21 ส.ค. เวลา 10:15 • ความคิดเห็น
1. คำว่า "เวร" มาจากภาษาบาลี เว-ระ หมายถึง "อารมณ์ที่อยู่ในฝ่ายอกุศลทั้งหมด" อาทิเช่น โกรธ เกลียด พยาบาทมาดร้าย (เว-ระ-มะ-ณี จึงหมายถึง การงด หรือละเว้นอารมณ์ในฝ่ายอกุศลทั้งหมด) อารมณ์อยากฆ่า ไม่พ้นนำไปสู่การสังหารให้อาสัญ อารมณ์อยากได้ ไม่พ้นนำไปสู่การขโมย อารมณ์อยากกาม ไม่พ้นนำไปสู่การเสพกาม อารมณ์อยากพูด ไม่พ้นนำไปสู่การพูดเพ้อเจ้อ อารมณ์อยากเพลิดเพลิน ไม่พ้นนำไปสู่การเสพน้ำเมา การอาราธนาศีล 5 อยู่เนืองๆ จึงเป็นการตั้งจิตมั่น ให้จิตนั้นฝักใฝ่อยู่ในกุศล (บุญ)
2. คำว่า "กรรม" หมายถึง "การกระทำที่ประกอบด้วยเจตนาทั้งหมด" ไม่ว่าจะอยู่ในฝ่ายกุศล (บุญ) หรืออกุศล (บาป)
โดยนัยนี้ คำว่า กรรมทางวาจา หมายถึง การกระทำที่ประกอบด้วยเจตนาผ่านทางวาจา "การไม่พูดหรือเงียบเสีย จึงนับเป็นกลางๆ" ในขณะที่การพูดอาจเป็นกุศลกรรม (ทำบุญ) หรืออาจเป็นอกุศลกรรม (ทำบาป) ก็ได้ อยู่ที่เจตนาอันเป็นกุศล (บุญ) หรืออกุศล (บาป) เท่าที่สติปัญญาจะรู้ได้
3. คำว่า "เวรกรรม" หมายถึง การกระทำด้วยอารมณ์ ในฝ่ายอกุศลทั้งหมด ทั้งโดยเจตนาอันเป็นกุศล(บุญ) หรือเจตนาอันเป็นอกุศล (บาป) เท่าที่สติปัญญาจะรู้ได้
การที่คุณชกฝาบ้านด้วยความโกรธใครบางคน
คุณไม่ได้มีเจตนาทำร้ายใครเลย
แต่ผลที่ตามมาคือ คุณเจ็บมือเลือดซิบ
หากคุณไม่สามารถระงับคลายความโกรธลงเสียได้
คุณจะยิ่งผูกพยาบาทต่อผู้ที่ทำให้โกรธ
จิตใจจะยิ่งรุุ่มร้อนกระสับกระส่าย
............................
หากพลังจิตคุณกล้าแข็ง คุณจะหาวิธีเอาคืนผู้ทำให้โกรธ
เมื่ออารมณ์พุ่งขึ้นสูงสุด
แต่คุณยังไม่สามารถระงับคลายความโกรธลงเสียได้
.................
การห้ำหั่นประหัตประหารกันก็ตามมา
เมื่อการห้หั่นประหัตประหารตามมา
ย่อมทุกข์ทั้งคู่ ฉิบหายทั้งคู่
ธรรมะจะต้องลึกซึ้งทีละหนึ่ง
โดยสรุป
เวรกรรม มีจริงๆ เกิดขึ้นจริงๆ
แต่เกิดแล้วดับไม่กลับมาอีกเลย
ไม่สามารถกลับไปแก้ไข เปลี่ยนแปลงได้
หรือแม้แต่แก้กรรมก็ไม่ได้
แก้กรรม คือคำลวงโลก
ธรรมะจะต้องลึกซึ้งทีละหนึ่ง
โฆษณา