รู้จักกฎหมายระหว่างประเทศ ว่าด้วย 'สิทธิเด็ก' และบทเรียนจากกรณีเด็กสุรินทร์
.
กรณีข่าวที่เด็กในจังหวัดสุรินทร์ถูกจับกุมเพราะเป็นบุตรหลานของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา สร้างคำถามสำคัญขึ้นมาอีกครั้งว่า “สิทธิของเด็ก” ควรได้รับการคุ้มครองอย่างไร ในสังคมที่พรมแดนมนุษยธรรมไม่ควรถูกจำกัดด้วยเชื้อชาติหรือสัญชาติ
กฎหมายระหว่างประเทศและสิทธิเด็ก
.
ระดับโลกมีกรอบสำคัญคือ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child: CRC) ที่สหประชาชาติประกาศใช้ในปี 1989 และปัจจุบันมีประเทศภาคีเกือบทั้งหมดของโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย
หลักใหญ่ของ CRC คือ
การไม่เลือกปฏิบัติ – เด็กทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมโดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ เชื้อชาติ ศาสนา หรือสถานะทางกฎหมายของพ่อแม่
.
ผลประโยชน์สูงสุดของเด็ก (Best Interests of the Child) – การตัดสินใจใด ๆ ของรัฐต้องยึดประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นหลัก
.
สิทธิในการมีชีวิตรอดและพัฒนา – เด็กทุกคนมีสิทธิในชีวิต สุขภาพ การศึกษา และการพัฒนาเต็มศักยภาพ
.
สิทธิในการมีส่วนร่วม – เด็กมีสิทธิแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่กระทบชีวิตของตน
นอกจากนี้ ยังมี กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) และ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ICESCR) ที่ย้ำว่ามนุษย์ทุกคน—รวมถึงเด็กไร้สัญชาติหรือเด็กข้ามชาติ—ต้องได้รับการคุ้มครองในสิทธิขั้นพื้นฐาน
ประเทศไทยเป็นภาคีอนุสัญญาสิทธิเด็กมาตั้งแต่ปี 1992 และมีกฎหมายภายใน เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือการบังคับใช้กฎหมายและทัศนคติของสังคมที่มักมองเด็กต่างด้าวเป็น “ผู้บุกรุก” มากกว่าผู้บริสุทธิ์ที่สมควรได้รับการคุ้มครอง
กรณีเด็กสุรินทร์จึงสะท้อนช่องว่างระหว่าง หลักการสากล กับ การปฏิบัติจริง ของรัฐไทย—เด็กไม่ควรถูกจับกุมหรือตีตราเพียงเพราะพ่อแม่เป็นแรงงานต่างชาติ
.
หลายประเทศ เช่น แคนาดา เยอรมนี และออสเตรเลีย มีนโยบายเน้นการคุ้มครองเด็กก่อนเสมอ แม้จะมีปัญหาเรื่องคนเข้าเมืองผิดกฎหมายก็ตาม เด็กจะถูกจัดให้มีที่พักปลอดภัย การศึกษา และการเข้าถึงบริการสาธารณสุขโดยไม่เลือกปฏิบัติ ขณะที่ในบางประเทศเอเชีย เช่น ฟิลิปปินส์ ก็กำหนดชัดว่า เด็กทุกคนในดินแดนต้องได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน
ประเทศไทยควรมีมาตรการที่ชัดเจน เช่น ห้ามจับกุมหรือกักขังเด็กเพียงเพราะสถานะของพ่อแม่
จัดให้เด็กทุกคนเข้าถึงการศึกษาและสาธารณสุขขั้นพื้นฐาน สร้างระบบคุ้มครองเด็กข้ามชาติที่สอดคล้องกับ CRC
.
สื่อมวลชนและสังคมควรเปลี่ยนมุมมอง ไม่มองเด็กต่างด้าวเป็น “ภัย” แต่เป็น “มนุษย์ตัวเล็ก” ที่มีสิทธิเท่าเทียม
.
กรณีสุรินทร์คือภาพสะท้อนว่า สังคมไทยยังต้องเรียนรู้และพัฒนาอีกมากในการเคารพกฎหมายสิทธิมนุษยชนสากล โดยเฉพาะเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับเด็ก การคุ้มครองพวกเขาไม่ใช่เพียงหน้าที่ตามกฎหมาย แต่เป็น “บททดสอบความเป็นมนุษย์” ของสังคมไทยในสายตาโลก
.
𝗛𝗮𝗰𝗸 𝗸𝗻𝗼𝘄𝗹𝗲𝗱𝗴𝗲, 𝗖𝗿𝗮𝗰𝗸 𝗗𝗮𝘁𝗮
ชวนต่อจุดความคิด แต้มเติมความรู้
• กดติดตามเราได้ทุกช่องทาง•
𝗙𝗔𝗖𝗘𝗕𝗢𝗢𝗞 | 𝗜𝗡𝗦𝗧𝗔𝗚𝗥𝗔𝗠 | 𝗕𝗟𝗢𝗖𝗞𝗗𝗜𝗧 | 𝗫 |𝗧𝗜𝗞𝗧𝗢𝗞 |
#CrackyTH #สำนักข่าวแคร็กกี้ทีเอช #สำนักข่าวโลกอนาคต #HackKnowledge #CrackData #สิทธิเด็ก #กฎหมายระหว่างประเทศ #สิทธิมนุษยชน #เด็กข้ามชาติ
#อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก #เด็กสุรินทร์
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
