👉 ความจริงเบื้องหลังขาดดุล: เหรียญอีกด้านที่ทรัมป์ไม่พูดถึง
1️⃣ สหรัฐฯ เกินดุลบริการสูงสุดในโลก
ขาดดุลสินค้า ≠ ขาดดุลทั้งหมด
โดนัลด์ ทรัมป์ มักชี้นิ้วว่า “อเมริกาขาดดุลการค้าเพราะถูกเอาเปรียบ”
แต่สิ่งที่เขาไม่พูดถึง คืออีกด้านของเหรียญ
🇺🇸 สหรัฐฯ คือ “ประเทศที่เกินดุลบริการมากที่สุดในโลก”
ในปี 2024
📈 ส่งออกบริการ: 1.107 ล้านล้านดอลลาร์ (7.9% YoY)
✈️ คิดเป็น 13% ของการส่งออกบริการทั้งโลก
💻 กว่า 60% มาจาก Digital Services—แอป ซอฟต์แวร์ ค่าลิขสิทธิ์ บริการทางการเงิน ทรัพย์สินทางปัญญา ฯลฯ
🌍 ตลาดหลัก: สหราชอาณาจักร แคนาดา ไอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ จีน
แม้นำเข้าบริการจะสูงถึง 812 พันล้านดอลลาร์ (+8.6% YoY)
แต่ก็ยังคง เกินดุลบริการถึง 295 พันล้านดอลลาร์
สูงที่สุดในโลก และเพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน
🔍 มองลึกกว่านั้น...
“บริษัทสหรัฐฯ ที่ขายบริการผ่านสาขาในต่างประเทศ” ในปี 2022
• รายได้รวม 2.114 ล้านล้านดอลลาร์
• ซื้อกลับเพียง 1.518 ล้านล้านดอลลาร์
→ เกินดุลเพิ่มอีก 💵 596 พันล้านดอลลาร์
📍 รวมแล้ว สหรัฐฯ เกินดุลบริการเกือบ 900 พันล้านดอลลาร์/ปี
เกือบเทียบเท่ากับ “ตัวเลขขาดดุลการค้า” ที่ทรัมป์ใช้โจมตีจีนอยู่เสมอ
2️⃣ จีนได้ดุลสินค้า... แต่ขาดดุลบริการ
เบื้องหลังตัวเลขที่วอชิงตันใช้โจมตี
📦 จริงอยู่
จีนเกินดุลสินค้ากับสหรัฐฯ มหาศาล
แต่นั่นคือ “ครึ่งเดียวของเรื่องราว”
ปี 2024:
🇨🇳 จีนขาดดุลบริการถึง 229 พันล้านดอลลาร์
รายการที่จีนขาดดุลหลัก ๆ คือ:
✈️ การท่องเที่ยวต่างประเทศ
💽 ค่าลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
💼 บริการการเงินและธุรกิจ
🎓 ค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา
ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ได้ดุลจากบริการเหล่านี้
ผ่านบริษัทเทคฯ และสถาบันการเงิน: Apple, Google, Microsoft, Visa ฯลฯ
📍 หากนับรวม “การค้าสินค้า + บริการ”
ดุลระหว่างสองประเทศนี้ อาจจะสมดุล
🔁 และถ้ามองลึกลงไปอีก...
รายได้จากบริษัทสหรัฐฯ ในจีนที่ทำกำไรมหาศาล
→ ไม่ถูกนับเป็น “การส่งออก”
→ แต่เป็น “รายได้จากการลงทุน”
🧩 สุดท้ายแล้ว...
• จีนได้ดุลสินค้า
• สหรัฐฯ ได้ดุลบริการ + รายได้จากทรัพย์สินในจีน
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอาจสมดุลกว่าที่ทรัมป์หรือสื่ออเมริกันพูดถึง
แต่โลกกลับเห็นแค่ “ด้านเดียวของเหรียญ” ที่มีคนเลือกจะพูด
3️⃣ Global Supply Chain ทำให้ตัวเลขขาดดุล “หลอกตา”
iPhone ผลิตในจีน แต่กำไรกลับไปสหรัฐฯ แล้วขาดดุลจริงหรือ?
📱 iPhone ออกแบบที่สหรัฐฯ ผลิตโดย Foxconn ที่จีน
แล้วส่งกลับมาขายในอเมริกา
ในเชิงสถิติ iPhone 1 เครื่อง
→ ถูกนับว่า “สหรัฐฯ นำเข้าจากจีน” เต็มมูลค่า ≈ 400–500 ดอลลาร์
ทั้งที่ “จีนได้มูลค่าเพิ่มเพียง 3–5% เท่านั้น”
ส่วนที่เหลือ:
• ค่าชิปจากเกาหลีใต้ 🇰🇷
• หน้าจอจากญี่ปุ่น 🇯🇵
• ระบบปฏิบัติการจากสหรัฐฯ 🇺🇸
• และกำไร...กลับไปอยู่ที่ Apple ในอเมริกา
🎯 ปัญหาคือ:
ดุลการค้า “นับตามประเทศสุดท้ายที่ประกอบสินค้า”
จีนจึงถูกบันทึกว่า “ได้ดุลมหาศาล” ทั้งที่เป็นแค่ผู้ประกอบขั้นสุดท้าย
📊 รายงานของ OECD และ WTO ชี้ว่า
หากวัด “มูลค่าเพิ่มที่แท้จริง” (Trade in Value-added)
ดุลการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะ ลดลงครึ่งหนึ่ง
🌀 ในโลกที่ supply chain พัวพันหลายประเทศ
การวัดความได้เปรียบเสียเปรียบทางการค้า
ต้องมองว่า “ใครได้มูลค่าเพิ่ม” มากกว่า “ใครส่งออก”
เรื่องและภาพ: สราลี วงษ์เงิน Economist, Bnomics
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economist, Bnomics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
#เศรษฐกิจโลก #สงครามการค้า #ดุลการค้า #ธนาคารกรุงเทพ #Bnomics #BBL #BangkokBank
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
