30 ส.ค. เวลา 02:24 • ธุรกิจ

🧨 “คนจริง หรือ คนลวง”

(การกรองสตาร์ทอัพในยุคที่ภาพลักษณ์พูดดังกว่าความจริง)
“ภาพ pitch สวยมากเลยครับ” — ประโยคนี้คือกับดัก
ในยุคที่การ present สำคัญพอๆ กับ product และสื่อโซเชียลช่วย amplify ภาพลักษณ์ของสตาร์ทอัพได้ภายในคืนเดียว คำถามคือเราจะกรอง “คนจริง” ออกจาก “คนลวง” ได้อย่างไร? โดยเฉพาะในองค์กรใหญ่ที่มีแผนลงทุน หรืออยากจับมือกับ tech startup มาเร่งนวัตกรรม
แม้หลายบริษัทจะมีหน่วยงาน CVC (Corporate Venture Capital) หรือหน่วย InnoX ที่ตั้งมาเพื่อลงทุน แต่ในทางปฏิบัติ ยังมีหลายองค์กรที่ “หลงเชื่อ” presentation ที่สวยจัด แต่หลังบ้านยังวุ่นวาย ไม่มี unit economics ที่ sustainable หรือยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า product ของตัวเอง solve real problem หรือเปล่า
เรากำลังอยู่ในยุคของ “Theatre of Hustle” — เวทีที่ใครแสดงความขยัน ความเก่ง ความน่าสนใจได้ดีกว่า ก็เหมือนได้เปรียบในการเข้าหาเงินทุน ความร่วมมือ และ media attention
แต่ความน่ากังวลก็คือ…
• “ภาพ” ที่ดูจริง อาจกลบ “เนื้อใน” ที่ยังไม่พร้อม
• “ความขยัน” ที่เห็น อาจเป็นแค่ performance
• และ “สตอรี่” ที่น่าตื่นเต้น อาจไม่มีแก่นจริงเลยก็ได้
🔍 5 มุมมองเชิงกลยุทธ์ ในการกรองสตาร์ทอัพ
1. ดู “ความชัด” ของปัญหาที่แก้ มากกว่า “ความฉูดฉาด” ของวิธีเล่า
• ทีมที่เก่งจริงจะพูดถึง Pain Point แบบ specific ชัดเจน รู้ลึกทั้ง emotional pain และ business pain เช่น “เจ้าของร้านอาหารต้องจ้างเด็ก 2 คนมาทำใบเสร็จ เพราะโปรแกรมเก่าช้า กดไม่ติด ไม่ตอบโจทย์ Cloud Kitchen”
• อย่าหลงกับคำว่า AI, Blockchain หรือ Buzzword ล้ำๆ ถ้าทีมตอบไม่ได้ว่าใช้สิ่งนี้เพื่ออะไร และลูกค้าจะจ่ายเพราะอะไร?
2. สังเกตว่าทีม “คลั่งลูกค้า” หรือ “คลั่งโปรดักต์ตัวเอง”
• ทีมจริงจะเอา feedback จากลูกค้ามาต่อยอดเสมอ แม้จะต้อง pivot
• ทีมลวงมักจะ defend ความคิดตัวเอง ไม่อยากปรับ แม้ลูกค้าจะไม่ใช้
• ให้ดูว่าเขาเคยเปลี่ยนอะไรจากเดิมเพราะเจอลูกค้าจริงหรือไม่?
3. ขอ Evidence-based Traction ไม่ใช่แค่ Vanity Metrics
• อย่าดูแค่จำนวน download หรือ follower ใน page
• ขอดู cohort retention, CAC/LTV, conversion rate หรือจุดที่พิสูจน์ PMF (Product-Market Fit) เช่น ลูกค้าจ่ายต่อเนื่องโดยไม่ต้องมีโปรโมชั่น
4. วัดความเข้าใจตลาดจริง ไม่ใช่แค่ copy idea จาก Silicon Valley
• ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม B2B ที่บอกว่าจะเป็น Shopify for Southeast Asia แต่ยังไม่มี supplier รายใหญ่ onboard หรือยังไม่เข้าใจว่าทำไมคนขายของต้องเปลี่ยนจากช่องทางเดิม
• สัมภาษณ์ทีมให้ลึกใน Pain Point ของผู้ใช้ไทย/อาเซียน แล้วคุณจะรู้ว่าทีมไหนทำการบ้านมาจริง
5. พิจารณา Team Dynamics และ Execution Speed
• ดูว่าในทีมมีความ complement กันไหม เช่น มีคนทำ Business, Tech, Ops ครบ ไม่ใช่ทุกคนจบวิศวะแต่ไม่มีใครเคยขายของจริง
• ลองตั้งโจทย์ให้ทีมทำอะไรเร็วๆ เช่น prototype ภายใน 2 สัปดาห์ แล้วดูว่าทำจริง หรือแค่พูดสวย
• ทีมที่เร็ว ไม่ใช่เพราะรีบ แต่เพราะลงมือมาเยอะจนรู้ว่าต้องโฟกัสอะไร?
🧠 ดังนั้น “ความสามารถที่แท้ ไม่ได้อยู่ใน slide นำเสนอ”
องค์กรที่จะไปร่วมลงทุนหรือ co-create กับสตาร์ทอัพในยุคนี้ ต้องเปลี่ยนจากการ "ดูการแสดง" มาเป็น "ดูการกระทำ"
สิ่งที่ต้องถามไม่ใช่แค่ “เล่าเก่งแค่ไหน”
แต่คือ “สร้างคุณค่าจริงได้หรือยัง?”
เราไม่ได้ต้องการ “คนพูดเก่ง”
แต่เราต้องการ “คนที่สร้างของจริง แล้วลูกค้าใช้ซ้ำ”
และจุดตัดสินอาจไม่ใช่บนเวที pitch
แต่คือหลังบ้าน ที่ลูกค้า feedback มาเงียบๆ ว่า
“ผมใช้อันนี้ทุกวันครับ”
นั่นแหละคือ คนจริง 🙌
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#Startup
#BullshitDetector
#SignalVsNoise
#ExecutionIsEverything
#Traction
#สตาร์ทอัพ
#วัฒนธรรมองค์กร
โฆษณา