เมื่อวาน เวลา 10:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ประเทศไทยในโลกใหม่ จะเป็น “กระต่ายหรือเต่า” 🐰🐢

เราทุกคนเคยได้ยินนิทานเรื่อง “เต่ากับกระต่าย” เรื่องของความพยายามเอาชนะพรสวรรค์ เรื่องของผู้ช้าแต่ไม่หยุดเดิน กับผู้เร็วแต่หลงลืมเป้าหมาย
แต่เมื่อมองผ่านสายตาเศรษฐศาสตร์ นิทานนี้ไม่ได้จบลงแค่เรื่อง “ใครถึงก่อน” หากแต่สะท้อนโครงสร้างของสังคม เศรษฐกิจ และนโยบาย ที่หล่อหลอมให้แต่ละ “ตัวละคร” ในระบบเริ่มต้นต่างกัน มีจังหวะเดินต่างกัน และเผชิญกับอุปสรรคที่ซ่อนอยู่ภายใต้พื้นสนามแข่งเดียวกัน
ในวันที่โลกเปลี่ยนผ่านอย่างรวดเร็ว “เต่า” อย่างประเทศไทยควรเดินอย่างไร? และ “สนามแข่งขัน” นี้... ยังเหมาะกับเราอยู่หรือไม่?
บทที่ 1: จุดสตาร์ทไม่เคยเท่ากัน
วันหนึ่ง เสียงลือกระฉ่อนว่า "เจ้ากระต่าย" ผู้ว่องไว กับ "เจ้าเต่า" ผู้เชื่องช้า จะประลองความเร็วกัน
แต่ก่อนเสียงนกหวีดเริ่มแข่ง ไม่มีใครเอ่ยถึงข้อเท็จจริงที่ว่า —กระต่ายเกิดมาพร้อมขาแข็งแรง กล้ามเนื้อว่องไว ทุ่งโล่งเบื้องหน้าคือสนามของเขา
ส่วนเต่า... แบกกระดองหนัก ๆ มาตั้งแต่เกิด ก้าวแต่ละก้าวคือความพยายามเท่ากับวิ่งของกระต่ายเป็นร้อยเท่า
เศรษฐกิจจริงก็เช่นกัน ในโลกที่ใคร ๆ พูดถึง "ความพยายาม" ไม่ค่อยมีใครพูดถึง "จุดเริ่มต้น" ที่ไม่เคยเท่าเทียม
เหมือนประเทศไทยที่ยังเผชิญกับ "ภาระกระดอง" จากโครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งแรงงานราคาถูก การศึกษาไม่ทั่วถึง หนี้ครัวเรือนสูง และระบบราชการที่ซับซ้อน
แม้ต้องแข่งขันในตลาดโลกเหมือนกัน แต่เรามีต้นทุนแอบซ่อนในทุกก้าวเดิน และที่น่าเศร้าคือ... โลกไม่ได้ลดเส้นชัยให้สักเมตรเดียว
บทที่ 2: หลับในกลางสนาม
กระต่ายออกตัวพุ่งไปข้างหน้า ทิ้งเต่าไกลลิบในพริบตา จนรู้สึกว่า "ไม่มีอะไรต้องห่วง" จึงหย่อนตัวลงนอนกลางทาง ปล่อยเวลาไหลผ่านไปอย่างช้า ๆ
ในเศรษฐศาสตร์ นี่คือกับดักของ "ผู้ชนะ" — winner’s trap เมื่อได้เปรียบมากเกินไป จิตใจมักประมาท ระบบมักหยุดพัฒนา
หลายประเทศเคยเป็นแบบนั้น เมื่ออิ่มตัว กำลังผลิตถดถอย โครงสร้างประชากรแก่ลง แต่ยังคิดว่าตัวเอง “เร็วพอ” โดยลืมไปว่า “สนามเศรษฐกิจไม่มีเส้นชัยถาวร”
ประเทศไทยเองก็เผลอหลับกลางทาง หลังยุคส่งออกเฟื่องฟู เราเติบโตอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเร่งเครื่อง แต่ไม่ปรับโครงสร้างแรงงาน ไม่สร้างนวัตกรรม ไม่ยกระดับคุณภาพชีวิต
เราจึงติดกับดักรายได้ปานกลาง เพราะขาดทั้งทักษะใหม่ และการลงทุนด้านเทคโนโลยี วันนี้โลกเปลี่ยนเร็วจนคนอื่นใช้ AI บินไปข้างหน้า แต่ไทยยังวิ่งอยู่บนสนามเดิม ที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อที่เราลืมซ่อม
บทที่ 3: เดินช้า...แต่ไม่หยุด
เจ้าเต่าแม้จะก้าวสั้น ๆ แต่ก็ไม่เคยหยุดเดิน ไม่เคยลืมเป้าหมาย
ในเศรษฐศาสตร์ นี่คือบทเรียนเรื่อง “Compounding Effect”
การเติบโตเล็ก ๆ แต่ต่อเนื่อง มีพลังมหาศาลในระยะยาว
ประเทศที่ไม่เคย "โตพรวดพราด" แต่ยืนหยัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การศึกษา และเทคโนโลยีอย่างสม่ำเสมอ เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน หรือเกาหลีใต้ สุดท้ายกลับสามารถแซงประเทศที่เคยหลับกลางทางได้
สำหรับไทย หากเรายอมรับว่าเราอาจไม่ใช่กระต่าย แต่เป็น "เต่าที่ต้องไม่หยุด" เรายังมีโอกาสสร้างอนาคตได้... แม้จะต้องแบกกระดองหนัก ๆ ไปอีกไกล
แม้เรายังไม่ใช่ผู้นำด้านเทคโนโลยี แต่เรากำลังเริ่มพัฒนาเมืองอัจฉริยะ รถยนต์ไฟฟ้า และปัญญาประดิษฐ์ แม้โครงสร้างแรงงานยังไม่ยืดหยุ่น แต่หากเดินไปในทิศทางของนโยบายที่ถูกต้อง ทั้งการยกระดับทักษะ (upskill) การสร้างความเข้าใจด้าน AI และการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว
เรายังสามารถ “ปั้นเส้นชัยของตัวเอง” ได้
บทที่ 4: เส้นชัย...ของใครกันแน่?
