18 ส.ค. เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ 32.47 บาท/ดอลลาร์ "อ่อนค่าลง"

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ 32.47 บาท/ดอลลาร์ "อ่อนค่าลง" นักลงทุนทั่วโลกจับตาประชุมประจำปีเฟด ในประเทศติดตามตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/68 และการส่งออก ก.ค.
ฝ่ายธุรกิจตลาดเงินและธุรกรรมระหว่างประเทศ ทีเอ็มบีธนชาต (ttb) เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาด 32.47 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าจากราคาปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 32.43 บาท/ดอลลาร์ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือน ก.ย. หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ผสมผสานจากสหรัฐฯ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ 32.47 บาท/ดอลลาร์ "อ่อนค่าลง"
นักลงทุนทั่วโลกจับตาการประชุมประจำปีของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 21 - 23 ส.ค. นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายของเฟดต่อไป โดยสัญญาณความอ่อนแอในตลาดแรงงานสหรัฐฯ ผนวกกับแรงกดดันเงินเฟ้อจากภาษีนำเข้า อาจสร้างความลำบากให้กับเฟดในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
การประชุมสุดยอดระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในรัฐอะแลสกา จบลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือชะลอสงครามรัสเซีย-ยูเครน แม้ทั้งสองฝ่ายระบุว่าการหารือเป็นไปอย่างได้ผลดีก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ
ทั้งนี้ เซเลนสกี ผู้นำแห่งยูเครนจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในวันจันทร์ ที่ 18 ส.ค. นี้ เพื่อพบกับทรัมป์และหารือเรื่องการยุติการรุกรานของรัสเซีย ขณะเดียวกันก็จะร่วมกับพันธมิตรยุโรปผลักดันให้เกิดการประชุมสามฝ่ายร่วมกับปูติน
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/2568 และตัวเลขการส่งออกเดือนก.ค. ของไทย ถ้อยแถลงของประธานเฟดจากที่ประชุมสัมมนาประจำปีของเฟดที่ Jackson Hole ทิศทางฟันด์โฟลว์ของต่างชาติและราคาทองคำในตลาดโลก
ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค . บันทึกการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 29-30 ก.ค.และตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ช่วงระหว่างวันที่ 13 - 15 ส.ค. 2568 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 7,764 ล้านบาทและมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Outflows ออกจากตลาดพันธบัตรไทย 7,219 ล้านบาท
กรอบค่าเงินวันนี้และกลยุทธ์แนะนำ
USD/THB 32.30 - 32.60
*แนะนำ ทยอยซื้อที่ 32.30/ขาย 32.60
EUR/THB 37.70 - 38.20
* แนะนำ ซื้อ 37.70 /ขาย 38.20
JPY/THB 0.2180 - 0.2230
* แนะนำ ซื้อ 0.2180 / ขาย 0.2230
GBP/THB 43.70 - 44.20
AUD/THB 20.80 - 21.30
สำหรับแนวโน้มเงินบาท นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า คงมุมมองเดิมว่า เงินบาทยังคงเผชิญความเสี่ยง Two-Way risk (เคลื่อนไหวได้ทั้งด้านอ่อนค่าและแข็งค่า) ตามการปรับเปลี่ยนมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด
โดยล่าสุด บรรดาผู้เล่นในตลาดได้ปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ของเฟดในปีนี้ มาพอสมควร (โอกาสเพียง 19%) ทำให้ในระยะสั้น ตลาดอาจไม่ได้ปรับลดความคาดหวังต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟดไปอีกมากนัก จนกว่าจะรับรู้ รายงานข้อมูลการจ้างงานเดือนสิงหาคม ซึ่งจะรับรู้ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกันยายน
นอกจากนี้ ในส่วนของ positioning นั้น ผู้เล่นในตลาดก็ได้ปรับลดสถานะ Net Short USD (มองเงินดอลลาร์อ่อนค่า) ลงมาพอสมควร จนเรียกได้ว่า เกือบจะ Flat/Neutral positions ทำให้เงินดอลลาร์ก็พร้อมเคลื่อนไหวได้ทั้งสองทิศทาง ตามการรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม
ส่วนไฮไลท์สำคัญ อย่าง ถ้อยแถลงของประธานเฟด Jerome Powell ในงานสัมนาวิชาการประจำปีของเฟด (Jackson Hole Symposium) ก็อาจไม่ได้ส่งสัญญาณชัดเจนต่อแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของเฟด ทำให้ประเมินว่า หากผู้เล่นในตลาดต่างผิดหวังกับถ้อยแถลงของประธานเฟด ก็อาจปรับลดโอกาสเฟดลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง ในปีนี้ รวมถึงโอกาสเฟดลดดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนลงบ้าง ทำให้เงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ อาจปรับตัวสูงขึ้น กดดันราคาทองคำและเงินบาท
อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของเงินบาท (USDTHB) ก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์ หากเงินบาทมีการอ่อนค่าลงเข้าใกล้โซนแนวต้าน
นอกเหนือ จากมุมมองของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟด ยังคงมองว่า การเคลื่อนไหวของทั้งเงินหยวนจีน (CNY) และราคาทองคำจะเป็นปัจจัยที่อาจส่งผลต่อเงินบาทพอสมควร เนื่องจากในช่วงนี้ ทั้งสองสินทรัพย์ได้เคลื่อนไหวสอดคล้องกับเงินบาทมาก
ทั้งนี้ เมื่อประเมินด้วยกลยุทธ์ Trend-Following เงินบาทจะกลับมาอยู่ในแนวโน้มอ่อนค่าลงอีกครั้ง หากสามารถอ่อนค่าทะลุโซน 32.65 บาทต่อดอลลาร์ ได้ชัดเจน (หรืออ่อนค่าทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน)
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น คงมองว่า เงินดอลลาร์ยังคงเผชิญ Two-Way risk (เคลื่อนไหวได้สองทิศทาง) ขึ้นกับการปรับมุมมองต่อแนวโน้มดอกเบี้ยเฟดของผู้เล่นในตลาด หลังรับรู้รายงายข้อมูลเศรษฐกิจและการส่งสัญญาณต่อแนวโน้มนโยบายการเงินของเฟดจากบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด โดยเฉพาะประธานเฟด
คงคำแนะนำว่า ผู้เล่นในตลาดควรเลือกใช้เครื่องมือในการปิดความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนที่หลากหลายมากขึ้น ท่ามกลางความผันผวนของเงินบาท รวมถึงสกุลเงินอื่นๆ ที่สูงขึ้นกว่าช่วงอดีตที่ผ่านมาพอสมควร โดยผู้เล่นในตลาดอาจเลือกใช้เครื่องมือเพิ่มเติม อาทิ Options หรือ Local Currency ควบคู่ไปกับการปิดความเสี่ยงผ่านการทำสัญญา Forward
มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 32.00-32.75 บาท/ดอลลาร์
ส่วนกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วงโมงข้างหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 32.35-32.55 บาท/ดอลลาร์
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา