'หลวงพ่ออลงกต' ยอมรับ ไม่ได้จบ ป.โท ม.แห่งชาติออสเตรเลีย
ติดตามข่าว #หลวงพ่ออลงกต แล้วรู้สึกสะเทือนใจมาก เพราะในหมู่บ้านผมทำบุญกับหลวงพ่อเป็นประจำทุกปี สำคัญคือร่วมบุญกันมานานกว่า 20 ปีแล้ว และปีนี้ผมก็กำลังเตรียมของจะเอาไปบริจาคช่วงสิ้นปีนี้อีก แต่...พอเห็นในภาพข่าว ที่ข้าวของบริจาคในวัดถูกทิ้งเละเทะกระจัดกระจายกองพะเนิน ไร้การดูแลรักษาและการจัดการที่ดีพอ จนข้าวของจำนวนมากเน่าเสียหาย ทำให้รู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
อีกเรื่องที่หลวงพ่อออกมายอมรับเองแล้วว่า ประวัติการศึกษาที่เคยเผยแพร่ในสื่อทางการของวัด (ปัจจุบันถูกลบทิ้งไปแล้ว) และที่สื่อมวลชนต่างๆ เคยนำออกไปเผยแพร่...มาอย่างยาวนาน เป็นเรื่อง #อุปโลกน์ ขึ้นมาทั้งหมด เพราะข้อเท็จจริงคือหลวงพ่อจบเพียง ม.ปลาย จากโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จ.ขอนแก่น เท่านั้น
ส่วนเรื่องที่อ้างอย่างสวยหรูในประวัติการศึกษาว่า จบจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ จบ ป.ตรี จากคณะวิศวะฯ ม.เกษตร และจบ ป.โท คณะวิศวะฯ จาก ม.แห่งชาติออสเตรเลีย (ANU) เป็นเรื่องไม่จริงทั้งหมด มันเป็นเพียงแค่ความฝันที่อยากจะเข้าเรียนที่นั่นเท่านั้น (บร๊ะเจ้า..!) แล้วเอาไปลงในประวัติอย่างเป็นทางการ เพื่อหลอกลวงชาวบ้านมาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีทำไมกัน?
ที่หลวงพ่ออ้างว่าเหตุเพราะความจำเสื่อมจากอุบัติเหตุ ก็ฟังไม่ขึ้นอีก เพราะเคยมีบทสัมภาษณ์ (ที่เพจต่างๆ ขุดกันขึ้นมา) มีหลักฐานชัดเจนคือจากนิตยสาร Reader’s Digest - สรรสาระ (ฉบับภาษาไทย) เผยแพร่เมื่อ ก.ค. 2540, ปัจจุบันนิตยสารฉบับนี้หยุดตีพิมพ์ไปแล้วตั้งแต่ ม.ค. 2557) บทความชื่อ “ที่พึ่งสุดท้าย” โดย JENNIFER GAMPELL ก็เล่านิทานโกหกว่า
เขา (หลวงพ่ออลงกต) เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย จึงมีอนาคตสดใสอยู่เบื้องหน้า ปริญญาโททางวิศวกรรมศาสตร์จะเป็นใบเบิกทางให้ได้งานดีมีเกียรติในกรุงเทพฯ อย่างแน่นอน และเขายังมีคู่รักที่หมายปองรออยู่ด้วย
แต่แล้วทุกอย่างก็แปรผัน เมื่อได้รับจดหมายจากที่บ้าน ว่าแฟนสาวที่สัญญาว่าจะคอยไปแต่งงานกับชายอื่น
โลกล่มสลายลงต่อหน้า เขาพยายามกัดฟันเรียนต่อจนจบ เข้ารับราชการที่กระทรวงเกษตรฯ พร้อมดื่มหนัก และประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์หลายครั้ง เพื่อนฝูงพากันตีจาก
เขาจึงตัดสินใจบวช มิใช่เพราะเลื่อมใสในศาสนา แต่เพื่อเอาใจญาติโยมที่ขอร้องให้หาหนทางเริ่มต้นชีวิตใหม่ จึงลองบวชสามเดือนตามระยะเวลาที่ทางราชการอนุญาตให้ลาบวช
ระยะแรกเขาศึกษาพระธรรมคำสอนอย่างหิวกระหาย แต่ไม่ได้ใส่ใจในความหมายเหล่านั้น จนกระทั่งเวลาผ่านไป คำสอนเริ่มเปิดทางสว่าง “หนทางที่ดีที่สุดในการดำเนินชีวิตก็คือความสงบสุข และไม่แสวงหาครอบครองสิ่งใด”
หลังจากนั้น 3 เดือน เขาธุดงค์ไปทั่วประเทศ ก่อนจะปักหลักจำพรรษาที่ “วัดพระบาทน้ำพุ”
ล่าสุดจากสัมภาษณ์เพจ “อีจัน” ที่ท่านอ้างว่าความจำเสื่อม แต่กลับเล่านิทานเป็นตุเป็นตะได้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 อันนี้ก็ฟังขึ้นได้ยากจริงๆ เพราะตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ท่านกลับไม่เคยท้วงติงให้ลบประวัติเท็จเหล่านี้ ออกจากเว็บทางการของวัด (เพิ่งลบทิ้งตอนเป็นข่าวนี่เอง) และที่สื่อมวลชนต่างๆ เคยนำไปลงอีกล่ะ?
ระหว่างนี้คงต้องติดตามข่าวกันต่อไปว่า.... บทสรุปสุดท้ายจะไปจบลงที่ตรงไหน เรื่องราวคุณงามความดีที่ท่านเคยกระทำมาอย่างยาวนาน สุดท้ายแล้ว...มันคืออะไร? เพราะเริ่มต้นตั้งแต่ “ศีล 5” ข้อ “มุสาวาทา เวรมณี” แปลว่า “เว้นจากการพูดเท็จ” หรือ “งดเว้นจากการพูดโกหก” ท่านก็ผิดเต็มๆ แถมยังผิดยาวนานกว่า 30 ปีแล้ว หากไม่มีการขุดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมาใน พ.ศ. นี้ เข้าใจว่าเรื่องวุฒิการศึกษาอุปโลกน์จอมปลอมเหล่านี้ ก็คงถูกฝังกลบมิดไปอีกนานแสนนาน
จิด.ตระ.ธานี: #เล่าสู่กันฟังนะครับ
#Jitdrathanee
▸ Link tree: https://linktr.ee/Jitdrathanee
ที่มาข่าว :
1. VDO #อีจัน : หลวงพ่ออลงกต ไม่เคยจบออสเตรเลีย (19 ส.ค. 2568, 09:32) : https://www.ejan.co/video/4eyqk6883e4h
2. #ไทยรัฐนิวส์โชว์ : “หลวงพ่ออลงกต” ยอมรับ ไม่ได้จบ “เทพศิรินทร์ - เกษตรศาสตร์ - ออสเตรเลีย” แค่มีความฝันอยากเรียน (19 ส.ค. 2568, 16:42) : https://www.facebook.com/photo/?fbid=1112305517759977&set=a.293559662967904
3. เพจ #จบข่าว (19 ส.ค. 2568, 16:53) : บทความ “ที่พึ่งสุดท้าย” โดย JENNIFER GAMPELL จากหนังสือ Reader’s Digest (ก.ค. 2540) : https://www.facebook.com/photo/?fbid=1284396323354562&set=pcb.1284396706687857
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