สุดท้าย... เต่าเดินถึงเส้นชัยก่อนกระต่ายจริง ๆ แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ “ใครถึงก่อน” คือ “ใครไม่หยุดเดิน” ต่างหาก
ในโลกเศรษฐกิจ ไม่มีเส้นชัยถาวร ไม่มีประเทศที่เป็นที่หนึ่งตลอดกาล มีแต่การแข่งขันต่อเนื่อง ที่ใครสามารถ “รักษาความต่อเนื่อง” และ “ไม่หลงตัวเอง” ได้มากกว่ากัน
ประเทศไทยในวันนี้ กำลังยืนอยู่ตรงทางแยกสำคัญ ระหว่างการ “เดินต่อไป” อย่างมั่นคง หรือ “วนกลับไปสนามเดิม” ที่เต็มไปด้วยกับดัก
การเติบโตทางเศรษฐกิจ อาจไม่ใช่เรื่องของการวิ่งเร็วกว่าประเทศอื่น แต่คือการไม่หยุดลงทุนกับ “สิ่งที่เห็นผลช้า แต่เปลี่ยนอนาคต” เช่น การศึกษา สาธารณสุข การวิจัย การจัดการหนี้ และระบบบำนาญ
สนามแข่งขันของเราไม่ง่าย มีทั้งภูเขาแห่งเทคโนโลยี ทะเลของความเหลื่อมล้ำ และพายุจากความไม่แน่นอนของโลก
แต่หากเราไม่หยุดเดิน “เส้นชัย” จะไม่ใช่แค่จุดสิ้นสุด แต่จะกลายเป็น “การเริ่มต้นใหม่ในทุกวัน”
บทส่งท้าย: เต่าในยุค AI ต้องเดินแบบไหน?
⏳ความช้าแบบเดิมอาจไม่พออีกต่อไป ในยุคที่ประเทศต่าง ๆ ใช้ AI ปรับนโยบาย สร้างหุ่นยนต์ทดแทนแรงงาน เต่าที่เดินช้าแต่มั่นคง หากไม่ปรับตัว ก็อาจกลายเป็นผู้หลงทางโดยไม่รู้ตัว
🧭เต่าต้องมี "เข็มทิศดิจิทัล" นั่นคือ การที่ไทยต้องลงทุนใน Digital Literacy, AI Infrastructure, และ Data Economy ไม่ใช่แค่ในเมืองหลวง แต่กระจายถึงหมู่บ้าน ครู เกษตรกร SME และแรงงานทุกระดับ
💡เดินแบบ "เต่าที่คิดเป็นระบบ" AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี แต่มันคือระบบความคิดใหม่ ถ้ารู้จักใช้เครื่องมือ รู้จักปรับกลยุทธ์ และเข้าใจจังหวะของตัวเอง แม้จะช้า... แต่ก็อาจถึงเป้าหมายก่อนใคร
เรายังมีแรงงานที่ไม่มีทักษะดิจิทัลอีกนับล้าน มี SME ที่ไม่เคยรู้จัก Data Analytics และโรงเรียนที่ยังไม่มีอินเทอร์เน็ตให้ครูเปิดคลิปสอน
ถ้าเราไม่เร่ง... เต่าไทยจะไม่แค่ช้า — แต่จะ “หลุดออกจากสนามแข่ง” ไปเลย
🔚สรุป: เดินต่อ... แต่ต้องเปลี่ยนวิธีเดิน เต่าในยุค AI ไม่จำเป็นต้องกลายเป็นกระต่าย แต่ต้องเดินให้สอดคล้องกับระบบนิเวศใหม่ ที่เต็มไปด้วยข้อมูล ความรู้ และเครื่องมืออัจฉริยะ
เพราะในโลกยุคนี้ “ความช้า” อาจยังมีที่ยืน แต่ “ความไม่เข้าใจเทคโนโลยี” ไม่มีที่ยืนแน่นอน
เรื่องและภาพ: ธนโชติ นนทกะตระกูล Economist, Bnomics
════════════════
Bnomics - Bangkok Bank Economics
'Be an Economist for Everyone'
วิเคราะห์ เจาะทุกประเด็นเศรษฐกิจ ให้เป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณ
════════════════
#เต่ากับกระต่าย #ความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้าง #กับดักรายได้ปานกลาง #ธนาคารกรุงเทพ #Bnomics #BBL #BangkokBank
โฆษณา