22 ส.ค. เวลา 10:45 • ยานยนต์
CALXCO แคลเอ็กซ์โค่

#โพสนี้สำหรับผู้ที่สนใจศึกษามาตรฐานน้ำมันเครื่อง ACEA A3/B4-23 แบบละเอียดและการทดสอบ

ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ACEA Oil Sequences 2023 ใหม่ล่าสุด ได้เผยแพร่ในเดือนกันยายน 2023
#สำหรับเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลขนาดเล็ก ( light-duty engines) ที่กำหนดโดยสมาคมผู้ผลิตยานยนต์ยุโรป
#ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินส่วนใหญ่ ของยุโรปจะใช้มาตรฐานนี้กันมานานหลายสิบปี สำหรับเครื่องยนต์ที่ไม่ได้มีระบบบำบัดไอเสียที่เข้มงวดมากนัก!!
#โดยเป็นน้ำมันเครื่องแบบ "High SAPS" (มีระดับเถ้าซัลเฟต ฟอสฟอรัส และกำมะถันสูง) ที่เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินในรถยนต์นั่งและรถตู้ #ที่ต้องการการปกป้องสูงและมีประสิทธิภาพในการลดการสึกหรอได้ดีเยี่ยม
#มีฟิล์มน้ำมันที่แข็งแรง เสื่อมสภาพช้าเมื่อใช้งานหนักและช่วงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ยาวนานตามที่ผู้ผลิตรถยนต์กำหนดเฉลี่ยที่ 15,000-20,000 Km สามารถแทนที่มาตรฐานเก่าอย่าง A3/B4-22, A3/B4-21 และ A3/B3 หรือ A5/B5 ได้
#แต่ไม่สามารถใช้ทดแทน C categories (low/mid SAPS) เนื่องจากอาจทำให้ระบบบำบัดไอเสีย (เช่น DPF หรือ TWC) เสียหายได้ในระยะยาว..
#มาตรฐาน ACEA A3/B4-23 ได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติม #เพื่อรองรับเทคโนโลยีเครื่องยนต์สมัยใหม่ เช่น เครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง (GDI) ที่มีเทอร์โบ การลดการจุดระเบิดก่อนกำหนด (LSPI) ลดการสึกหรอของโซ่ไทม์มิ่ง
#ซึ่งเครื่องยนต์ของยุโรปทั้งเครื่องดีเซลและเบนซินส่วนใหญ่ จะใช้โซ่ทามมิ่งกันเกือบหมด!! และการทนต่อเชื้อเพลิงไบโอดีเซล เช่น B5 จนถึง B100 โดยผ่านการทดสอบที่เข้มงวดทั้งในห้องปฏิบัติการและเครื่องยนต์จริง!!
#ข้อมูลด้านล่างคือรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับคุณสมบัติเด่น ขีดจำกัดทางเคมี ( Additives ) คุณสมบัติทางกายภาพ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ และการทดสอบในเครื่องยนต์
1. #ขีดจำกัดทางเคมี ( Chemical Limits)
#ขีดจำกัดเหล่านี้ ช่วยให้มั่นใจว่าน้ำมันเครื่องมีส่วนประกอบที่เหมาะสมสำหรับการปกป้องเครื่องยนต์โดยไม่ทำให้ระบบไอเสียเสียหายในเครื่องยนต์ที่ไม่ได้ต้องการน้ำมันเครื่อง low-SAPS:
#เถ้าซัลเฟต (Sulphated Ash): 1.0 - 1.6% m/m (ทดสอบด้วย ASTM D874)
#ฟอสฟอรัส (Phosphorus): ASTM D5185 หรือ D4951 โดยทั่วไป ≥ 0.09% m/m แต่ไม่เกินขีดที่อาจกระทบระบบไอเสีย
#กำมะถัน (Sulphur): ทดสอบด้วย ASTM D5185
#คลอรีน (Chlorine): ไม่เกิน 200 ppm (ทดสอบด้วย ASTM D6443)
#ดัชนีความเป็นด่างทั้งหมด (Total Base Number - TBN): ≥ 10.0 mgKOH/g (ทดสอบด้วย ASTM D2896) เพื่อต้านทานการเป็นกรดจากการเผาไหม้ โดยรายงาน TBN ด้วย ASTM D4739 ≥ 6.0 mgKOH/g
2. #คุณสมบัติทางกายภาพ (Physical Properties)
คุณสมบัติเหล่านี้เน้นความคงสภาพฟิล์มของน้ำมันเครื่องภายใต้สภาวะต่างๆ:
#เกรดความหนืด (Viscosity Grades): ตาม SAE J300 ล่าสุด ต้องสอดคล้องกับข้อกำหนด HTHS และ Shear Stability
#ความคงตัวต่อแรงเฉือน (Shear Stability): ความหนืดที่ 100°C หลัง 30 รอบ ≥ Stay-in-grade (ทดสอบด้วย CEC L-14-93, ASTM D6278 หรือ D7109)
#ความหนืด HTHS (High-Temperature High-Shear Viscosity): ≥ 3.5 mPa·s ที่ 150°C และอัตราเฉือน (ทดสอบด้วย CEC L-36-90) รายงาน HTHS ที่ 100°C
#การสูญเสียจากการระเหยหรือการพร่องของน้ำมันเครื่อง (Evaporative Loss - Noack): ≤ 13% หลัง 1 ชั่วโมงที่ 250°C (ทดสอบด้วย CEC L-40-93)
โฆษณา