Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
CREATIVE TALK
ยืนยันแล้ว
•
ติดตาม
16 ส.ค. เวลา 12:00 • ธุรกิจ
อย่าเอาวิธีการตั้ง ถ้ายังไม่มีเป้าหมายที่จะไป
รวมเคล็ดวิชาชีวิตจาก โอม Cocktail กับบทเรียนความจริงของโลกธุรกิจ
ถ้าทำถูก คุณจะมีปัญหากับคนทำผิด แต่ถ้าทำผิด จะมีปัญหากับคนทำถูก แต่ถ้าคุณไม่อยากผิดเลย “ไม่ต้องทำงานครับ”
มัดรวมประสบการณ์ โอม cocktail
ครบ จบ ในโพสต์เดียวกับแนวคิดชีวิตที่ผ่านการตกผลึกจากนักบริหารที่เป็นผู้นำตัวจริง ด้วย แนวคิดโครงสร้าง 3-1-2 กับหัวข้อ จากเวทีคอนเสิร์ต สู่เวทีธุรกิจ เส้นทางศิลปินผู้เป็นนักคิด โดย คุณโอม cocktail - ปัณฑพล ประสารราชกิจ ในงาน Thailand E-Commerce Expo 2025
มัดรวมประสบการณ์ด้วยแนวคิดชีวิตที่ผ่านการตกผลึกจากนักบริหารที่เป็นผู้นำตัวจริง จากคุณโอม cocktail
🔹 หนึ่งในวิธีคิดที่น่าสนใจที่คุณโอมได้ถ่ายทอดในครั้งนี้คือ “โครงสร้าง 3-1-2” มันคือหลักในการบริหารจัดการที่คุณโอมได้ต่อยอดมาใช้ในชีวิตการทำงาน ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนนั่นคือ
👉 ‘3’ คือ เป้าหมายที่เรากำลังจะไป ซึ่งใช้ในการวางเป้าหมายก่อน โดยไม่ต้องคิดมาก ไม่ยึดติดกับความจริงนัก แต่อย่าให้เพ้อเจ้อจนเกินงาม พูดง่าย ๆ ว่าอย่าพึ่งดูถูกตัวเอง ตอบให้ได้ก่อนว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร
👉 ‘1’ คือ จุดที่เรายืนอยู่ คือเส้นทางของชีวิตที่เรายืนอยู่ในปัจจุบัน
👉 ‘2’ คือ วิธีการที่ใช้เดินทางไป มันต้องใช้อะไรบ้าง ใช้เครื่องมืออะไรเข้ามาช่วยเพื่อทำให้ไปถึงเป้าหมาย
หลักการใช้เทคนิคนี้คือ
- นำ 3 มาตั้งไว้ แล้วค่อยนำ 1 มาหักลบ และสุดท้าย 2 จะกลายเป็นผลลัพธ์ที่เราจะไป เพราะฉะนั้นปลายทาง กับต้นทาง มันจะสัมพันธ์กันเสมอ เพราะถ้าเรา ‘คิด’ โดยเอาวิธีการตั้ง มักจะมีปัญหาตามมาเสมอ เพราะบางครั้งวิธีการไม่สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่จะไป หลาย ๆ ครั้งเราทำซ้ำ ๆ แล้วได้ผลลัพธ์ที่สำเร็จ แต่อย่าลืมว่าเทคโนโลยีเปลี่ยน พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน เทรนด์หลาย ๆ อย่างเกิดขึ้น มันคงจะยากที่จะใช้สิ่งเดิมมาสร้างผลลัพธ์ใหม่ มันเป็นไปไม่ได้
🔹 การลงมาเป็นผู้บริหารของคุณโอม เกิดจากการจับงานศิลปะที่เป็นพาณิชย์ศิลป์มากขึ้น ซึ่งคุณโอมนิยามบทบาทตัวเองว่าเป็น ‘ผู้ประสานประโยชน์’ เนื่องจากเราต้องเข้าใจทั้ง 2 ฝั่ง ทั้งในมุมของศิลปินที่เดินหน้าเข้าสู่พาณิชย์ศิลป์ และในมุมของผู้บริหารที่ต้องบริหาร โดยปัจจุบันได้บริหารในบริษัทครึ่งก้าว ซึ่งมีค่ายเพลงและศิลปินที่ทุกคนคุ้นเคยกันในค่ายของ GeneLab และ 19 (Nineteen)
🔹 ในวันนี้ Media + เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทำให้ธุรกิจเปลี่ยนไปเช่นกัน ของที่มันจะขายได้ เพราะเกิดจากความต้องการ เมื่อ Consumer เปลี่ยน ถ้าธุรกิจจะอยู่รอดก็ต้องเปลี่ยนตาม Consumer เช่นกัน
