* แม้ Unit cost ไม่ขยับ แต่ภาพรวมต้นทุนรวมพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
====
♟️ หมากกลศึก? ใครขยับไว คนนั้นรอด?
ในวันที่ “กำไรบางเฉียบเหมือนเนื้อสไลด์” ทุกแบรนด์ต้องเลือกทางรอดของตัวเอง—บางเจ้ารุก บางเจ้ารับ บางเจ้าหลบไปสร้างพลังระยะยาว มาดูวิธีเล่นของแต่ละราย
* MK: เปิดแบรนด์ลูก “BONUS SUKI” เพื่อแยกตัวออกจากแบรนด์หลัก ชูราคา 219 บ. เจาะฐานแมส และจัดโปรบุฟเฟต์ 299 บ. ทั่วประเทศ ช่วง มิ.ย.–ก.ค. 2568 โดยภายใน 22 วันแรก MK รายงานยอดขายเติบโตกว่า 42% ซึ่งเป็นการ “ปลุกยอด” ในตลาดซบเซา แต่ต้องยอมรับว่ามาพร้อม “ต้นทุน margin” ที่ต้องจ่าย
* ตี๋น้อย: โต้กลับทันควันด้วยโปร 199 บ. ช่วงกลางวันในวันธรรมดา แสดงให้เห็นความคล่องตัวในการทำตลาดเชิงรุก พร้อมเดินหน้าขยายสาขาต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง จนกลางปี 2025 มีสาขาทะลุ 90 แห่ง สร้าง economy of scale และการจดจำแบรนด์อย่างรวดเร็วในตลาดภูมิภาค
* Lucky Suki: ไม่ใช่แค่ตั้งราคาต่ำ แต่ยัง “ลงทุนระยะยาว” ผ่านการจับมือกับ LG ติดตั้งระบบแอร์ประหยัดพลังงานในทุกสาขา ซึ่งช่วยลดต้นทุนพลังงานต่อโต๊ะลงได้จริงในระยะกลาง-ยาว นี่คือเกม “ลดต้นทุนแบบไม่ลดคุณภาพ” ที่น่าจับตามอง
* Shabushi: เลือกไม่ลงไปเล่นเกมตัดราคาโดยตรง แต่ “ปรับตัวเชิงแบรนด์” รีเฟรชภาพลักษณ์ เลือกพรีเซนเตอร์คนใหม่ และวางตำแหน่งแบรนด์ให้ใกล้ชิดกลุ่ม Gen Z ผ่านกิจกรรมการตลาดและภาษาที่สดใหม่ การขยับของ Shabushi คือ “เกมรับเชิงรุก” ที่หวังผลในเรื่องความภักดีของลูกค้าระยะยาว
====
🧠 กลยุทธ์เอาตัวรอด อยู่ได้ยังไงในโลกที่ "กำไรต่อหัวต่ำลง"?
1. แยกแบรนด์ / Tiering
* ใช้แบรนด์ลูกตีตลาด mass และรักษา ARPU กับภาพลักษณ์แบรนด์แม่ เช่น BONUS SUKI vs MK
* การทำ Dual Brand ช่วยให้ไม่ต้องลดราคาแบรนด์หลักให้เสียภาพลักษณ์ และยังเปิดโอกาสให้แข่งขันในสนามราคาต่ำได้อย่างเต็มที่
2. Menu Engineering
* จำกัดของแพงในบุฟเฟต์ เช่น กุ้ง เนื้อวัว หรือซีฟู้ด โดยอาจใช้ระบบโควตา, จำกัดเวลา หรือหมุนเวียนเมนูแทน
* ขณะเดียวกัน เพิ่มเมนูเสริมกำไรสูง เช่น เครื่องดื่มรีฟิล, ของทอด, หรือของหวานที่ต้นทุนต่ำแต่มี perceived value สูง เพื่อเพิ่ม contribution margin ต่อหัว
3. Optimize Energy & Operation
* ติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน เช่น แอร์อินเวอร์เตอร์, ตู้แช่ประสิทธิภาพสูง และระบบปรับอากาศแยกโซน
* พร้อมใช้ระบบสั่งอาหารด้วย QR code/self-order เพื่อลดแรงงานหน้าร้าน และลด error rate ในการรับออเดอร์
4. Data-driven Campaign
* ออกโปรโมชันแบบ Flash Sale หรือ Limited Time Offer เฉพาะบางช่วงเวลา (เช่น วันธรรมดาช่วงบ่าย) โดยใช้ข้อมูลยอดขาย-ต้นทุนวัตถุดิบรายวันเพื่อตัดสินใจ พร้อมกำหนด Kill Switch หาก GPM ลดต่ำกว่าที่กำหนด เพื่อไม่ให้แคมเปญกลายเป็นดาบสองคม
5. จัดคนแบบ Dynamic
* ใช้ระบบ AI forecasting เพื่อพยากรณ์ traffic รายวัน/รายช่วงเวลา แล้วจัดตารางกะพนักงานให้เหมาะสม เช่น เพิ่มคนเฉพาะช่วงเย็นศุกร์–เสาร์ ลดคนในรอบเช้า จันทร์–พฤหัส เพื่อให้ Labor-to-Sales Ratio (LPR) อยู่ในกรอบที่ควบคุมได้
6. พันธมิตรต้นทุน
* ทำสัญญาวัตถุดิบล่วงหน้ากับ supplier รายใหญ่ เพื่อ hedge ความเสี่ยงด้านราคาวัตถุดิบ โดยเฉพาะสินค้าผันผวนสูงอย่างหมู, ไก่ และผักสด
* และใช้กลยุทธ์ multi-sourcing คือมีแหล่งจัดซื้อสำรองเสมอ เพื่อไม่ให้ supply chain สะดุดเมื่อราคาเปลี่ยนหรือซัพพลายขาด
====
🎯 แล้วใครจะชนะในสมรภูมิบุฟเฟต์?
กำไร Q2/2025 ของ MK และตี๋น้อยต่างก็ลดลง แม้จะยังมีกำไรอยู่ก็ตาม แต่นี่ไม่ใช่แค่เรื่องของไตรมาสเดียว
มันคือคำถามระยะยาวว่า...
* ใครสามารถลดต้นทุนได้เร็วกว่า?
* ใครขยับแบรนด์ได้ไวกว่า?
* ใครวางหมากราคาดีโดยไม่เจ๊งก่อน?
“การลดราคาอาจเพิ่มลูกค้า…แต่ถ้าลดผิดจังหวะ = เสียแบรนด์ + เจ็บมาร์จิ้น”
ในยุคที่ “ความสามารถในการคุมต้นทุน” และ “ความเร็วในการปรับเกม” คือทุกสิ่ง — ร้านอาหารที่จะอยู่รอด ไม่ใช่ผู้ที่ใหญ่ที่สุด แต่คือผู้ที่ "กล้าปรับ" มากที่สุด
====
แหล่งอ้างอิง:
* ผลประกอบการ MK 2Q/2025: Reuters/TradingView; บทวิเคราะห์: FSSIA (Finansia) 24 มิ.ย. 2025
* กลยุทธ์ราคาและการเปิดแบรนด์ใหม่: Bangkok Post, Nation Thailand, Kaohoon
* กลยุทธ์ Lucky Suki: สื่อประชาสัมพันธ์ของแบรนด์
#วันละเรื่องสองเรื่อง #สงครามสุกี้ #BusinessSurvival #MarginGame #RestaurantStrategy #FoodIndustryInsight #MKตี๋น้อยLucky
ธุรกิจ
การแข่งขัน
บันทึก
3
2
3
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย