Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มังกรใส่หูกระต่าย
•
ติดตาม
16 ส.ค. เวลา 03:48 • ธุรกิจ
ความแตกต่างระหว่าง บัญชีเพื่อการจัดการ และ บัญชีการเงิน
บัญชีเพื่อการจัดการ และ บัญชีการเงิน
ผู้ใช้ข้อมูล
การเงิน: ภายนอก (นักลงทุน, เจ้าหนี้, หน่วยงานรัฐ)
การจัดการ: ภายใน (ผู้บริหารทุกระดับ)
มุมมองเวลา
การเงิน: เน้นอดีต
การจัดการ: เน้นอนาคต
คุณลักษณะข้อมูล
การเงิน: ต้องแม่นยำและตรวจสอบได้
การจัดการ: เน้นความเกี่ยวข้อง แม้ไม่แม่นยำ 100%
ความถี่และรายละเอียด
การเงิน: รายงานรวมทั้งองค์กร, เป็นไปตาม GAAP, บังคับจัดทำ
การจัดการ: เจาะตามหน่วยงาน/ผลิตภัณฑ์, ไม่บังคับ, ไม่ต้องตาม GAAP
2. บทบาทหลักของบัญชีเพื่อการจัดการ
การวางแผน (Planning) – ตั้งเป้าหมาย, หาแนวทาง, จัดทำงบประมาณ
การควบคุม (Controlling) – เปรียบเทียบผลจริงกับงบประมาณ, ทำรายงานผลการปฏิบัติงาน
การตัดสินใจ (Decision Making) – เลือกทางเลือกที่ดีที่สุด เช่น จะขายอะไร, ขายให้ใคร, ทำอย่างไร
3. ความสัมพันธ์กับบัญชีต้นทุน
บัญชีต้นทุน (Cost Accounting) – กำหนดต้นทุน, ประเมินมูลค่าสินค้าคงคลัง (FIFO, Weighted Average), วิธีคิดต้นทุน (Job, Process, Activity-based), จัดสรรต้นทุน
บัญชีเพื่อการจัดการ (Managerial Accounting) – ใช้ข้อมูลต้นทุนและข้อมูลอื่นเพื่อวางแผน ควบคุม และประเมินผล
ทั้งสองช่วยให้ตัดสินใจได้ดีขึ้น
4. ประเภทต้นทุนการผลิต (Manufacturing Costs)
Direct Materials (วัตถุดิบโดยตรง) – วัตถุดิบหลักที่ใช้และติดตามได้ตรง เช่น เครื่องยนต์ในรถ
Direct Labor (แรงงานโดยตรง) – ค่าแรงที่ผลิตสินค้าจริง เช่น คนประกอบรถ
Manufacturing Overhead (ค่าใช้จ่ายการผลิตอื่น ๆ) – วัตถุดิบทางอ้อม, แรงงานทางอ้อม, ค่าใช้จ่ายโรงงาน (ค่าเสื่อม, ภาษี, ค่าน้ำไฟ)
5. Product Costs vs Period Costs
Product Costs (ต้นทุนสินค้า) – Direct materials + Direct labor + Manufacturing overhead → อยู่ในสินค้าคงคลังจนกว่าจะขาย แล้วบันทึกเป็น COGS
Period Costs (ต้นทุนงวดบัญชี) – ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร (SG&A) → บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายในงวดนั้นทันที
6. การไหลของต้นทุน (Cost Flows)
Raw Materials → Work in Process (เพิ่ม Direct Labor และ Overhead)
Work in Process → Finished Goods
Finished Goods → Cost of Goods Sold (เมื่อขาย)
สูตรสำคัญ
COGS = Beginning Finished Goods + Cost of Goods Manufactured – Ending Finished Goods
Cost of Goods Manufactured = Beginning WIP + Manufacturing Costs – Ending WIP
Manufacturing Costs = Direct Materials Used + Direct Labor + Manufacturing Overhead
7. พฤติกรรมต้นทุน (Cost Behavior)
Variable Costs – รวมเปลี่ยนตามปริมาณกิจกรรม, ต่อหน่วยคงที่
Fixed Costs – รวมคงที่, ต่อหน่วยเปลี่ยนตามปริมาณ
Committed (ลดไม่ได้ในระยะสั้น เช่น ค่าเสื่อม)
Discretionary (ปรับได้ เช่น ค่าโฆษณา)
Mixed Costs – มีทั้งส่วนคงที่และผันแปร → ใช้สมการ
𝑌
=
𝑎
+
𝑏
𝑋
Y=a+bX
a = Fixed cost
b = Variable cost per unit
X = ระดับกิจกรรม
8. การวิเคราะห์ Mixed Costs ด้วย Least-Squares Regression
ใช้เมื่อความสัมพันธ์ X–Y เป็นเส้นตรง
ใช้ข้อมูลทุกจุดเพื่อแยก fixed และ variable cost
ใช้ Excel:
=SLOPE(known_y's, known_x's) → Variable cost per unit
=INTERCEPT(known_y's, known_x's) → Fixed cost
=RSQ(known_y's, known_x's) → R² (Goodness of fit)
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย