28 ส.ค. เวลา 07:07 • ธุรกิจ
Kasikorn

เงื่อนไขกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ต้องระวัง

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ PVD ถือเป็นสวัสดิการสำคัญของพนักงานประจำ ที่ช่วยให้มีเงินเก็บเพิ่มขึ้นจากทั้ง “เงินสะสมของเรา” และ “เงินสมทบจากนายจ้าง” แต่ปัญหาคือ… ถ้าเกษียณก่อนกำหนด หรือออกจากงานก่อนเวลา สิทธิที่คิดว่าได้ อาจหายไปบางส่วน
เงินจาก PVD มี 3 ส่วน
เงินสะสมของเราเอง → ถอนออกได้ ไม่เสียภาษี เพราะเป็นเงินที่เราจ่ายไปแล้ว
เงินสมทบจากนายจ้าง → มีเงื่อนไข อาจถูกหักภาษี หรือแม้กระทั่งถูกริบคืน
ผลประโยชน์ (ดอกผล/กำไรจากการลงทุน) → มีโอกาสเสียภาษีถ้าไม่ครบเงื่อนไข
เงื่อนไขภาษี
ถ้า อายุ ≥ 55 ปี และเป็นสมาชิกกองทุน ≥ 5 ปี → ได้รับยกเว้นภาษีทั้งก้อน (เงินสมทบและผลประโยชน์ไม่เสีย)
ถ้า ลาออกก่อนครบเงื่อนไข → เงินสมทบ + ผลประโยชน์ ต้องเสียภาษีตามขั้นบันไดทันที
สิทธิเงินสมทบที่อาจถูกริบ
หลายคนไม่รู้ว่า…เงินสมทบจากนายจ้าง ไม่ใช่ว่าจะได้ทั้งหมดเสมอไป
แต่ละบริษัทจะมี “ข้อบังคับกองทุน” เช่น ต้องทำงานครบ 10 ปีถึงจะได้ 100%
ถ้าออกก่อน เช่นแค่ 5 ปี อาจได้แค่ 50% หรือในบางกรณีอาจถูกริบคืนทั้งหมด
ทางเลือกจัดการ
ถ้าไม่อยากเสียสิทธิหรือโดนหักภาษี มี 3 วิธีหลัก ๆ
ถอนเป็นเงินก้อน → สะดวก แต่ภาษีสูงถ้าไม่ครบเงื่อนไข
โอนเข้า RMF for PVD หรือ RMF ที่รับโอน → ไม่โดนภาษี และเลื่อนไปใช้ตอนเกษียณจริง
ทยอยรับเป็นบำนาญ → ลดภาษีแต่ละปี เพราะรายได้ไม่พุ่งขึ้นในปีเดียว
Insight สำคัญ
หลายคนมอง PVD ว่าเป็น “เงินเก็บที่แน่นอน” แต่จริง ๆ แล้ว ถ้าเกษียณก่อนหรือออกจากงานก่อน อาจโดนทั้ง ภาษี และ เสียสิทธิเงินสมทบ ไปพร้อมกัน การอ่านข้อบังคับกองทุนของบริษัทตัวเอง และวางแผนว่าจะถอน โอน หรือทยอยรับ จึงเป็นสิ่งที่ต้องคิดตั้งแต่วันนี้
👉 แล้วคุณล่ะครับ รู้หรือยังว่าเงิน PVD ของคุณ “จะได้ครบจริง ๆ หรือเปล่า”?
คอมเมนต์มาแลกเปลี่ยนกันครับ ✨
โฆษณา