🔹 ในการขาย หลักสำคัญคือ “ความเชื่อที่มีต่อในสิ่งนั้น” เราจึงบริโภคสิ่งนั้น แต่ความเชื่อที่ดี คือความเชื่อที่มีรากฐานมาจากความจริง เพราะความเชื่อที่บนคำลวงจะมีอายุไขสั้น คุณอาจจะหลอกคนได้ครั้งนึง แต่มันจะไม่ตลอดไป แต่ในขณะเดียวกันถ้าเราบูชาแต่ความจริง ความจริงจะเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ความจริงที่ไม่สามารถทำให้ใครเชื่อได้ มีค่าเท่ากับ ไม่มีค่าเลย
ดังนั้นถ้าคุณมีความจริงอยู่กับตัว แต่พูดให้ใครเชื่อไม่ได้ มันเท่ากับไม่มีค่าอะไรเลย ดังนั้นในการทำการตลาด การทำธุรกิจ ความเชื่อเป็นสิ่งสำคัญ แต่การจะทำให้ความเชื่อที่จริงใจนี้สำเร็จได้ ต้องเกิดจากความเชื่อของทั้งสองฝ่าย นั่นคือความเชื่อจากเราไปสู่ Consumer และจาก Consumer ที่เชื่อเรา ซื้อของเรานำกลับไปใช้จริงเกิดการบอกต่อ ซึ่งดีกว่าความเชื่อลวง ๆ ที่ซื้อครั้งเดียวแล้วจบไป การทำของให้ดี ทำของให้มีคุณภาพ และมีความเชื่อที่ส่งไปถึงใจผู้บริโภคได้สำคัญมาก
🔹 หลายครั้งเราชอบเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น มนุษย์เรามีความโดดเด่นแตกต่างกัน มันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง ตัวอย่างเช่น บางคนมีความถนัดเป็นคุณแม่ Full time สามารถเลี้ยงลูกได้เต็มที่ แต่บางคนถนัดเป็นคุณแม่ที่ทำงานไปด้วยได้ อาจจะมีเวลาให้ลูกไม่มาก ดังนั้นความสมดุลของชีวิตเรา อยู่ที่ตัวเราถนัดแบบไหน ไม่มีคำว่าผิด
🔹 เราจะสร้าง Branding ให้แข็งแรง มันเกิดจากความเชื่อ และการนำเสนออย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันใช้เวลา บางคนใช้เวลามากกว่าคนอื่น หรือบางคนใช้เวลาน้อยกว่า ซึ่งนั่นไม่สำคัญเลยว่าคุณจะสร้างแบรนด์ได้เร็วหรือช้า แต่การสร้างแบรนด์ให้แข็งแรงได้จริง เกิดความต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ สำคัญกว่าความเร็วเพียงชั่ววูบ
🔹 อยากขายได้ ต้องหาลูกค้าให้เจอ ซึ่งเกิดจากการประเมินว่า เราอยู่ตรงไหน วิธีการเดินไปจะคิดได้ไม่ยาก แต่ถ้าเราไม่รู้ว่าตัวตน หรือแบรนด์ของเราอยู่ตรงไหน การจะไปหาลูกค้าให้เจอมันจะยากมาก จงหาจุดที่อยู่ให้เจอ แล้วนำเสนอวัตถุดิบที่ดีของคุณ ให้กับคนที่เห็นคุณค่า
🔹 คนเรามักจะประเมินผิด โดยเฉพาะการประเมินตัวเองผิด เช่น ศิลปินบางคนบอกว่าผมดังแล้วในภูมิภาค แต่จริง ๆ เขาอาจจะดังในระดับท้องถิ่นด้วยซ้ำ ดังนั้นการประเมินว่าตัวเองเป็นใครสำคัญ อย่าหลงคิดว่าเราคือที่สุดด้วยความรู้สึก
