โชคชะตา ..... ทำให้กลับมา (อีกครั้ง)
“ลูกเป็นแบบนี้จะเรียน ป ตรีใบที่สองอีกหรือ” เสียงของแม่ดังขึ้นเมื่อรู้ว่าผู้เขียนจะทำอะไร
หลังจากเรียนจบปริญญาตรีใบแรกจาก มสธ วันเวลาก็ได้ผ่านไป7 ปี ผู้เขียนได้กลับมาเป็นนักศึกษาอีกครั้งโดยการเรียนปริญญาตรีใบที่2 ที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เข่นเดิม
ที่กลับมาอยู่ในสถานะนักศึกษาอีกครั้งก็เพราะความเครียดจากการสอนพิเศษ กอปรกับต้องการเพิ่มพูนความรู้ทางด้านสังคมวิทยา จึงเลือกที่นี่ ผู้เขียนได้เลือกเรียน สาขาไทยคดีศึกษาหลักสูตรเทียบโอน2 ปีในสาขานี้เราจะได้เรียนรู้ทั้งรายวิชาทางด้านภาษาไทย และรายวิชาทางด้านสังคมศาสตร์แต่จะหนักไปทางด้านสังคมศาสตร์มากกว่า
แต่การเรียนก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด ผู้เขียนต้องเผชิญกับปัญหาสุขภาพ อันเนื่องมาจากการได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ทำให้มีปัญหาทางด้านระบบประสาท ซึ่งผลกระทบของมันก็คือ การมึนหัว และปวดหัวอย่างรุนแรง บางครั้งก็มีอาการอยากอาเจียน สมองจะไม่รับรู้ในสิ่งที่เรียน
เมื่อเรียนวิชาที่ซับซ้อนอาการก็จะปรากฏขึ้น จะหนักจะเบาก็ขึ้นกับรายวิชายิ่งซับซ้อนก็ยิ่งเป็นมาก ซึ่งอาการที่ผู้เขียนเป็นนั้นมาปรากฏรุนแรงขึ้น ในช่วงปีที่2 และยังไปปรากฏในค่าอบรมประสบการณ์วิชาชีพไทยคดีศึกษาที่ มสธ นนทบุรี
การอบรมครั้งนี้ต้องขอบอกว่าไม่ชิว แถมเครียดอีกต่างหากผู้เขียนรู้สึกทรมานมากโดยเฉพาะถ้าเจอฐานกิจกรรมและอาจารย์ประจำฐานที่กดดันจะเกิดความเครียดได้ง่าย
ผู้เขียนจำได้ว่าในคืนที่สองของการอบรมเป็นคืนที่พวกเราต้องนั่งอยู่ในห้องเรียนตั้งแต่หนึ่งทุ่มถึงสี่ทุ่มเพื่อทำการนำเสนอ (ไม่ได้ออกไปไหน) ไม่มีการเบรกใด ๆทั้งสิ้น ต้องอยู่ในห้องเพื่อรออาจารย์เรียกชื่อให้ทำกิจกรรมการซักถามกลุ่มที่นำเสนอ คืนนั้นผู้เขียนก็เริ่มมีอาการมึน เบลอ งง และมีอาการเกร็ง จนแทบอยากชวนใครสักคนออกไปข้างนอก
จุดที่พีคที่สุดก็คือในช่วงกลางๆคาบผู้เขียนได้หยิบพิมเสนขึ้นมาดม( ถ้าเพื่อนร่วมอบรมสังเกตดี ๆ จะเห็นหญิงสาวคนหนึ่งมักจะจะหยิบพิมเสนขึ้นมาดม พร้อมถือไว้ในมือตลอดเวลา) เรียกว่าเป็นของที่ต้องมี ขาดไม่ได้
ความในใจ
สุดท้ายผู้เขียนก็จบการศึกษาภายในเวลาที่กำหนด ขอจบแบบจบแล้วจบเลย และจะไม่มีการศึกษาต่ออีกแล้ว เพราะการเรียนในแต่ละครั้งแต่ละวิชา สิ่งที่ผู้เขียนต้องแลกกับเกรด ก็คือคราบน้ำตาและความเจ็บปวดทางระบบประสาท
แม้แต่ในระหว่างทำการสอบก็จะมีอาการ เกร็ง มึน ปวดหัว แต่ก็ผ่านพ้นมาด้วยดี จึงขอเขียนบทความนี้มาเพื่อเตือนใจว่า ผู้ที่มีปัญหาทางระบบประสาท ถ้าคิดจะเรียนเพิ่มเติม ควรเป็นสาขาที่สบาย (ถ้าไม่สบายอย่าหาทำ)
ส่วนญาติพี่น้องก็ควรเข้าใจไม่ควรจะดูถูกดูแคลนลูกหลานหรือ ญาติพี่น้อง ที่ไม่สามารถเรียนในระดับที่สูง เรียนไม่เก่ง หรือเรียนในคณะที่ไม่เด่นตลอดจนมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้รับความนิยม ไม่ใช่เห็นว่าเขาพูดได้ทำอะไรได้เหมือนคนอื่น เขาจะสามารถทำอะไรได้ตามปกติมันไม่ใช่เลย ผู้ที่เคยได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองจะมีอาการดังที่กล่าวมาไม่หายไป จึงไม่อยากให้คาดหวังอะไรมากกับผู้ที่เป็นแบบนี้
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
