16 ส.ค. เวลา 05:10 • ไลฟ์สไตล์

เมื่อ "บ้านร้าง" ไม่ใช่แค่ฉากในหนังผี...แต่คือวิกฤตทางสังคมที่กำลังรอเวลาปะทุ

ในวันที่ผู้คนเลือกอยู่คนเดียวและไม่มีทายาท บ้านที่ถูกทิ้งร้างกำลังเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว แล้วอะไรจะเกิดขึ้นเมื่อคนไร้บ้านเข้ามาอยู่แทนที่? นี่คือปัญหาที่น่าเป็นห่วงทั้งในไทยและต่างแดน
ในสังคมยุคใหม่ การเลือกที่จะใช้ชีวิตคนเดียวหรือไม่มีลูกหลานกลายเป็นเรื่องปกติ แต่ในอีกด้านหนึ่ง การตัดสินใจเหล่านี้กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ที่อาจกลายเป็นวิกฤตในอนาคต นั่นคือ ปัญหา "บ้านร้าง"
เมื่อผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ตามลำพังเสียชีวิตลง โดยที่ไม่มีลูกหลานคอยดูแลจัดการทรัพย์สิน บ้านหลังนั้นก็จะถูกทิ้งร้างและค่อยๆ เสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา บ้านเหล่านี้กลายเป็นช่องว่างที่ดึงดูดผู้ที่ขาดแคลนที่อยู่อาศัย และนำไปสู่การเข้าไปยึดครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือที่ในต่างประเทศเรียกว่า "Squatting"
ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในหนังจากต่างประเทศ: เมื่อปัญหาบ้านร้างมาถึงไทย
หลายคนอาจมองว่าปัญหานี้เป็นเรื่องไกลตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว ข่าวคราวเกี่ยวกับคนไร้บ้านที่เข้าไปอาศัยในบ้านร้างก็มีให้เห็นในประเทศไทยอยู่เป็นระยะ แม้จะยังไม่มีข้อมูลเชิงลึกที่ครอบคลุม แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นคล้ายคลึงกับในต่างประเทศ นั่นคือ เมื่อบ้านไม่มีผู้ดูแลอย่างเป็นทางการ กระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน ทำให้บ้านถูกปล่อยทิ้งไว้อย่างโดดเดี่ยว
ยิ่งเมื่อประเทศไทยเข้าสู่ สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) แล้ว เนื่องจากมีคนสูงอายุมากกว่า 20.70% ของประชากรไทยทั้งหมดในประเทศ และมีอัตราการเกิดต่ำลงเรื่อยๆ ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าปัญหาการทิ้งร้างอสังหาริมทรัพย์จะทวีความรุนแรงมากขึ้นในอนาคต
ส่องดูประเทศอื่น: ปัญหาที่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในประเทศไทย แต่เป็นความท้าทายระดับโลก เช่น
สหราชอาณาจักรและสเปน: ในประเทศเหล่านี้ ปัญหาการยึดครองบ้านร้างเป็นปัญหาทางสังคมที่ถูกพูดถึงมานาน โดยเฉพาะช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่มีบ้านถูกทิ้งร้างจำนวนมาก
สหรัฐอเมริกา: เมืองใหญ่เช่น นิวยอร์ก และลอสแอนเจลิส มีทั้งจำนวนคนไร้บ้านและบ้านร้างจำนวนมาก ทำให้เกิดการบุกรุกและยึดครองอย่างต่อเนื่อง
ญี่ปุ่น: ประเทศนี้ถือเป็นตัวอย่างที่น่าสนใจที่สุด เพราะเป็นสังคมสูงอายุอันดับต้นๆ ของโลก และต้องเผชิญกับปัญหา "อากิยะ" (Akiya) หรือ "บ้านร้าง" ที่มีอยู่มากมายนับล้านหลังทั่วประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเสียชีวิตของเจ้าของและไม่มีทายาทดูแล ทำให้บ้านเหล่านั้นถูกทิ้งร้างและกลายเป็นปัญหาทั้งด้านความปลอดภัยและการบริหารจัดการทรัพย์สินของรัฐ บางเมืองก็มีการประกาศขายให้ชาวต่างชาติ
ทางออกที่สังคมต้องร่วมกันคิด
การแก้ปัญหานี้ไม่สามารถทำได้ด้วยการตำหนิผู้บุกรุกเพียงอย่างเดียว เพราะพวกเขาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหาที่ใหญ่กว่า นั่นคือการขาดแคลนที่อยู่อาศัยและความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่นับวันมีจะทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น อันเป็นผลเนื่องมาจากการบริหารจัดการประเทศที่ไม่มีประสิทธิภาพ
ภาครัฐและประชาชนควรหันมาให้ความสนใจในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อหาแนวทางแก้ไขที่ยั่งยืน เช่น
1) การปรับปรุงกฎหมายและกระบวนการจัดการทรัพย์สินที่ไม่มีทายาทให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
2) การใช้ข้อมูลเชิงรุกเพื่อติดตามและจัดการกับบ้านร้างในพื้นที่ต่างๆ เช่น ตรวจสอบจากทะเบียนบ้าน
3) การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่เข้าถึงได้สำหรับผู้มีรายได้น้อย
เมื่อบ้านที่ถูกทิ้งร้างไม่ถูกปล่อยปละละเลย แต่กลับมามีประโยชน์อีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงเพื่อนำไปใช้เป็นที่อยู่อาศัยสำหรับคนขาดแคลน หรือนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่น นั่นจะเป็นการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส และแก้ปัญหาสังคมได้ในระยะยาว
คำค้นหา (Keywords) สำหรับ : บ้านร้าง, คนไร้บ้าน, สังคมสูงอายุ, อากิยะ, คนโสด, ปัญหาสังคม, อสังหาริมทรัพย์, ที่อยู่อาศัย, การบุกรุก, กฎหมาย, Squatting, บ้านไม่มีทายาท
โฆษณา