🔹 เรื่องการรับน้อง เป็นอีกมุมที่คุณโอมรู้สึกว่ากลั้นขำในอดีต แต่ในยุคของคุณโอมมีคนที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ซึ่งทุกวันนี้มันหายไปแล้ว เมื่อลองเอาเรื่องรับน้องมาเปรียบเทียบกับ ‘การทำงานในปัจจุบัน’ เมื่อก่อนทำมายังไง ปัจจุบันก็ยังทำแบบเดิม ถ้าสิ่งไหนมันไม่ดี ต้องตั้งคำถาม เหมือนระบบการรับน้อง สุดท้ายมันสามารถตัดได้ ดังนั้นการตั้งเป้า - ประเมิน - แล้วจะไปอย่างไร สำคัญมาก อย่าเอาคำพูดที่ว่าอดีตเคยทำ แล้วปัจจุบันจะทำแบบเดิม เราต้องเปลี่ยนเป้า หรือ เปลี่ยนวิธีการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ที่ดีกว่าได้
🔹 คำว่า ‘ทักษะสำคัญ’ แต่ทักษะมีหน้าที่ขับให้ออกมาเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นความจริงที่ถ่ายทอดออกมาได้ แต่การมีประสบการณ์ จะทำให้คน ๆ นึงแตกต่างได้ ตัวอย่างเช่น คนเปลี่ยนงานก็เปลี่ยน คุณค่าจะเปลี่ยนไปตามประสบการณ์ ประการณ์จะทำให้เกิดความแตกต่างเข้าสักวัน เพราะเราจะต่างกันได้จริง คุณต้องมีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างกัน
🔹 การเห็นมาก การหาความรู้ในทุกรูปแบบ สำคัญมาก เพราะสิ่งนี้สร้างประสบการณ์ บางคนไม่ถนัดอ่านหนังสือ ก็สามารถดูเป็น Video หรือแม้กระทั่งไปฟังวงเม้า การเม้าบางครั้งก็อาจจะเกิดประโยชน์ได้เช่นกัน ดังนั้นอย่าไปจำกัดกรอบว่าต้องอ่านหนังสือเท่านั้น ถึงจะได้ความรู้
🔹 วันนี้ธุรกิจที่อยากได้ทุน คำถามคือ ถ้าเราจะเอาเงินจากใครสักคน ควรตั้งคำถามเสมอว่า “เขาจะให้เงินคุณพราะอะไร” การตั้งคำถามนี้สำคัญก่อนที่คุณจะไปเอาเงินใครก็ตาม สิ่งสำคัญเวลาจะขอเงินจากนายทุน เขาต้องการ Benefit คือการให้ประโยชน์อะไรได้บ้าง แล้วเขาต้องการหรือไม่ การวางแผน การหาเครื่องมือ การรู้ว่าเป้าหมายของธุรกิจเรามีหน้าตาเป็นอย่างไร เกิดกำไรได้อย่าไร การเข้าใจเรื่อง Basic ของการลงทุนในธุรกิจสำคัญมาก
🔹 ในวันนี้การลงทุนในธุรกิจ ขึ้นชื่อว่าธุรกิจ ต้องคิดแบบธุรกิจให้เป็น! บางครั้งการลงทุนในกำไรก็สำคัญ หรือการลงทุนผ่านภาพลักษณ์มีคุณค่านะ อย่าคิดว่าไม่มี บางองค์กรอยากลงทุนกับการศึกษา บางองค์กรเมื่อลงทุนไปต้องการผลกำไร แต่การลงทุนมักจะเกิดกำไรในปีที่ 3 มากกว่าเกิดกำไรในปีแรก ๆ นี่คืออัตราส่วนจริงที่อยู่ในปัจจุบัน
🔹 พี่โอมมักจะหาความท้าทายให้กับตัวเองและทีมเสมอ เพื่อให้หัวใจสูบฉีด ซึ่งมีตัวอย่างจากคอนเสิร์ตแบบ Touring คือการไปจัดคอนเสิร์ต COCKTAIL 77 EVER TOUR
สิ่งที่คุณโอมมองเห็นคือ เราได้เรียนรู้ที่มากกว่าการไปเล่นคอนเสิร์ต คือการได้ข้อมูลจากคนทั้ง 77 จังหวัด เราได้เห็นพฤติกรรมของ Consumer อย่างมาก แล้วนั่นคือโอกาสที่คุณโอมจะได้นำข้อมูลไปต่อยอดให้กับวงการคอนเสิร์ต หรือศิลปิน จากการที่มีข้อมูล จากการได้เข้าใจพฤติกรรมของคน มากกว่าการคาดเดาสุ่ม นั่นคือที่มาของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อนำมาสู่การทำธุรกิจ
