19 ส.ค. เวลา 15:37 • ปรัชญา
การศึกษามีหลายระดับ ตั้งแต่ประถม ยัง ป.เอก
ความรู้พื้นฐานที่เราเรียน ก ข ค ง A B C เลข 1 2 3 ตั้งแต่อนุบาล พวกนี้เป็นความรู้พื้นฐานที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้จะใช้มากันมาเป็นร้อยเป็นพันปีแล้ว เรียกว่าสิ่งที่เด็กอนุบาลเรียนรู้ คือ ความรู้เมื่อหลายพันปีที่แล้ว ที่เรายังต้องสอน เรียนรู้และส่งต่อ สืบทอดกันมา เพราะมันเป็นความรู้พื้นฐานในการดำรงชีวิต เป็นความรู้ที่ใช้ในชีวิตประจำวันตั้งแต่เกิดจนตาย
ความรู้ระดับประถม เป็นการปูพื้นฐานชีวิต ประวัติศาสตร์ เรามาจากไหน คิดเลข บวกเลข ไปตลาดซื้อของ ต้องอ่านออกว่าเขาขายอะไร ราคาเท่าไหร่ บวก ลบ คูณ หาร เป็น มันคือความรู้ชีวิตประจำวัน การช่วยเหลือตนเองให้เข้าใจสังคม เอาตัวรอด เป็นความรู้ยุคโบราณ รากเง้า ที่เปลี่ยนแปลงบ้างไปตามยุคสมัย แต่โดยรวมก็ยังเป็นความรู้โบราณ ที่ไม่ค่อยอัพเดทเท่าไหร่ เรียกว่าจบประถม สามารถดำรงชีพ เข้าสังคม ทำมาหากินได้ เข้าใจโลกบ้าง
ความรู้ระดับมัธยม เด็กเติบโตพอจะเข้าใจสังคม ประวัติศาสตร์ การเมือง การปกครอง เคมี ฟิสิกส์ พื้นฐานแล้ว เป็นความรู้ที่อัพเดทเมื่อสักร้อยปีที่แล้ว เริ่มเป็นความรู้ที่ไกลตัวออกมา เริ่มเป็นความรู้ระดับสังคม ประเทศ แบบกว้างๆ เพื่อปูพื้นฐานไปสู่การเลือกอาชีพ ที่ต้องใช้ความรู้เฉพาะเจาะจงสาขา
ความรู้ระดับมหาวิทยาลัย เน้นเฉพาะทางมากขึ้น เพื่อเป็นผู้เชียวชาญเฉพาะสาขา ยิ่งสูง ความรู้ยิ่งเฉพาะทาง แคบลง แต่ลึกขึ้น และมีการอัพเดทความรู้ใหม่ๆตลอดเวลา เป็นความรู้ที่ดิ้นได้ สิ่งที่เคยสอนเมื่อ 10 ปีที่แล้ว กับวันนี้ อาจเป็นความรู้คนละชุดกัน แม้ว่าจะเป็นวิชาเดียวกันก็ตาม (ต่างกับความรู้อนุบาลนะ ร้อยปีก็ไม่เคยเปลี่ยน)
ส่วนความรู้aiบอก แม้ว่าจะดูเป็นความรู้ที่ถูกคัดกรองมาแล้ว วิเคราะห์มาแล้ว บอกได้ทุกอย่าง ครบทุกมิติ แต่จะบอกว่า อย่าไปเชื่อทั้่งหมด ไม่ใช่ว่า ai บอกว่ามันคือ สีขาว แล้วมันจะขาวจริงๆ ai บอกว่าสีดำ แล้วมันจะดำจริงๆ
เพราะai รู้เท่าที่อินเตอร์เน็ตมีข้อมูล ถ้าเราใส่ข้อมูลสีขาว มันก็ตอบสีขาว ทั้งที่จริงๆอาจเป็นสีเขียว หรือ ฟ้าก็ได้ เช่นข้อมูล ประวัติข้อมูล หลวงพ่ออลงกต ที่เคยปรากฎใน วิกิพีเดีย ยังเป็นข้อมูลเท็จ ที่ถูกใส่ลงไปเลย ถ้าไม่มีการสืบค้นจริงๆ เราก็คงเชื่อตาม ข้อมูลเท็จ
ส่วนการศึกษามีประโยชน์เพื่อใคร เรียกว่า ถ้ารู้น้อย ก็คือประโยชน์ส่วนตน แต่ถ้ารู้มาก ถึงจะสามารถสร้างประโยชน์เพื่อส่วนรวมได้ ส่วนใครจะแสวงหาประโยชน์จากความรู้ ก็ต้องไปดูว่า เขารู้ขนาดเอามาหารายได้ ได้หรือเปล่า ถ้ารู้มากโอกาสร้างรายได้ก็สูง ถ้ารู้น้อยโอกาสสร้างรายได้ก็ต่ำ
คนเราจะมี 2 ประเภท คือ
1. เสียเงิน เพราะความรู้ - เพราะคุณมีความรู้ จึงเสียเงินเพื่อใช้ความรู้
2. เสียเงิน เพราะความไม่รู้ - เพราะคุณไม่รู้ จึงยอมเสียเงินให้กับความไม่รู้
โฆษณา