Namibia Part III
- Ghost Town –
อยากรู้ว่าพอทุกคนได้ยินคำว่า Ghost Town คิดถึงอะไรกัน?
สำหรับนี่คิดถึง กุ๊กกู๋ เรื่องเล่า คือ มันต้องมีผีอะ ไม่อย่างนั้นจะเรียก Ghost Town ทำไม จริงไหม
ขับรถออกจาก AUS ไปทาง Luderitz ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง Ghost Town แล้ว ถนนเส้น B4 ราดยางมะตอยก็จะไปได้เร็วนิดนึง
ถนนดี ไม่ค่อยมีรถ ชับชิลล์ๆ ค่ะ
Ghost Town เปิดให้เข้าตั้งแต่ Sunrise ยัน Sunset ต้องจ่ายตังค์ค่าเข้าด้วย เป็นเงิน 150 NAD สามารถจอง ticket ทาง online (https://kolmanskuppe.com/) ได้หรือว่าจะ walk-in ไปซื้อเลยก็ได้ค่ะ ซื้อตรงทางเข้านี่แหละ ไม่ต้องไป ข้างในมีกาแฟขาย ราคาแพงหน่อย แต่จ่ายเถอะ ไม่อย่างนั้นต้องขับรถไปซื้อที่ Luderitz ที่ห่างออกไปอีก 80 กิโลเลย
ใน Ghost Town เนี่ย จะเดินเที่ยวเองก็ได้ หรือว่าจะไปพร้อม Group Tour ที่มี Guide คอยอธิบายแต่ละจุด แนะนำว่าถ้าจะเที่ยวให้อิน ไปกับไกด์เถอะ แล้วคุณจะว้าวในทุกสิ่งที่เขาเล่าเลย~ ซึ่ง group Tour นี่ก็ไม่ต้องไปหาจากที่ไหนค่ะ เขาจะถามตอนเราเดินเข้าตึกไปเลย ว่าจะไปพร้อมเขาหรือจะเดินเที่ยวเอง
บรรยากาศภายในเมือง เอาจริงๆ เหมือนจะเดินเหนื่อย แต่ว่าแป๊บๆ ก็เก็บกรบแล้วค่ะ
Ghost Town มีชื่อจริง ว่า Kolmanskopp
เดิมเป็นเหมืองเพชรของชาวดัทช์ เมื่อก่อนก็รุ่งเรืองเชียว ถึงขนาดที่ตั้งเป็นชุมชน สร้างทางรถไฟมาเพื่อขนสินค้าไปส่งเมืองอื่น มีคลองส่งน้ำจาก Luderitz ลักษณะบ้านในเมืองจะออกแนว Colonial หน่อย มีโรงเรียน โรงพยาบาล ร้านขายหมูที่มีตู้เย็น บ้าน Mayor ใดๆ มีแม้กระทั่งรถรางวิ่งในเมือง ก็ไม่เข้าใจว่ามีทำไมเพราะเมืองมันเล็กจิ๊ดเดียว แต่ไกด์บอกว่า มันก็เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับคนในเมือง
พี่สาวไกด์นำเที่ยวเล่าว่า แต่ก่อนคนในเหมืองจะต้องไปทำงานในเหมือง 2 เดือนติดๆ เลย ส่วนครอบครัวก็อยู่ในเมืองนี่แหละ ใครทำงานในเหมืองก็รวยไป แต่ก็ต้องแลกกับคุณภาพชีวิตที่แย่สุดๆ แต่บางคนก็ยอมอะ เพราะเงินดีจริง
ที่เขาตั้งเป็นชุมชนเพราะอยากจะอำนวยความสะดวกให้กับคนที่มาทำเหมืองนี่แหละ คิดดูว่าก่อนมีคนมาทำเหมือง เมื่อก่อนมันก็เป็นทะเลทรายนี่แหละ แต่กว่าจะ develop มาเป็นเมืองที่ให้คนอยู่และ facility เยอะขนาดนี้ เจ้าของไอเดียคือเจ๋งมาก เขาดูใส่ใจคนทำงานอะ
ไปดู Map ในเมืองกันค่ะ
เล็กแบบนี้เรียกเมืองได้ไหม
อ้าว แล้วทำไมเรียก Ghost Town
“ก็เป็นเมืองร้างอะค่ะซิส มันไม่มีคนอยู่แล้ว ก็เลยเรียก Ghost Town” พี่สาวไกด์ว่าอย่างนั้น
อะ เล่าต่อ
ไม่มีสิ่งใดจีรังอะ เมืองที่เคยรุ่งเรือง มันก็ล่มสลายได้เหมือนกัน ไกด์เล่าว่า พอเพชรหมด ราวๆ ปี 1950 คนก็อพยพออกจากเมืองไปจนหมด สุดท้ายทะเลทรายก็ take over พื้นที่คืนไป
หลังจากนั้นก็มีบริษัทมาบูรณะเมืองให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ซึ่งการทำธุรกิจในลักษณะนี้ส่วนหนึ่งก็ช่วยให้คนนามิเบียมีงานทำ สร้างงานสร้างอาชีพกันไป อีกส่วนหนึ่งก็ .. ธุรกิจอะ ว่าจะเขียน model ธุรกิจนี้แยกอีก section หนึ่ง เพราะว่าน่าสนใจดี
พาไปเดินดูแต่ละจุดในเมืองกันค่ะ
1. Ghost Tavern
เป็นตึกที่ให้ความรู้สึกเป็น Reception ของโรงแรมอะ ใครไปใครมาก็ต้องเข้าไปที่ตึกนี้ก่อน เพราะมีทั้งส่วนที่จองทัวร์เดินเที่ยว อาหาร ห้องน้ำ ร้านขายของที่ระลึก อาคารมีลักษณะเป็นตึก 2 ชั้น สไตล์ Colonial เดิมเป็น Bar กับ Casino มาก่อน
2. Butcher
จะบอกว่าส่วนที่ว้าวที่สุดในเมืองคือตู้เย็นของร้านขายหมู เขามีตู้เย็นด้วย จับใจความจากที่ไกด์เล่ามาว่า การสร้างไม่ได้ยากอะไร แค่สร้างโครงขึ้นมา ต่อท่อที่เชื่อมกับ Central Ice Factory ที่มีการทำน้ำแข็งจาก Saltwater (น้ำทะเลใช่ไหม?) ใช้ Ammonia สร้างความเย็นให้ Saltwater แล้วให้มัน Circulate อยู่ข้างในทั้งวัน แค่นั้นก็ได้ตู้เย็นแล้ว
วิศวกรรมของดัทช์นี่ไม่ธรรมดาอะ
3. Bakery
อาคารนี้ถือเป็นแหล่งอาหารของเมืองก็ว่าได้ เพราะคนยุโรปกับ Bakery มันขาดกันไม่ได้ใช่ไหม 55 ในร้านไม่มีอะไรมาก มีเตาอบ Bakery ใดๆ สภาพข้างในยังค่อนข้างสมบูรณ์อยู่ ถ่ายรูปสวยอะ
4. Hospital
เป็นอาคารชั้นเดียวแนวยาว ที่อยู่ท้ายเมือง ให้ความรู้สึกขนหัวลุก เหมือนอยู่ใน Asylum อะ มันกุ๊กกู๋บอกไม่ถูก แล้วตอนเดินเที่ยว เดินคนเดียว เลยรีบเดินรีบวิ่งออกค่ะ 555
5. Haus des Minenverwalters
Haus = House des = of Minevenwaters = Mine Manger?
แปลเอง งงเอง อาคารนี้คือ บ้านของผู้จัดการเหมืองค่ะ บ้าน 2 ชั้น แนวๆ Colonial สภาพข้างนอกสมบูรณ์มาก ส่วนข้างใน ก็เสื่อมโทรมตามสภาพค่ะ เดินขึ้นชั้น 1 2 ได้ ไม่อันตรายค่ะ
6. ส่วนอื่นๆ ที่ชอบ
ชอบต้นไม้ค่ะ 555
น้องเป็นต้นไม้เล็กๆ อวบอ้วน อมน้ำเยอะ พี่สาวไกด์บอกว่าให้ลองเด็ดออกมา แล้วบีบ ก็จะเห็นว่ามีน้ำไหลออกมา แต่กินแล้วยังมีชีวิตอยู่รึเปล่าก็อีกเรื่องนึ่ง ทางนี้ก็ทำตามโดยเด็ดแล้วบีบ แต่ไม่กล้ากินค่ะ ต้องกลับบ้านไปหาแม่ 555
Open-Close Time
- จันทร์ - ศุกร์ เปิด 8.00 – 15.00 น. (ในเว็บบอกว่าปิดวันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
- ทัวร์ มีจันทร์ - เสาร์ ตั้งแต่ 9.30 – 11.00 น. ใช้เวลาเดินทัวร์ประมาณ 45 – 60 นาที
- งงตรงที่ว่า มี day pass ที่เปิดให้เข้าตั้งแต่ 6.00 – 19.00 (sunrise – sunset ค่ะ เผื่อใครอยากถ่ายรูปสวยๆ)
Ticket Price
- 150 NAD ต่อคน สำหรับ Guide Tour ไม่ต้องจ่ายเพิ่มนะ
- มันมี Photography Package ด้วย 350 NAD ค่ะ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