🔹 เชื่อไหมว่าข้อมูลที่ทีมงาน Research 77 จังหวัด มีข้อมูลหนาอย่างมาก มีอะไรบ้าง เช่น มีลานกว้างกี่ตารางเมตร, ใครเป็นเจ้าของ, พื้นที่ราคาเท่าไหร่ม มีห้องน้ำไหม, ห่างกี่กิโล หรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง เป็นต้น ซึ่งข้อมูลที่ว่านี้แหละสำคัญมาก สำคัญไม่แพ้ความสนุกในคอนเสิร์ต การมองงานศิลปะบนวิธีคิดธุรกิจ ก็เป็นอีกมุมมองนึง เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานกับวงการคอนเสิร์ตมากขึ้นเช่นกัน
🔹 ธุรกิจ กับ ความบันเทิง ไม่ใช่สิ่งที่ขัดแย้งกัน พี่โอมได้บอกไว้ว่า การสร้างความเชื่อที่สมูทต่อกันสำคัญมาก อย่ากระโจนเข้าไปหาคนที่อยากจ่ายเงินเพียงอย่างเดียว เพราะเมื่อผ่านไป 2 ปี ไม่เกิดกำไรมักจะเป็นเรื่องเสมอ ถ้านักธุรกิจที่ทำร่วมกันเขาเข้าใจงานศิลปะ เขาเข้าใจความเป็นเรา มันจะสมูทมาก ซึ่งสำคัญมาก
🔹 พี่โอมมักบอกเสมอว่า ความเข้าใจเกิดขึ้นจากการคุยกัน ในระดับปฎิการคุยทุกวัน, ระดับหัวหน้าคุยทุกเดือน, ระดับผู้ถือหุ้นคุยทุกเดือน การเมนเทนความสัมพันธ์จึงสำคัญ มันต้อง Piventive ทำทุกทางไม่ให้เกิดปัญหา เมื่อเจอสัญญาณว่ามีปัญหาอย่างนิ่งเฉย ต้องรีบแก้ นี่แหละคือความเข้าใจกัน
🔹 ถ้าอยากเป็นศิลปินไม่ต้องคิดว่าอยากเหมือนใคร ไม่ต้องไปคิดถึงการสานต่อ หรือการเหมือนกัน ในฐานะงานศิลปะ ถ้าวันนี้อยากเป็นศิลปิน เป็นตัวเอง หาตัวตนของตัวเองให้เจอ แล้วเลือกสิ่งที่เราจะเป็น แบบที่จะเป็นเราคนเดียวที่ทำได้ ไม่ใช่แบบที่เคยมีอยู่ก่อน จงเคารพในงานของตัวเอง
🔹 ผู้บริหารมักมีปัญหาเรื่องการบริหารคนมากซะส่วนใหญ่ แต่ไม่ว่าคุณจะบริหารอะไร สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้ก่อนว่าเราจะจ้างคนเข้ามาทำไม เราจ้างคนเข้ามาทำสิ่งที่เราทำไม่ได้ หรือปัญหาในองค์กร ปัญหาของเรามีอะไรบ้าง มันจะทำให้เราประเมินได้ เพื่อนำไปสู่วิธีการทำงานที่ใช่ และบริหารคนให้ถูกจุด ทุกองค์กรจึงมีปัญหาเหล่านี้แตกต่างกัน
🔹 การบริหารความสัมพันธ์ให้ได้อย่างยาวนาน สิ่งสำคัญคือ “หน้าและหลังต้องเท่ากัน” ความหมายคือ ไม่โกหกกัน ถ้าทำไรผิดขอโทดทันที เพราะการที่เราจะเอาอะไรจากแฟนคลับ เราต้องจริงใจกับเขาก่อนเสมอ ถ้าจะขายก็บอกขาย ถ้าจะเลิกเล่นก็บอกว่าเลิกเล่น จะเล่นถึงเมื่อไหร่ จะแจ้งให้หมด เพราะคนที่มาตามเราเขาก็เสียทั้งเวลา และเสียทั้งเงิน มันคือความแฟร์ร่วมกัน
🔹 มาตรฐานสำคัญ เพราะการมีมาตรฐานร่วมกันในการทำงาน จะช่วยลดการเอารัดเอาเปรียบได้ดี ซึ่งเป็นกฎเกณฑ์อย่างหนึ่งที่คุณโอมยึดถือมาตลอด
โลกเราในวันนี้มี “ผู้คน” หลาย 7 พันกว่าล้าน มันมีความชอบที่หลากหลาย มันยังมีโอกาสมากมายซ่อนอยู่ การทำงานก็เช่นกัน ถ้าวันนี้คุณมั่นใจว่ามีของดี เริ่มทำเลย หลายคนมักกลัวพลาด หรือหลายคนทำดี แต่กลัวโดยต่อว่า
จงจำไว้ว่า
ถ้าทำถูก คุณจะมีปัญหากับคนทำผิดเสมอ
แต่ถ้าทำผิด คุณจะมีปัญหากับคนทำถูกเสมอ
แต่ถ้าคุณไม่อยากผิดเลย “คุณไม่ต้องทำงานครับ”
✍🏻 เรียบเรียง: กิตติภพ ปานล้ำเลิศ
2 บันทึก
1
1
2
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย