23 ส.ค. เวลา 04:10 • การตลาด

👕 เสื้อขาดหลุดลุ่ย แต่ขายได้เกือบ 3 หมื่น!!!

ทำไม Balenciaga ถึงผลิตเสื้อหรือไอเท็ม “ขาดหลุดลุ่ย” ออกมาขาย?
1. Demna คือผู้ผลักดันแนวคิด “แฟชั่นที่ท้าทาย”
• Demna Gvasalia — Creative Director ของ Balenciaga มีรากฐานมาจาก Vetements ที่เน้นแฟชั่นขบถ (subversive) และเขาได้ถ่ายทอด DNA นี้มายัง Balenciaga อย่างเต็มตัว  
• สไตล์ของเขาสะท้อนมาจากการ “แย้ง” กับบรรทัดฐานของแฟชั่น โดยใช้องค์ประกอบที่ดู “พัง” เพื่อสร้างความแตกต่างและตั้งคำถามกับสังคม
2. สร้างกระแสและเรียกสายตา
• เมื่อปี 2022 Balenciaga เปิดตัว Paris Sneakers แบบ “destroyed” ในแคมเปญที่ดูเหมือนรองเท้าถูกเผา ถูกลากถนน หรือถูกขยำ เพื่อสื่อว่า รองเท้านี้ “ใส่ได้ตลอดชีวิต”    
• กลยุทธ์คือ “ตอกย้ำว่า ดูเหมือนพัง แต่ยังอยู่ทน” และสร้างปฏิกิริยาในโลกออนไลน์ ซึ่งแบรนด์ชาญฉลาดสามารถใช้กระแสนี้เป็นการตลาดได้อย่างแรง
• เช่น BoF วิเคราะห์ว่า: “นี่ไม่ใช่แค่อยากขายรองเท้าทรุดโทรม แต่ต้องการให้คนพูดถึงมัน”
3. ท้าทายแนวคิด Luxury แบบเดิมๆ
• Demna เคยกล่าวว่า เขาไม่อยากให้แฟชั่นหรูแค่เป็นเครื่องหมายของความมั่งคั่ง แต่ควรสื่อถึงการ “ไม่สนใจ” การโอ้อวด
• ในยุคที่ “quiet luxury” เน้นเรียบง่ายและหรูหาด้วยคุณภาพ การออกแบบให้ดูขาดและถลอกกลับกลายเป็นซีนน่าสนใจ เพราะมันมีเรื่องเล่าและความพังที่สื่อถึงความเป็นตัวเอง
4. สะท้อนความเป็นมนุษย์ในระดับลึก
• Urban และศิลปินหลายคนมองว่า แฟชั่น “พัง” เป็นการสื่อสารถึงความเป็นมนุษย์ และ Individuality ที่ไม่สมบูรณ์แบบ เราชอบความไม่สมบูรณ์นั้นเพราะมันเหมือนชีวิตจริง  
• อีกมุมมองคือ Balenciaga ใช้แนวคิด “made to look distressed” เพื่อสะท้อนวิกฤตสิ่งแวดล้อม และส่งสารเรื่องการใช้สินค้าไม่ใช่แค่แฟชั่นที่เปลี่ยนเร็ว
สรุปแนวคิดเด็ดๆ:
• Provocation Is Strategy — การทำสิ่งที่ดู “บ้า” อย่างเสื้อลุยๆ หรือรองเท้าพัง เป็นเครื่องมือเรียก engagement แน่นอน
• Narrative คือหัวใจ — จะขาย “ขาด” ก็ต้องพร้อมเล่าเรื่องชัด เช่น “wear forever”, “reject luxury norms”, “celebrate flaws”
• โปรเจกต์แบบนี้ ต้องต่อยอด — เช่น upcycling, sustainability messaging หรือทำให้ดู “มีความลึก” ไม่ใช่แค่ gimmick
นี่มันไม่ใช่แฟชั่นแล้ว… นี่มัน อภิปรัชญาแห่งการสร้างแบรนด์
ถ้า Balenciaga บอกว่า “นี่คือแฟชั่น” → ลูกค้าก็พยักหน้าตอบรับ แต่ถ้าให้แม่บ้านตัดเสื้อตัวนี้ให้ใส่ฟรี… เราอาจจะโกรธด้วยซ้ำ 🤣
ทำไมขายได้?
1. เพราะมันคือ Balenciaga
– ไม่ใช่ผ้า ไม่ใช่แพทเทิร์น แต่คือ โลโก้ + การตีความของแบรนด์
2. เพราะเขาขาย Story ไม่ใช่สิ่งทอ
– คนซื้อไม่ได้อยากได้เสื้อ แต่ซื้อความ “กล้าแตกต่าง”
– ใส่แล้วประกาศชัดว่า “ฉันคือคนที่ตามทันโลกแฟชั่น”
3. เพราะแบรนด์ระดับโลกมีสิทธิ์ Rewrite Common Sense
– คนธรรมดาบอก “เสื้อขาด = ทิ้ง”
– Balenciaga บอก “เสื้อขาด = Luxury”
– ลูกค้าบางกลุ่มก็ยอมเปย์เพราะอยาก belong
📌 แต่บทเรียนคือ:
• เสื้อจะขาดยังไงไม่เป็นไร…
• แต่ แบรนด์ห้ามขาด “Purpose” และ “ความจริงใจ” ✨
เพราะถ้าเหลือแต่ขาย Gimmick โดยไม่เหลือคุณค่า วันหนึ่ง จาก High Fashion อาจกลายเป็น Meme ได้เหมือนกัน 💣
เสื้ออาจขาด แต่ Branding ห้ามขาด 💥
อันนี้ไม่น่าจะใช่!?! ล้อเล่น! 🤣
✍🏻 เกร็ดเล็กๆ ของแบรนด์ by BirdBrand - Brand Strategist & Creative Director (ผู้ที่เชื่อในพลังของแบรนด์ที่ไม่ใช่แค่ขายของ แต่เปลี่ยนชีวิตคนได้)
โฆษณา