ถ้ายุคใหม่ต้องเกษียณวัย 45 ปี เราต้องเก็บเงินกี่บาท ? ถึงจะอยู่ได้ตลอดชีวิต
เมื่อเร็ว ๆ นี้ หลายคนน่าจะเห็นข่าวที่บริษัทประกาศโครงการให้พนักงานสมัครใจลาออก สำหรับคนที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป เพื่อแลกกับค่าชดเชย
คำถามที่น่าคิดต่อคือ หากสิ่งนี้กลายเป็น New Normal แล้ว เราจะสามารถใช้ชีวิตหลังเกษียณด้วยวัยเท่านี้ได้จริงหรือไม่ ?
คำตอบคือ “อาจเป็นไปได้”
แต่เราจะต้องเก็บเงินกี่บาท และทำอย่างไรต่อ ถึงจะเกษียณในวัย 45 ปีได้ ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
การวางแผนเพื่อการเกษียณ จะแบ่งได้เป็น 3 ขั้นตอนหลักคือ
1. ตั้งเป้าหมายเงินก้อนที่ควรมี เพื่อการเกษียณ
ในการที่เราจะทำอะไรสักอย่าง สิ่งหนึ่งที่ต้องมีคือ เป้าหมายที่ชัด เพราะจะได้ออกแบบวิธีการ เพื่อบรรลุเป้าหมายได้ถูกต้องที่สุด และรู้สึกไม่เลื่อนลอยกับปลายทาง
โดยเงินที่ควรมี = ค่าใช้จ่ายต่อปี x 25
เช่น หากเราต้องการใช้เงิน 40,000 บาทต่อเดือน
เงินที่ควรมี = 40,000 x 12 x 25 = 12,000,000 บาท
ซึ่งเหตุผลที่ควร x 25 เท่า เพราะว่า หากเราลงทุนในสิ่งที่จ่ายปันผล 4% ต่อปีได้ จะทำให้เงินก้อนของเราไม่ลดลง และสามารถสร้างรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ได้อยู่เรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตาม เราอาจไม่ต้องเก็บเงินถึง 12,000,000 บาท เพราะอย่าลืมว่า บริษัทอาจมีค่าชดเชย ซึ่งเราต้องนำส่วนนี้มาคิดด้วย
2. ออมเยอะ และลงทุนอย่างจริงจัง
เพื่อให้เงินเพิ่มขึ้นรวดเร็วพอใช้หลังเกษียณในวัย 45 ปี การเก็บเงินเฉย ๆ ไม่น่าจะเพียงพอ
โดยหนึ่งในทางเลือกที่ช่วยให้เงินที่เรามีอยู่ เติบโตทวีคูณได้เรื่อย ๆ นั่นคือ การลงทุน
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ
ถ้าเก็บเงินเดือนละ 10,000 บาท จะใช้เวลา 1,200 เดือน หรือ 100 ปี ถึงจะมีเงิน 12,000,000 บาท
แต่ถ้าลงทุนเดือนละ 10,000 บาท แล้วได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 8% ต่อปี
เราจะมีเงิน 12,000,000 บาท ภายใน 331 เดือน หรือประมาณ 28 ปี
จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า การลงทุนสามารถร่นระยะเวลาได้ไม่น้อยเลย
ซึ่งถ้าใครอยากคำนวณว่า ต้องเก็บเงินกี่บาท สามารถทำได้ง่าย ๆ หากมีเครื่องคิดเลขทางการเงิน หรือผ่านเว็บไซต์ https://www.allaboutfin.com/fin-program/tvm/calculator-value
โดย
N = ระยะเวลาลงทุน
I = ผลตอบแทน
PV = เงินต้น
FV = เงินก้อนที่ต้องมีหลังเกษียณ
PMT = เงินเก็บต่อเดือน
หากเราต้องการรายได้ 40,000 บาทต่อเดือน (หรือต้องมีเงินก้อนหลังเกษียณ 12,000,000 บาท)
N = 23 ปี = 23 x 12 = 276 เดือน (เริ่มทำงานในวัย 22 ปี และเกษียณตอนอายุ 45 ปี)
I = 10% ต่อปี = 0.833% ต่อเดือน (ผลตอบแทนตลาดหุ้นสหรัฐฯ เฉลี่ย 10% ต่อปี)
PV = 0
FV = 12,000,000
จะได้ว่า PMT = 11,268.73 หรือแปลว่า เราต้องเก็บเงิน 11,268.73 บาทต่อเดือน
จากตัวเลขก็พอสรุปได้ว่า อาจเป็นไปได้ยากสำหรับการทำงานในช่วงแรก โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ ที่เงินเดือนอาจไม่ได้สูงมาก
ดังนั้นเราต้องหาวิธีที่จะทำให้เป้าหมายเป็นไปได้นั่นคือ
- เพิ่มรายได้ เช่น ทำโอที, ทำ Part-Time, โบนัสตาม Performance, ขายของออนไลน์, เป็นอินฟลูเอนเซอร์, ธุรกิจส่วนตัว และอื่น ๆ
- ลดค่าใช้จ่าย ด้วยการไม่ซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือมองหาทางเลือกอื่นที่มีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า เช่น เข้าโรงหนังวันพุธ เพื่อจะได้ตั๋วราคาถูก, ช็อปของในแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ หรือหาคนหารค่า Spotify และ Netflix แทนการใช้บัญชีคนเดียว เป็นต้น
- ลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น โดยการหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม
แต่หากทำไม่ได้จริง ๆ ในช่วงแรก ก็ค่อยเพิ่มเงินลงทุนในช่วงหลังก็ได้เช่นกัน
3. ใช้เงินเพียง 4% ของเงินก้อนทั้งหมดในแต่ละปี
ต่อเนื่องจากกรณีที่เรามีเงินก้อนสำหรับการเกษียณแล้ว (ในที่นี้คือ 12,000,000 บาท ตอนอายุ 45 ปี) และเอาเงินก้อนนั้นไปลงทุนให้ได้เงินปันผล 4% ต่อปี
ซึ่งอัตราผลตอบแทนเงินปันผล 4% ต่อปี ถือเป็นตัวเลขที่หาได้ไม่ยาก หรือแม้แต่พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ที่จ่ายดอกเบี้ยประมาณนี้
โดยเราจะต้องใช้เงินไม่เกิน 4% ของเงินก้อนทั้งหมด ในแต่ละปี เพื่อให้ค่าใช้จ่ายกินเฉพาะส่วนเงินปันผลที่เราได้รับจากการลงทุนต่าง ๆ โดยไม่กระทบเงินก้อน และเงินก้อนนี้ ก็จะคอยผลิตรายได้ให้เราตลอดไป..
เช่น มีเงิน 12,000,000 บาท ก็ควรใช้จ่ายต่อปีไม่เกิน 12,000,000 x 4% = 480,000 บาท หรือ 40,000 บาทต่อเดือน นั่นเอง
สุดท้ายนี้ แม้การออกจากงานในวัย 45 ปี อาจดูเป็นเรื่องน่ากลัว
การเกษียณตอนอายุ 45 ปี โดยมีเงินเพียงพอสำหรับชีวิตที่เหลือ อาจดูเป็นเรื่องยาก
แต่ก็ใช่ว่า จะเป็นไปไม่ได้เลย หรือไม่มีทางออกเลย
แม้โลกต่อจากนี้ จะมีความไม่แน่นอนกว่าเดิม
แม้องค์กรต่าง ๆ จะการันตีความมั่นคงให้กับพนักงานไม่ได้เหมือนเดิม
แม้สิ่งเหล่านี้ จะเป็นปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้
แต่ชีวิตของเรา ก็ยังมีสิ่งที่ควบคุมได้อยู่
นั่นคือ การตระหนัก และลงมือที่จะเริ่มต้นวางแผนการเงินของชีวิต ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
เพื่อที่ในอนาคต เราจะได้มีอิสรภาพ และชีวิตที่มั่นคงอย่างแท้จริง..
- 79
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
