17 ส.ค. เวลา 08:34 • ความคิดเห็น

เมื่อ AGI อาจมาถึงเร็วกว่าที่คิด เหล่านักศึกษาหัวกะทิจึงเริ่ม Drop เรียน!!

ช่วงปีที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า AI นั้นพัฒนาเร็วในอัตราก้าวกระโดดกว่าเดิมมาก อย่างล่าสุด OpenAI ก็ออกมาขิงว่า GPT-5.0 นั้นจะฉลาดเวอร์เทียบเท่านักศึกษาปริญญาเอกกันเลยทีเดียว
เมื่อเดือนที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสอบรมหลักสูตร AI ของที่ทำงาน วิทยากรบอกว่าเมื่อกลางปีที่แล้วความฉลาดของ Chatbot โดยเฉลี่ยที่มีอยู่ในตลาดเทียบเคียงได้กับมนุษย์ที่มี IQ ประมาณ 100 นั่นเทียบเท่าคนทั่วไป แต่มาต้นปีค่าเฉลี่ยไปอยู่ที่ประมาณ 115 แล้ว ซึ่งเริ่มเทียบได้กับคนหัวดี
ไม่แปลกใจเลยที่ปลายปีหรือปีหน้า Chatbot พวกนี้จะเริ่มฉลาดระดับนักศึกษาปริญญาเอกอย่างที่ผู้พัฒนาอวดอ้าง
แต่ทั้งนี้ที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบัน AI ที่ว่าเก่งพวกมันยังเก่งเฉพาะทาง แต่ละโมเดลก็จะเน้นงานในแต่ละด้านแตกต่างกันไปยังจัดเป็น AI ประเภท ANI(Narrow Artificail Intelligence) ซึ่งขั้นถัดไปของ AI ที่เหล่า Big tech company ต่างเร่งแข่งกันพัฒนาก็คือ AGI(Artificail General Intelligence) AI ที่เรียนรู้ใหม่ได้ทุกเรื่องไม่ต่างกันกับมนุษย์เรา
ANI พัฒนาไปสู่ AGI ก่อนไปสุดทางที่ ASI
ซึ่งเจ้า AGI นี่แหละที่จะมาเป็นตัวปัญหาให้กับตลาดแรงงานอย่างแท้จริง พวกมันเรียนรู้และฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ ได้ไม่ต่างกับคน แต่เร็วกว่า ดีกว่า และพัฒนาไปเรื่อย ๆ ก็จะแทบไร้ข้อจำกัดในการใช้งานไม่เหมือนกับพวก ANI ในปัจจุบัน
เมื่อเห็นสภาพการณ์แบบนี้เหล่านักศึกษาในมหาวิทยาลัยชั้นนำอย่าง MIT และ Harvard เริ่มมี Drop เรียนหรือไม่ก็ลาออกกลางคันด้วยความกลัว AGI ที่กำลังจะมา
ตัวอย่างเช่น Alice Blair เข้าเรียนที่ MIT ในปี 2023 แต่ตอนนี้เธอลาออก (permanent leave) และทำงานเป็น technical writer ที่ศูนย์ Center for AI Safety แทน เธอระบุว่า “ฉันกลัวว่า AGI อาจมาถึงเร็วจนฉันอาจไม่มีชีวิตจนจบการศึกษา” อันนี้คือแนวคิดสุดโต่งว่า AI จะมาทำให้มนุษย์สูญพันธ์กันเลยทีเดียว
หรืออย่างรายงานสำรวจใน Harvard พบว่ากว่าครึ่งของกลุ่มตัวอย่างนักศึกษาปริญญาตรี 326 คน มีความกังวลว่า AI จะส่งผลกระทบต่อโอกาสในการทำงานของพวกเขา วิตกว่า AI อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออาชีพ หากเศรษฐกิจและตลาดแรงงานเปลี่ยนเร็วเกินไป การเรียนต่อไปอาจจะเปล่าประโยชน์
Sam Altman และ OpenAI
Sam Altman (OpenAI) เชื่อว่า AGI อาจมาภายในปี 2029 และ Demis Hassabis (Google DeepMind) ประเมินเป้าหมายในอีก 5–10 ปี
Nikola Jurković อดีตหัวหน้าคลับ AI safety ที่ Harvard กล่าวว่า หาก AGI มาในอีก 4 ปีข้างหน้าและระบบเศรษฐกิจถูกทำให้เป็นระบบอัตโนมัติภายใน 5–6 ปี ทุกปีที่เรียนก็ถือว่าเสียเวลาเปล่า
นั่นทำให้นักศึกษาบางคนเลือกไปทำงานด้าน AI safety อย่างจริงจัง เช่น ไปทำงานที่ Redwood Research ซึ่งโฟกัสเรื่อง deception และระบบ AI ที่อาจทำร้ายมนุษย์
อย่างไรก็ตาม การลาออกก็มีต้นทุนสูง ข้อมูลจาก Pew Research ระบุว่า ผู้ที่มีปริญญาจะมีรายได้สูงกว่าคนที่ไม่มีอย่างน้อย $20,000 ต่อปี ดังนั้นการลาออกควรเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ “พร้อมมากจริง ๆ” เท่านั้น
ทั้งนี้ก็ยังมีกลุ่มที่มองว่าผู้คนเริ่มตื่นกลัว AI มากเกินไป อย่างเช่น Gary Marcus นักวิชาการคนสำคัญมองว่าความเสี่ยง “ทำให้มนุษย์สูญพันธุ์” ยัง ไม่น่าจะเกิดขึ้นจริงในเร็ว ๆ นี้ เพราะ AI ยังแก้ไขปัญหาเช่น hallucinations หรือ reasoning ไม่ได้ (ตรงนี้ผมกลับไม่เห็นด้วยกับแกนะปัญหา hallucinations และความสามารถให้เหตุผลถ้าคนใช้ AI ก็คงรู้ดีว่าปัญหาพวกนี้จัดการได้หมดแล้ว) และยังมีงานด้าน AI safety ที่เป็นคุณค่าในสายอาชีพแม้ยังไม่มีคำตอบชัดเจน
AI พัฒนาเร็วมากครับ บางคนอาจเริ่มได้รับผลกระทบกันบ้างแล้ว และใช่ครับบทความนี้ผมก็ใช้ Chatgpt ช่วยร่างให้ งานเร็วกว่าเดิมอย่างน้อยเป็นเท่าตัว ไม่แปลกใจที่เห็นบางตลาดงานเริ่มเอาคนออกรัว ๆ ยิ่งเดี๋ยวนี้มี AI Agent ให้ใช้อีกด้วย กิจการไม่ต้องเลี้ยงคนเสียแค่ค่า Sub แล้วคนจะอยู่อย่างไร . . . .
อ้างอิง:
chrome-extension://efaidnbmnnnibpcajpcglclefindmkaj/https://arxiv.org/pdf/2406.00833
โฆษณา